“อิ๊งค์” ปาฐกถาพิเศษ ปลุกพลังหญิงขับเคลื่อนประเทศ ชี้ “ อุดมการณ์-ความสามารถ-ทุ่มเททำงาน” เป็นมาตรวัดคุณภาพ“ ลั่น เพศ-อายุ-การแต่งกาย” แค่รูปลักษณ์ ไม่ใช่ตัวชี้วัดผลงาน แนะ เด็กไทย รู้คุณค่าในตัวเอง ชู “ครัวไทย,วัฒนธรรมไทย,อุตสาหกรรมอนาคต ดึงรายได้เข้าประเทศ ด้าน “เศรษฐา” โพสต์ส่งกำลังใจ “นายกฯก็มีหัวใจ”

เมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ TRUE ICON HALL ศูนย์การค้า ICON SIAM นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Go Thailand 2025 : Women Run the World” 45 ปี ฐานเศรษฐกิจ ว่า ซีอีโอผู้หญิงของไทยมีมากเป็นอันดับ 3 ของโลก และบริษัทของตนก็เป็นหนึ่งในนั้น ได้รับตอบรับว่าผู้หญิงเป็นที่ยอมรับอย่างมาก หลายคนเป็นผู้หญิงเก่ง ที่ทำผลงานให้ประเทศมากและต่อเนื่อง แต่ผู้หญิงที่อยู่ในภาครัฐยังมีไม่มาก แม้แต่ในครม.ที่มีเยอะในประวัติศาสตร์ไทย แต่ก็ยังไม่เยอะเมื่อเทียบเท่ากับประเทศอื่น อาชีพต่างๆ ไม่จำเป็นต้องจำกัดเพศ หรือเพศสภาพ ถ้ามีอุดมการณ์ มีความคิด มีความพร้อมช่วยผลักดันเรื่องนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยภาครัฐและภาคเอกชน ดีใจมากที่อย่างน้อยประเทศเราเปิดรับ เช่น สมรสเท่าเทียมในฐานะนายกรัฐมนตรี รู้สึกภาคภูมิใจมากที่เป็นนายกฯในประเทศที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน และเป็นเครื่องหมาย ที่ให้คนเท่าเทียมดูแลประชาชนทุกเพศสภาพเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจสำหรับคนไทย

นายกฯ กล่าวว่า ในฐานะคุณแม่ ลูกสาว ภรรยามีหลายบทบาทและเป็นหนึ่งในคนที่ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในครอบครัวและลูก จึงต้องเข้าใจโลกแบบเข้มแข็งไม่ใช่แบบฝืนธรรมชาติ การเข้ามายืนอยู่ตรงนี้ด้วยความเป็นผู้หญิง โดนปรามาสมากมายไม่ว่าจะเป็นอายุน้อย หรืออะไรก็ตาม และผู้หญิงมีปัจจัยเสื้อผ้า หน้า ผม อะไรอีกมากมาย แต่ตรงนี้ไม่ใช่มาตรวัดความรู้ความสามารถของเพศใด และไม่ใช่สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนนั้นมีความสามารถที่เพียงพอหรือไม่ เพราะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกและความชอบและความมั่นใจของแต่ละคน

ตนสอนลูกตัวเอง อยากให้มีความมั่นใจ เห็นคุณค่าของตัวเอง และทราบว่าคุณค่าของเขาอยู่ที่ตัวของ การที่เติบโตขึ้นมาอยู่บนพื้นฐานที่จะรักตัวเองมากพอ จะส่งต่อความรักให้คนอื่นได้ ถ้ายังรักและชอบตัวเองไม่มากพอ ก็ไม่มีแรงไปรักหรือชอบคนอื่นได้

