กรุงเทพฯ, 5 กุมภาพันธ์ 2568 – NETA AUTO อัปเดทล่าสุดจากการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทวางแผนเพิ่มเงินทุนมากกว่า 4 พันล้านหยวน เร่งขยายตลาดต่างประเทศทั่วโลกในปี 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินงานนี้ NETA ได้เริ่มต้นขยายตลาดในอาเซียน ด้วยการเปิดโชว์รูมในสิงคโปร์ และยังเปิดผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการแห่งแรกในบราซิล นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดสู่อเมริกาใต้ โดยนำเสนอรุ่น NETA X และ V-II เพื่อเจาะตลาดในภูมิภาคนี้

การเพิ่มเงินลงทุนในครั้งนี้จะสนับสนุนแผนการเติบโตของ NETA โดยมุ่งเน้นในการพัฒนารถรุ่นใหม่ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการขยายตลาดของ NETA ไปยังอาเซียนและอเมริกาใต้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์และเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุเป้าหมายของ NETA ในขยายฐานลูกค้าทั่วโลก พร้อมทั้งตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า

NETA พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลก ด้วยการมุ่งเน้นความยั่งยืน นวัตกรรมทันสมัย และการนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ ด้วยความคุ้มค่าและคุ้มราคา การเปิดโชว์รูมล่าสุดที่สิงคโปร์และบราซิล ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของกลยุทธ์ที่ช่วยขับเคลื่อนให้ NETA แข็งแกร่งในตลาดโลก ทีมพัฒนาของบริษัทมีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อพัฒนายานยนต์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่ยั่งยืนและพลังงานสะอาดเพื่อรักษ์โลก เพื่อยกระดับแบรนด์ NETA โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะและนวัตกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรมมยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่าน

มร. เปาหลง ซุน ประธานบริหาร บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “กลยุทธ์สำหรับการดำเนินธุรกิจในตลาดไทยปีนี้ เราขอยืนยันที่จะเดินหน้าต่อในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทแม่อย่าง โฮซอน ออโต้ (Hozon Auto) ซึ่งมุ่งเน้นการขยายตลาดไปต่างประเทศ เรากำลังปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่พื่อรับมือกับสภาวะการแข่งขันที่สูงในตลาด เพื่อให้มั่นใจว่า NETA จะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

ในปีนี้ เราจะมุ่งเน้นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในทุกด้านของธุรกิจ โดยการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อรองรับการบริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และเร่งดำเนินการปรับปรุงบริการหลังการขายเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และรักษาความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในตลาดไทย เป้าหมายหลักของเราคือการยกระดับความพึงพอใจของลูกค้านอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะพัฒนา NETA X และ V-II ให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของตลาดไทย เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของ NETA เข้ากับลักษณะการใช้งานและความคาดหวังของลูกค้าในประเทศ อีกทั้ง NETA ยังมีแผนที่จะขับเคลื่อนโครงการ CSR ที่จะสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกับสังคมและช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนในระยะยาว”

มร. เปาหลง ซุน กล่าวเสริมว่า “ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับ NETA ในทุกด้าน หลังจากการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่นี้ เราพร้อมเดินหน้าต่อเพื่อขับเคลื่อน NETA ให้มีกำไรภายในปี 2026”