สมาคมชาวนาร้องรัฐพยุงราคาข้าว ชี้ข้าวนาปรังออกสู่ตลาดมีนาคมนี้เสี่ยงราคาตกต่ำ เหลือเท่าต้นทุนที่ 6-7 พันบาทต่อไร่ หวั่นรายได้หด เร่งยื่นข้อเสนอ นบข. คาดขอ 2 มาตรการช่วยด่วน ประกันรายได้ข้าวเปลือกที่ตันละ 1.1 หมื่นบาท กับชดเชยรายได้เกษตรกร
นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยว่า ผลผลิตข้าวนาปรังปีนี้เพาะปลูกไปกว่า 11-12 ล้านไร่ โดยพื้นที่ปลูกข้าวส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคกลางและเขตชลประทาน ปัจจุบันผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด คาดว่าผลผลิตจะออกมากในช่วงเดือนมีนาคม 2568 นี้ ส่งผลให้ราคาข้าวในตอนนี้ โดยเฉพาะข้าวขาวทั่วไปราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 6,500-7,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก ส่วนราคาข้าวขาวพื้นนุ่ม เฉลี่ยอยู่ที่ 8,000-9,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก โดยชาวนากังวลว่าราคาข้าวจะตกต่ำมากกว่านี้ ซึ่งเมื่อเทียบกับต้นทุนการเพาะปลูกต่อไร่เฉลี่ยอยู่ที่ 6,000-7,000 บาท
ทั้งนี้ สมาคมจะมีการประชุมหารือร่วมกับชาวนาพื้นที่ภาคกลางและชาวนาที่ปลูกข้าวนาปรัง ถึงผลกระทบราคาข้าวตกต่ำ และข้อเรียกร้องที่ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ โดยคาดว่าจะประชุมหารือกันภายหลังวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ปัญหา ผลกระทบ และข้อเสนอที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ โดยจะเร่งสรุปเพื่อยื่นหนังสือให้กับคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว หรือ นบข. เพื่อให้มีการประชุมหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป อีกทั้งจะส่งหนังสือให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย
“ตอนนี้รัฐบาล หรือแม้แต่กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ไม่มีมาตรการเข้ามาดูแลช่วยเหลือเกษตรกร ไม่ใช่เฉพาะชาวนา แต่รวมไปถึงชาวไร่มัน ชาวไร่อ้อย ทำให้แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรนั้นตกต่ำลง เกษตรกรเดือดร้อน ต้นทุนการผลิตสูง ไม่ว่าจะเป็นราคาปุ๋ย ค่าแรง เป็นต้น”
นายปราโมทย์กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางสมาคมได้มีข้อเสนอให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น ช่วยเหลือในเรื่องของการหาเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อนำมาให้ชาวนาเพาะปลูกใหม่ ช่วยเหลือในการส่งเสริมเครื่องจักร ช่วยเหลือในเรื่องของแหล่งน้ำเพื่อช่วยลดต้นทุนการเพาะปลูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายกำพล เชื้อสวัสดิ์ ชาวนา อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมตัวแทนชาวนา 60 คน เข้าร้องเรียนและทำหนังสือถึงนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ และขอให้แก้ไขปัญหา เพราะกังวลว่าราคาจะตกต่ำมากกว่านี้
โดยเรียกร้อง 2 เรื่องสำคัญคือ 1.โครงการประกันรายได้ข้าวเปลือกเจ้า (ความชื้น 15%) ตันละ 11,000 บาท จะช่วยพยุงราคาข้าวเปลือก จากปัจจุบันข้าวเปลือกเกี่ยวสด ความชื้น 25% ขึ้นไป ขายได้ 6,000-7,000 บาทเท่านั้น ขณะที่ต้นทุนไร่ละ 5,500-6,000 บาท ถ้าผลผลิตได้ไม่ถึง 1 ตันต่อไร่ (1,000 กก.) ก็จะทำให้ชาวนาขาดทุน ซึ่งในปัจจุบันเฉลี่ยได้ 800 กก.เท่านั้น ซึ่งหากออกมาตรการประกันรายได้จะช่วยประคองราคาข้าวเปลือกให้ไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท และ 2.มาตรการชดเชยรายได้ให้เกษตรกร
“ตอนนี้ปัจจัยผลิตสูงขึ้น ทั้งจากค่าปุ๋ย ค่ายาปราบศัตรู ค่าเช่านา สูงขึ้นต่อเนื่อง ผลผลิตต่อไร่ก็ไม่ได้สูง เฉลี่ยแล้วมีผลต่อรายได้เกษตรกร หากราคาข้าวยังตกต่ำต่อ จะทำให้ชาวนาเจอวิกฤตขาดทุน”
จากข้อมูลกรมการค้าภายในระบุว่า ผลผลิตข้าวนาปรังปี 2568 คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวเปลือกเจ้า 7 ล้านตัน ขณะที่ออกสู่ตลาดแล้ว 10% ของคาดการณ์ผลผลิต ขณะที่ข้อมูลสมาคมโรงสีข้าวไทย วันที่ 7 ก.พ. ราคาข้าวเปลือกเจ้า (ความชื้น 15%) รับซื้อช่วง 8,000-9,100 บาท/ตัน ส่วนความชื้น 25% ราคารับซื้อ 6,800-7,900 บาทต่อตัน