หลายปีที่ผ่านมาเหล่าโอเปอเรเตอร์พยายามปรับกลยุทธ์ให้เป็นมากกว่าผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือมีการจับมือกับพาร์ตเนอร์เพื่อเพิ่มพอร์ตสินค้า และบริการให้ครอบคลุมอีโคซิสเต็มในการดำเนินชีวิตจนเข้าใกล้ความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์มากขึ้นเรื่อย ๆ

ในฝั่งของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS ก็มีความพยายามพลิกโฉม “AIS Shop” จากความคุ้นเคยของคนที่มองว่าเป็นเพียง “Operator Shop” หรือร้านขายบริการมือถือ ให้เป็น “Technology Shop” ที่มีแก็ดเจตหลากหลายหมวดหมู่ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม

“ศรัณย์ ผโลประการ” หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า ที่ผ่านมา AIS เริ่มนำสินค้าในหมวดหมู่อื่น ๆ มาขายมากขึ้น เพื่อเปิดตลาดและสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ ๆ แต่ก็ยังรายล้อมและเกาะเกี่ยวไปกับธุรกิจมือถือ

“ธุรกิจของ AIS ไม่ได้มีแต่ฝั่งสื่อสารและโทรคมนาคม แต่ยังมีฝั่งรีเทลที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก ด้วยความที่ AIS Shop ตั้งอยู่ใน Prime Location คิดว่าเราน่าจะเพิ่มรายได้จากสินค้าหมวดหมู่อื่นได้ หรือเวลาคนมาซื้อมือถือที่ช็อปของ AIS แต่ต้องไปซื้อแก็ดเจตที่ร้านอื่น ก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่สูญเสียไป”

ในงาน Thailand Mobile Expo 2025 เมื่อวันที่ 30 ม.ค.-2 ก.พ. ที่ผ่านมา AIS ชูกลุ่มสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารายเซ็กเมนต์ เช่น AIS Cloud PC แอปคอมบนคลาวด์ เปลี่ยนแท็บเลตให้เป็นคอมพิวเตอร์พกพา สำหรับวัยเรียน-วัยทำงาน เริ่มต้นเดือนละ 299 บาท

“การนำ Cloud PC เข้ามาขาย ไม่ได้เป็นการดิสรัปต์หรือชิงแชร์จากกลุ่มดีไวซ์ แต่เป็นการเปิดตลาดสำหรับลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบาย พกดีไวซ์เครื่องเดียวก็สามารถใช้ทำงานได้อย่างราบรื่น”

หลังจบงาน AIS จะเริ่มนำโดรนพับได้ รุ่นท็อป “HOVERAir X1 Pro Max” มาวางขายใน AIS Shop เป็นครั้งแรก เพื่อเจาะกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว และครีเอเตอร์ที่ต้องการภาพ และวิดีโอคุณภาพสูงไปทำคอนเทนต์ต่อ

สำหรับแผนการวางจำหน่ายโดรนในช่วงแรก จะโฟกัสที่เมืองท่องเที่ยวในจังหวัดต่าง ๆ เป็นหลัก และวางจำหน่ายในกรุงเทพฯ 2 สาขา คือ Flagship Store ที่สยามเซ็นเตอร์ และเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนขยายไปยังสาขาอื่น ๆ ตามกระแสตอบรับของลูกค้า

“ศรัณย์” กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันสาขาของ AIS Shop และร้าน Telewiz มีรวมกันประมาณ 600 สาขาทั่วประเทศ เป็นสาขาในกรุงเทพฯประมาณ 100 แห่ง ที่เหลือเป็นต่างจังหวัด ซึ่งจุดแข็งของ AIS Shop คือ การขายสินค้าตัวท็อป หรือรุ่นแฟลกชิป

“ความต่างในเชิงของการวางกลยุทธ์ AIS Shop ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จะขึ้นอยู่กับลักษณะการจับจ่ายของผู้บริโภค โดยผู้บริโภคในกรุงเทพฯมีความพร้อมในการซื้อสินค้ารุ่นท็อปอยู่แล้ว ส่วนสินค้า Midtier จะขายดีในต่างจังหวัด อีกทั้งยังต้องมีทางเลือกเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงินซัพพอร์ตผู้บริโภคด้วย ซึ่งการนำสินค้าไปขายในแต่ละพื้นที่ต้องดูจากหลายปัจจัยประกอบกัน”

ปัจจุบัน AIS มีฐานลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมอยู่ที่ 46.3 ล้านเลขหมาย (ณ ไตรมาส 3/2567) เพิ่มขึ้นสุทธิ 613,100 เลขหมาย จากการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการระบบเติมเงิน ทั้งในกลุ่มลูกค้าในประเทศ นักท่องเที่ยว และแรงงานข้ามชาติ โดยผู้ใช้บริการรายเดือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 117,800 เลขหมาย

สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว ส่งผลให้ ARPU เฉลี่ยอยู่ที่ 223 บาท/เลขหมาย/เดือน โตขึ้นร้อยละ 3.0 จากปีก่อน ซึ่ง ARPU ระบบเติมเงินทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนจากปัจจัยตามฤดูกาล ขณะที่ระบบรายเดือนลดลงเล็กน้อย จากการปรับกลยุทธ์ส่วนลดค่าเครื่อง และรายได้บริการโรมมิ่งที่ลดลงจากไตรมาสก่อน

โดยผู้ใช้งาน 5G เพิ่มขึ้นเป็น 11.5 ล้านเลขหมาย เติบโต 35% จากไตรมาส 3 ปีก่อน ส่วนธุรกิจบรอดแบนด์ มีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ภายใต้ AIS 3BB FIBRE3 ที่ 4.94 ล้านราย เติบโตขึ้น 62,900 ราย ARPU เพิ่มเป็น 505 บาท/เลขหมาย/เดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 จากไตรมาสก่อน จากการนำเสนอสินค้านวัตกรรมและให้บริการที่มีมูลค่าสูงด้วยการขายพ่วงบริการคอนเทนต์