วิโรจน์ ร่ายยิบฉะกต. ไม่ใส่ใจช่วย 4 ลูกเรือประมง ถามทิ้งเบอร์ฮอตไลน์ได้ไง ทำไมไม่มีคนประสานญาติ
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร ได้โพสต์ภาพและข้อความ เรื่อง กระทรวงการต่างประเทศ ต้องเปลี่ยนวิธีคิดของตนเอง โดยด่วนที่สุด ผ่านเฟซบุ๊กกรณีที่ช่วย 4 ลูกเรือประมงไทย โดยมีเนื้อหาดังนี้
ย่อหน้าสุดท้ายของผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ ผมรู้สึกผิดหวังอย่างมาก
กระบวนการที่ต้องดำเนินการ ที่เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นแบบทางการ หรือไม่เป็นทางการ ก็ดำเนินการกันไป นั่นเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ แต่ประเด็นที่ กระทรวงการต่างประเทศ ทำได้แย่มากๆ แย่จริงๆ และต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วน ก็คือ การประสานกับญาติของลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 ชีวิต รวมถึงการประสานกันภายใน ระหว่างกระทรวงกับต่างประเทศ และ TBC ไทย ที่ไม่ทราบความคิบหน้าอะไรเท่าไรนัก ทำให้ไม่สามารถสนับสนุนการทำงานในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่
กระทรวงการต่างประเทศ ไม่มีการมอบหมายให้มีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรงเป็น Point of Contact กับญาติของลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 ครอบครัวได้อย่างไร จริงๆ แล้วการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งเป็นผู้ประสานงานหลักกับญาติของลูกเรือประมงไทย ยังจะช่วยให้การสื่อสารข้อมูล ถูกสื่อสารผ่านช่องทางเดียว ซึ่งจะทำให้กระทรวงการต่างประเทศควบคุมข้อเท็จจริง และสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ปล่อยให้มีการพิพากษาในวันที่ 16 ธ.ค.67 โดยที่กระทรงการต่างประเทศไม่ทราบล่วงหน้าได้อย่างไร
ปล่อยให้นายกฯ และรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงแถลงต่อสาธารณะว่าจะมีการปล่อยตัวในวันที่ 4 ม.ค.68 ทั้งๆ ที่ไม่มีเอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการ ได้อย่างไร
ปล่อยให้รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงให้สัมถาษณ์ในลักษณะยอมรับว่าเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเขา ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการตรวจสอบพิกัดที่ชัดเจนได้อย่างไร
วันที่ 16 ธ.ค.67 กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ติดตามเลยหรือว่า จะมีการพิพากษาที่ศาลจังหวัดเกาะสอง ซึ่งถ้าเราไม่ติดตาม เขาก็ไม่แจ้งอยู่แล้ว สุดท้ายเลยไม่สามารถจัดหาทนายความที่ลูกเรือประมงไทยไว้วางใจ ให้มาช่วยดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมได้
ขาดการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ TBC ไทย ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ TBC ไทย สามารถช่วยประสานในพื้นที่ได้อย่างดีมากๆ แจ้งล่าม ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่ไม่แจ้งให้ TBC ไทยให้ทราบ แบบนี้ไม่แปลกหรือครับ