“อยากให้ผู้หญิงทุกคนมั่นใจว่าเมื่ออยู่ในตำแหน่งใด เรามีความรู้ความสามารถ เราเตรียมตัวและตั้งใจทำงาน นั่นคือมาตรวัดของเราว่าเต็มที่ในหน้าที่การงานของเราหรือไม่ นี่คือสิ่งสำคัญ เรื่องภายนอกเป็นเรื่องภายนอก ไม่ใช่มาตรวัดความสามารถของเรา การที่เราเป็นผู้หญิง หรือเป็นเพศใดก็ตาม มีความเท่าเทียม มีความเป็นมนุษย์ มีแรงและพลังในการผลักดันประเทศเหมือนกัน อยู่ที่ใจ อยู่ที่เวลาอยู่ที่การจัดสรร ว่าเราจะสามารถช่วยเหลือประเทศด้านไหนบ้าง เด็กนักเรียนอาจจะคิดว่าเป็นมนุษย์ตัวเล็กๆไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ซึ่งไม่จริงถ้าน้องที่นั่งอยู่ เลือกอนาคตของตัวเองให้ดี เลือกในสิ่งที่ถูกและโตขึ้นมาเป็นคนคุณภาพช่วยกันผลักดันประเทศจากหน่วยเล็ก หมู่บ้านจังหวัด ประเทศ ไปถึงระดับโลก นั่นคือความเปลี่ยนแปลงเล็กๆที่สามารถเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ รัฐบาลมองเห็นและเชื่อว่าเด็กไทยของเรา มีศักยภาพมาก รอแค่โอกาสที่ดีเท่านั้น” นายกฯกล่าว

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขอแชร์ในเรื่องที่ทำเพื่ออัพเดทให้คนไทยได้ฟังในโอกาสที่ไปแสดงวิสัยทัศน์ประเทศไทยในหลายเวที ล่าสุด เวที World Economic Forum พบปะผู้นำทั่วโลกทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และซีอีโอ บริษัทชั้นนำเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยที่ได้พูดคุยกับบุคคลเหล่านั้น ที่มีส่วนสำคัญทำให้โลกขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างแข็งแรง เมื่อคนเหล่านั้นมารวมตัวกันได้พูดคุยกัน ได้เกิดกิจกรรมและเกิดนโยบาย เกิดการกระตุ้นหลายอย่าง สิ่งที่ตนได้พกไปพูดคุยซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก 3 เรื่อง คือการเป็นครัวโลกของประเทศไทย โดยทั่วโลกยอมรับว่าเรามีทรัพยากร พืชผลการเกษตรที่ดีมาก อุดมสมบูรณ์ เป็นสิ่งที่คนรู้จักทั่วโลก บางคนไม่เคยไปประเทศไทยแต่เคยทานอาหารไทย ฝรั่งรู้จักเราโดยที่ไม่ต้องแนะนำตัวเองเรียกว่าเป็นซอฟพาวเวอร์ ที่ผลักดัน ประเทศทั่วโลกยอมรับความเป็นไทยและหลงรักความเป็นไทยอย่างที่ไม่ต้องพยายาม และเป็นสิ่งที่รัฐบาลนำไปต่อยอด คือ ความมั่นคงทางด้านอาหารอาหาร เป็นสิ่งที่หาง่ายในประเทศเรา แต่สำหรับประเทศอื่นเป็นสิ่งที่หาไม่ได้เลยหรือไม่สามารถเก็บได้เป็นเวลานาน เมื่อเราได้ไปนำเสนอนวัตกรรมว่าสามารถเก็บวัตถุดิบและพืชผลให้อยู่นานได้ หากบางประเทศเกิดความไม่สงบสุขเรื่องอาหารจะหายาก เราสามารถที่จะเก็บอาหารให้และส่งถึงทันทีได้ภายในเวลาอันสั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลนำเสนอไปและทุกที่ชื่นชม อยากเข้ามาทำงานกับเรา โดยเราถือตลาดนำนวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพื่อส่งเสริมเกษตรกรให้คนไทยโดยใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยเพื่อให้สิ่งเหล่านั้นกระจายไปได้ทั่วโลก เนื่องจากการเก็บวัตถุดิบอาจเก็บในระยะเวลาสั้นไม่สามารถกระจายได้นวัตกรรมจะเข้ามาช่วยและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนคนไทยในภาคการเกษตร

นอกจากนั้นเกษตรกรสามารถปรับตัวท่ามกลางสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงโดยใช้นวัตกรรมโดยให้พืชผลเกษตรมีคุณภาพเพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลพยายามเติมเต็มเทคโนโลยีมาเพิ่ม หลายครั้งที่ไปประชุมต่างประเทศพบผู้นำจำนวนมากเช่น เรื่องฝุ่นที่ไม่ใช่วาระ แห่งชาติแต่เป็นวาระอาเซียนเนื่องจากอาเซียนกังวลเรื่องนี้เรื่องนี้และคุยเรื่องนวัตกรรมที่จะมาช่วยลดฝุ่นPM 2.5 โดยประเทศเพื่อนบ้านก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเรา ดังนั้นการร่วมมือจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เรื่องที่สอง คือ พัฒนา วัฒนธรรมไทย ให้สร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น วัฒนธรรมของเราต่างชาติชอบและชื่นชมคนไทย มีรอยยิ้มและบริการดีมาก เมื่อไปแข่งกับเขาจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ต่างชาติมาสนใจประเทศไทย และเราสร้างรายได้ให้คนไทยเพิ่มขึ้นจากการสร้างเสน่ห์ของไทยในการจัดเทศกาลให้มีตลอดทุกเดือนตลอดปี ไม่เฉพาะช่วงไฮซีซั่นหรือสงกรานต์ 3-5 วันแล้วจบแต่จะขยายในทุกวันของเดือนเม.ย.ให้เป็นเทศกาลได้ จะได้มีคนมาอยู่มานานขึ้น สร้างรายได้ให้จังหวัดนั้นมากขึ้น โดยรัฐบาลพยายามผลักดันตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มาจนถึงรัฐบาลนี้

นอกจากนั้นความสวยงามของไทย ทั้งทางภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ทุกภาคมีข้อดีของตัวเอง ไม่ใช่แค่เมืองหลักแต่เมืองรองแข็งแรงเช่นกัน เมื่อเราต้องการกระตุ้นจีดีพีมากขึ้น สิ่งที่อยู่แล้วที่เห็นทุกวันอาจจะไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด วันนี้จีดีพีโตช้ากว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะสร้างขึ้นมาได้เพื่อจะกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวม เช่น การเสนอเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ การบริการสุขภาพ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเหล่านี้จากผลักดันจีดีพีให้ก้าวกระโดดไม่ใช่โตเท่าเดิม เราจะมองไปถึงอุตสาหกรรมอนาคต ดาต้าเซ็นเตอร์ ที่พยายามจะดึงเข้าประเทศ

และต้องเน้นย้ำเรื่องอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมถึงเรื่องพลังงานที่ถูกใช้ไปมาก จึงต้องกลับมาดูเรื่องต้นทุนด้วยของพลังงานให้สามารถแข่งขันได้หากต้นทุนของเราสามารถแข่งขันได้เราจะไม่เสียเปรียบกับประเทศอื่น เราเน้นย้ำในเรื่องเหล่านี้อย่างมาก และเน้นพลังงานสีเขียว ที่ทุกชาติพูดถึงเรื่องนี้โดยทำให้อุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่เพิ่มภาวะโลกร้อน และสนับสนุนการเร่งลงทุนอุตสาหกรรมเหล่านี้ และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านและความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 2050 ซึ่งเรามีการตกลงกับประเทศเพื่อนบ้านและทั่วโลกว่าเราจะรับอุตสาหกรรมในอนาคตแต่ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเรื่องของคน ที่สำคัญมากตามที่กล่าวไว้ในทุกเวที

โดยเฉพาะเรื่อง ODOS หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ที่ต้องเตรียมคนไว้สำหรับอุตสาหกรรมอนาคต 10 -20 ปีข้างหน้า แต่มีคำถามว่าแล้วไม่มีการเตรียมไว้ ต้องบอกว่าเรามีทางลัด เช่น การคุยกับกูเกิล ที่จะมาลงทุนต้องให้คนของเขามาเทรนคนของเรา ให้พร้อมสำหรับการทำงาน โดยไม่ต้องไปหาแรงงานจากที่อื่นโดยหวังให้เป็นโอกาสของคนไทยและเด็กไทย ที่ต้องมอบให้เขา บางทีอุปกรณ์การเรียนการศึกษาไม่พอและไม่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมแห่งอนาคตจึงต้องปรับปรุงและช่วยกันทั้งหมด ไม่เฉพาะกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่ทุกกระทรวงต้องวางแผนร่วมกันเตรียมคนแห่งอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษของ นางสาวแพทองธาร นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความทางแอพพลิเคชั่น X ให้กำลังใจนายกฯว่า “สั้นๆ ได้ใจความนายกฯ ก็มีหัวใจ“