เผยข้อมูลร.ร.ร้างไร้เด็กกว่า346แห่ง แจ้งปิดแล้ว75โรงเรียน-ศธ.เร่งควบรวม
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า การควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กเข้าด้วยกันเป็นแนวคิดหนึ่ง ซึ่งศธ.พยายามดำเนินการมาโดยตลอด แต่สิ่งสำคัญคือ การควบรวมโรงเรียนตามกฎหมาย ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจของผู้ปกครองและชุมชน และจะต้องไม่เป็นภาระกับผู้ปกครอง และเด็กนักเรียน เพราะในบางครั้งการควบรวมโรงเรียนก็อาจจะก่อให้เกิดภาระในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น โดยหากยังมีการคัดค้านก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ในส่วนของศธ. มีนโยบายสนับสนุนการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กอยู่แล้ว เพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรรวมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด
นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ บางโรงเรียนที่มีการควบรวมไปแล้ว ศธ.จะให้งบอุดหนุนค่าเดินทางให้กับผู้ปกครอง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ ซึ่งที่ผ่านมามีโรงเรียนขนาดเล็กหลายแห่งที่ปิดตัวลง ทั้งในรูปแบบปิดโดยอัตโนมัติและปิดด้วยความสมัครใจ ส่วนโรงเรียนขนาดเล็กที่ไม่สามารถควบรวมได้ ก็มีมาตรการยกระดับคุณภาพ เช่น โครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์หรือ DLTV รวมไปถึงการเชิญชวนโรงเรียนเหล่านั้นให้ทำหลักสูตรที่เหมาะสมกับบริบทชุมชน เป็นต้น ปัจจุบันโรงเรียนที่ดำเนินการควบรวมได้ถือว่ามีเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยตั้งเป้าจะควบรวมโรงเรียนกว่าหมื่นแห่งทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ข้อมูลล่าสุดวันที่ 14 มกราคม ดังนี้ ปัจจุบันมีโรงเรียนขนาดเล็กคงเหลือ 15,234 แห่ง จากโรงเรียนทั้งหมด 29,082 แห่ง โรงเรียนขนาดเล็กที่ประกาศปิดสถานศึกษาสะสม 75 แห่ง โดยปี 2568 มีโรงเรียนขนาดเล็กที่รอประกาศเลิกสถานศึกษา จำนวน 26 แห่ง และจากการสำรวจข้อมูลบุคลากร การใช้พื้นที่และสาเหตุที่ไม่สามารถเลิกสถานศึกษาได้ พบว่า มีโรงเรียนที่ไม่มีนักเรียนแล้วหรือมีนักเรียน 0 คน จำนวน 346 แห่ง ใน 93 เขตพื้นที่ฯ แบ่งเป็นโรงเรียนที่ไม่มีผู้อำนวยการโรงเรียน/ไม่มีกรอบอัตรากำลัง 301 แห่ง มีผู้อำนวยการโรงเรียนแต่ไปช่วยราชการโรงเรียนอื่น 4 แห่ง มีกรอบอัตรากำลัง/อัตราเงินเดือนแต่ไม่มีคนครอง 41 แห่ง ไม่มีข้าราชการครู/ไม่มีกรอบอัตรา 259 แห่ง มีข้าราชการครูแต่ไปช่วยราชการโรงเรียนอื่น 82 แห่ง มีกรอบ/อัตราเงินเดือน แต่ไม่มีครครอง 5 แห่ง
