‘พิพัฒน์’ คุยข้ามทวีป 5 แรงงานในอิสราเอล ขณะประชุมผู้บริหารกระทรวงประจำเดือน เผย ทุกคนสุขภาพแข็งแรงดี ได้กินตำปลาร้าแล้ว คาดออกจาก รพ.11 ก.พ.นี้
วันที่ 3 ก.พ.2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต่อสายตรงวิดีโอคอลกับ 5 แรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัวในอิสราเอลไปยัง รพ. Shamir Medical Center ประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นสถานที่ที่แรงงานไทยพักรักษาตัวอยู่หลังการได้รับการปล่อยตัว ในระหว่างการประชุมผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุมที่กระทรวงแรงงาน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนและผู้บริหารกระทรวงแรงงานขอแสดงความยินดีและขอต้อนรับแรงงานไทยทั้ง 5 คน ได้แก่ นายวัชระ ศรีอ้วน จ.อุดรธานี นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา จ.บุรีรัมย์ นายเสถียร สุวรรณคำ จ.หนองบัวลำภู นายสุระศักดิ์ ลำเนา จ.อุดรธานี และนายบรรณวัชร แซ่ท้าว จ.น่าน ที่ได้รับการปล่อยตัวกลับสู่อ้อมกอดของประเทศไทย กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวที่แสนอบอุ่นของพวกเรา ซึ่งพ่อแม่ ญาติพี่น้องครอบครัว และลูกๆ คงคิดถึงพวกเราอย่างมาก และเชื่อว่าคนไทยทุกคนคงเป็นห่วงพวกเราทุกคนเช่นกัน
“ซึ่งถ้าทราบว่าทั้ง 5 ท่านได้กลับมาเมื่อไหร่ ผมพร้อมด้วย ปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงานจะไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ พวกเราชาวกระทรวงแรงงานขอให้กำลังใจและเป็นกำลังใจ หากมีอะไรที่กระทรวงแรงงานสามารถดูแลรับใช้ได้ก็ขอให้อย่าได้เกรงใจ และฝากท่านทูตแรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ดูแลพวกเราทั้ง 5 คนให้เป็นอย่างดี” นายพิพัฒน์ กล่าว
โดยระหว่างการสนทนาช่วงหนึ่ง นายพิพัฒน์ ได้ถามถึงแรงงานไทยทั้ง 5 คนว่าได้รับประทานส้มตำปลาร้าแล้วหรือยัง เพราะส้มตำเป็นอาหารที่พวกเราคนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยแรงงานไทยได้สนทนาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข และตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้รับประทานส้มตำปลาร้าแล้วและอร่อยมาก ทั้งนี้ คาดว่าแรงงานไทยทั้ง 5 คน ออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 11 ก.พ.นี้ เพื่อเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป
ด้าน นายสุรศักดิ์ ลำเนา และนายพงศักดิ์ แทนนา ได้เป็นตัวแทนกล่าวขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและทุกหน่วยงานที่ให้กำลังใจและเป็นห่วงตนและเพื่อนๆ ทั้ง 5 คน ที่ทางการไทยและอิสราเอลที่ให้การดูแลเป็นอย่างดีหลังจากได้รับการปล่อยตัวออกมา
ทั้งนี้ จากรายงานของฝ่ายแรงงานฯ ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์เงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอลที่แรงงานทั้ง 5 คนจะได้รับ โดยทางการอิสราเอลจะออกเอกสารรับรองตัวประกันที่ถูกปล่อยตัว และจะจ่ายเงินชดเชย ดังนี้
1. บัตรเงินสด จำนวน 10,000 เชคเกล โอนเงินเข้าบัญชี 50,000 เชคเกล 2. เงินช่วยเหลือรายเดือน จนถึงอายุ 67 ปี จ่ายเงินชดเชยรายเดือน 3,300 เชคเกลต่อเดือน อายุ 67 – 80 ปี จ่ายเงินชดเชยรายปี 39,000 เชคเกล และการจ่ายเมื่ออายุ 80 ปีขึ้นไป จ่ายเงิยชดเชยรายปี 49,000 เชคเกล
โดยในเดือนแรกนี้แรงงานไทยทั้ง 5 คน จะได้รับเงินชดเชยประมาณคนละ 60,000 เชคเกล หรือประมาณ 600,000 บาท