กล้าบอกกับเจ้าหน้าที่ของ กมธ.ทหาร ได้อย่างไร ว่ามีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศติดต่อญาติไปแล้ว จนญาติที่อยู่กับ กมธ.ทหาร ยืนยันพร้อมๆ กันว่า ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศคนใดติดต่อมาเลย
ย่อหน้าสุดท้าย แทนที่กระทรวงการต่างประเทศ จะขอเบอร์โทรศัพท์ของญาติของลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 ครอบครัว แล้วมอบหมายให้มีเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่ง รับผิดชอบคอยประสานความคืบหน้ากับญาติของลูกเรือประมงไทยเป็นระยะๆ เพื่อให้เขามั่นใจว่า พวกเขาไม่ถูกทอดทิ้ง เวลามีข้อสงสัยอะไร จะได้นึกออกว่าควรจะต้องโทรไปถามใคร
แต่กระทรวงการต่างประเทศ กลับมีแนวคิดที่ให้ญาติของลูกเรือประมงไทย คอยโทรศัพท์เข้ามาที่สาย Hotline แทน
แทนที่จะโทรไปหาเขา กลับบอกว่าถ้าอยากให้ประสานอะไร ก็ให้โทรเข้าเบอร์ Hotline มาเองก็แล้วกัน กระทรวงการต่างประเทศไม่รู้เหรอครับว่า คนเราเวลามืดแปดด้าน มันนึกไม่ออกเลยว่าจะถามอะไร จะขอข้อมูลอะไร กระทรวงการต่างประเทศต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายประสานมาทางเขา เพื่อแจ้งข้อเท็จจริง บอกเล่าถึงความคืบหน้า บอกให้เขารู้ว่ากระทรวงการต่างประเทศช่วยเหลืออะไรเขาได้บ้าง และเขาต้องทำอย่างไร ใช้เอกสารอะไร มีขั้นตอนอย่างไร ต้องประสานมาที่ไหน ให้รู้ว่าเวลาที่เขาสงสัยอะไร หรือร้อนใจเรื่องอะไร จะโทรหาใครได้
วิธีคิดแบบที่กระทรวงการต่างประเทศเป็นอยู่นี่ล่ะครับ ที่เป็นปัญหาอย่างมาก กระทรวงการต่างประเทศต้องเลิกวิธีคิดแบบเจ้าขุนมูลนาย ในลักษณะที่มองตัวเองเป็น “เจ้านาย” ที่ถ้าประชาชนต้องการรู้อะไร ต้องการให้ช่วยอะไร ก็ให้อ้อนวอนร้องขอเข้ามาเองสิ ติดต่อฉันมาสิ ฉันไม่ติดต่ออะไรเธอไปก่อนหรอกนะ
กระทรวงการต่างประเทศ ต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากกว่านี้ หรือที่เรียกว่า มี Empathy ต้องคิดว่าลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 ชีวิต ที่แต่ละคนก็อายุ 60 ปีขึ้นไปแล้วทั้งนั้น เป็นเหมือนพ่อของตัวเอง ถ้าคิดแบบนี้ ก็จะจินตนาการออกว่าตนเองควรต้องทำอะไรที่เป็นเชิงรุก และมีจิตบริการที่มากกว่าที่เป็นอยู่
ผมอยากบอกให้คุณมาริษ ในฐานะ รมว.ต่างประเทศ ทราบจริงๆ นะครับว่า ทาง คุณวรรณทกานต์ พรหมนิมิตร ลูกสาวของคุณถาวร พรหมนิมิตร คุณกมลชนก และคุณจินตนา มงกุฎทอง และลูกสาวทั้งสองคน และภรรยา ของคุณสุนันท์ มงกุฎทอง บอกต่อที่ประชุมที่ศาลากลาง จ.ระนอง ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 อย่างชัดเจนว่า ที่ผ่านมาไม่มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศคนใดติดต่อมาที่พวกเขาเลย ไม่เคยมีใครจากกระทรวงการต่างประเทศโทรมาแจ้งความคืบหน้า หรือแนะนำอะไรให้กับพวกเขาเลย ว่าเขาต้องทำอย่างไรบ้าง ต้องรอกระบวนการอะไรต่อไปจากนี้ ไม่มีเลยจริงๆ เหมือนพวกเขาไม่มีตัวตน จนพวกเขาต้องดิ้นรนติดต่อคนนั้นคนนี้กันเองตามมีตามเกิด ถ้าอย่างนี้แล้วกระทรวงการต่างประเทศยังมองไม่เห็นปัญหาของตัวเอง ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้วครับ
วิธีคิดที่เป็นปัญหาในลักษณะนี้ของกระทรวงการต่างประเทศ ผมจะนำเข้าไปหารือกับคุณมาริษ พร้อมๆ กับญาติของลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 ครอบครัว ในเร็ววันนี้