“ยามาฮ่า” ค่ายจักรยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เปิดตัวทีมแข่งลุยศึกโมโตจีพี 2025 อย่างเป็นทางการ ด้วยนักบิดทั้งสิ้น 4 คน นำโดย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ อเล็กซ์ รินส์ ในสังกัด มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพีทีม รวมถึง มิเกล โอลิเวียร่า และ แจ็ค มิลเลอร์ ภายใต้สังกัด พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี ซึ่งทั้ง 4 คนจะใช้รถแข่ง YZR-M1 เวอร์ชันปี 2025 ขณะเดียวกันยังขยายความร่วมมือเปิดตัวทีมแข่งโมโตทู ภายใต้ชื่อ “บลู ครู พรามัค ยามาฮ่า โมโตทู” เพื่อพัฒนานักบิดดาวรุ่งสู่พรีเมียร์คลาสในอนาคต
การเปิดตัวดังกล่าวมีขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ของประเทศมาเลเซีย ท่ามกลางการติดตามของแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก ถึงโปรเจ็กต์สำคัญของยามาฮ่า ในการคัมแบ็กสู่ทีมระดับท็อปของโมโตจีพี ให้ได้อีกครั้ง โดยปีนี้จะใช้รถแข่ง YZR-M1 สเปคโรงงานทั้ง 4 คัน ภายใต้การบริหารของ เปาโล พาเวสซิโอ ผู้อำนวยการ ยามาฮ่า มอเตอร์ เรซซิ่ง คนใหม่
โดยทีมโรงงาน มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี จะนำโดยผู้อำนวยการทีมอย่าง มัสสิโม เมเรกัลลี ขณะที่นักบิดจะยังคงใช้บริการแชมป์โลก 1 สมัยชาวฝรั่งเศสอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร เจ้าของหมายเลข 20 และทีมเมทชาวสแปนิช อเล็กซ์ รินส์ หมายเลข 42
ส่วนทีมอิสระอย่าง พรีม่า พรามัค ยามาฮ่า โมโตจีพี จะใช้บริการนักบิดมากประสบการณ์ 2 คน อย่าง แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดออสเตรเลียนเจ้าของหมายเลข 43 และทีมเมทชาวโปรตุกีส มิเกล โอลิเวียร่า หมายเลข 88 โดยทั้งคู่เซ็นสัญญาตรงกับ ยามาฮ่า และจะได้รับการสนับสนุนชิ้นส่วนรถแข่งอย่างเท่าเทียมกันกับ 2 นักบิดทีมโรงงาน
นอกจากนี้ ยามาฮ่า ยังขยายความร่วมมือกับ พรามัค เรซซิ่ง ด้วยการเปิดตัวทีมแข่ง บลู ครู พรามัค ยามาฮ่า โมโตทู เพื่อปูทางนักบิดดาวรุ่งป้อนสู่ โมโตจีพี ในอนาคต นำโดย โทนี อาร์โบลิโน นักบิดอิตาเลียนหมายเลข 14 และทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อิซาน เกวาร่า หมายเลข 28 ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซ์ ดิ อังเจลิส อดีตนักบิดเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ขณะเดียวกันยังยืนยันใช้เฟรมบอสกอสคูโร ซึ่งคว้าแชมป์โลกโมโตทู ในปีที่ผ่านมาด้วย
ทั้งนี้ นักบิดโมโตจีพีของ ยามาฮ่า ทั้ง 4 คน มีคิวลงเทสต์รถแข่ง YZR-M1 ต้นแบบตัวใหม่ร่วมกับทีมทดสอบใน เชคดาวน์ เทสต์ ในวันที่ 1-2 ก.พ. ที่เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะเข้าสู่โปรแกรม “ออฟฟิเชียล เทสต์” ระหว่างวันที่ 5-7 ก.พ. จากนั้นจะเดินทางมาทดสอบที่เมืองไทย ระหว่างวันที่ 12-13 ก.พ. และดวลสนามแรกของฤดูกาลระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์