วัยรุ่นชาย 17 ปี เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่อายุ 12 เล่าอาการป่วย หลังไอออกมาเป็นเลือด

สื่อต่างประเทศ รายงานว่า เจเดน ริชาร์ดสัน เผยว่า เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุ 12 ปี เพียงเพราะอยากเข้าสังคม ซึ่งเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ปกติ ประมาณ 50 มวนต่อวัน อย่างไรก็ตาม นับเป็นระยะเวลา 5 ปีแล้ว ที่เจเดนเสพติดในการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ณ ปัจจุบันเขามีอายุ 17 ปีแล้ว

แต่แล้ว เจเดนก็รู้สึกตกใจมาก เมื่อไอเป็นเลือดในวันสุดท้ายของทริปเที่ยวประเทศตุรกีกับครอบครัว เดือนสิงหาคม ปี 2024 หลังบินกลับบ้านมาในวันต่อมา ครอบครัวพาเจเดนไปยังโรงพยาบาลทันที จากคำชี้แจงของหมอ ซึ่งระบุว่า เจเดนมีแผลในกระเพาะอาหาร ทำให้แม่ของเขาคิดว่า อาการดังกล่าวอาจเกิดจากอาหารที่เจเดนกิน เช่นอาหารที่มีไขมันสูง หรือเครื่องดื่ม นอกจากนี้ เจเดนยังกินเคบับทุกคืนในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาด้วย

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คนในครอบครัวต่างก็รู้สึกช็อก เมื่อไปโรงพยาบาลอีกครั้ง แพทย์ได้ทำส่องกล้อง พบว่า ปอดได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แต่สิ่งที่ทำเอาแพทย์ตกใจยิ่งกว่าเดิมก็คือ ไม่เคยเห็นเด็กวัยรุ่นคนไหน มีสภาพปอดที่เสียหายขนาดนี้ ทั้งนี้ หมอได้วินิจฉัยว่าสาเหตุทั้งหมด มาจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มากเกินไป แม้เจเดนพยายามเลิกแล้ว แต่เขาก็ใช้มันอีกครั้ง ในวันเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา จากนั้นเขาก็เริ่มไอเป็นเลือดอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน เจเดนกำลังรอทำ CT สแกน พร้อมยืนยันที่จะไม่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าอีกเด็ดขาด ถึงกับให้คำมั่นว่า “จะไม่มีวันใช้มันอีก ฉันกลัวมาก และไม่เคยคิดเลยว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้เกิดอาการทั้งหมดนี้”

เจเดน เล่าเหตุการณ์คืนวันเที่ยวในตุรกีไว้ว่า คืนก่อนหน้านั้น มีอาการเจ็บหน้าอกเล็กน้อย แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นขึ้นมา จึงหยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาสูบอย่างรวดเร็ว แต่อยู่ๆ ก็มีอาการไอเรื่อยๆ ต่อมารู้สึกมีเสมหะเล็กน้อย จึงบ้วนออกมา พอเห็นว่าเป็นเลือด ก็ตกใจมาก ไม่รู้จะทำยังไง

2-3 ชั่วโมงต่อมา ดื่มน้ำและกินอาหารนิดหน่อย และลงเล่นน้ำในสระ แต่ทันทีที่ว่ายน้ำก็ไอเป็นเลือดเต็มมือไปหมด เมื่อตรงไปที่ห้องน้ำก็ไอเป็นเลือดจำนวนมาก ทำให้รู้สึกกลัว จนไม่กล้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เจเดน ย้ำต่อว่า “เป็น 10 นาทีที่ฉันไอเป็นเลือดเยอะมาก”

เจเดนทิ้งท้ายว่า “ถ้าฉันสามารถย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้นตอนที่เริ่มสูบครั้งแรก จะบอกกับตัวเองว่า อย่าแตะต้องบุหรี่ไฟฟ้าเด็ดขาด เพราะมันส่งผลต่อร่างกายในระยะยาว”