วิน สควีซ แอนิมอล แง้มฤกษ์แต่ง เผยเหตุผลที่เลือกเจ้าสาวคนนี้ ส่วนแพลนมีลูกยังไม่ชัดเจน
หลังจากที่ วิน ศิริวงศ์ หรือ วิน สควีซ แอนิมอล นักร้องชื่อดัง เซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงานท่ามกลางหิมะระหว่างไปเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศฟินแลนด์ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว(18ก.พ.68) วิน จูงมือว่าที่เจ้าสาว พิมพ์พัณ หงษ์ปาน เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชฯ และรับน้ำพระพุทธมนต์ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นชีวิตคู่
ล่าสุดวันที่ 24 ก.พ.68 นักร้องหนุ่มมาร่วมงานแถลงข่าว “Celebrating 20 Years with SPICYDISC” ฉลองครบรอบ 20 ปี “สไปร์ซซี่ ดิสก์” ที่ ลาน EDEN 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หลังจากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงแชปเตอร์ใหม่ในชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้น
โดย วิน เผยว่า “วันนั้นก็เป็นงานมงคล มีโอกาสได้เชิญครอบครัวและญาติพี่น้องไปที่วัดราชบพิธฯ กัน ผมกับว่าที่เจ้าสาวได้รับน้ำพระพุทธมนต์จากพระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถือเป็นสิริมงคลต่อแชปเตอร์ใหม่ในชีวิตของเรา”
“จริงๆ เราก็คบกันมาซักระยะหนึ่งแล้ว รู้สึกว่าคนนี้นี่แหละที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด พอเราได้คุยเพิ่มเติมขึ้นกับทางฝั่งผู้ใหญ่ของว่าที่เจ้าสาวและฝั่งผมด้วยก็ไม่มีใครติดขัดอะไรเลย ทุกอย่างลงตัวและเดินหน้าไปแบบง่ายๆ สบายๆ คิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้ถี่ถ้วนแล้ว ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับมันขนาดนั้น เพราะว่าเราก็คบกันอยู่และทุกๆ วันนี้ก็ดีมากๆ”
“ส่วนแพลนจัดงานแต่งงาน กำหนดการคือประมาณเดือนสิงหาคม ทิ้งช่วงนานเหมือนกันจากวันที่เราเข้ารับน้ำพระพุทธมนต์ สาเหตุก็เพื่อให้เราได้มีเวลาเตรียมตัวจัดงาน เพราะมีรายละเอียดหลายอย่างที่ต้องคุยกับเวดดิ้งแพลนเนอร์ ทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่สำหรับเราสองคนด้วย”
“สำหรับว่าที่เจ้าสาวคนนี้เราเข้ากันได้มากๆ ในหลายเรื่อง ตั้งแต่แรกที่ได้เจอกันผมก็ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าเราอยากจะได้คนที่จะเป็นเพื่อนของเราไปตลอดจนวันสุดท้ายของชีวิต ที่ผ่านมาผมไม่เคยตั้งโจทย์แบบนี้ เพราะผมมองรอบๆ ตัวเราแล้วความสัมพันธ์ที่ยังคงทนต่อกาลเวลาเลยคือความสัมพันธ์ของเพื่อน เพราะฉะนั้นเรากับคู่ชีวิตของเราก็ควรจะมีความสัมพันธ์แบบนั้น เพื่อให้มันคงทนไปนานที่สุดเท่าที่ที่มันจะนานได้”
“ทุกวันนี้ก็เริ่มแชร์ความรู้สึกข้างในในทุกๆ มุมมากขึ้น พื้นที่ที่เคยเป็นของเราที่เคยแบ่งกันชัดเจน ตอนนี้ก็รู้สึกว่าเราเปิดพื้นที่ตรงนี้ให้กันและกันมากขึ้นดีกว่า เพื่อให้ไม่เกิดความรู้สึกอึดอัด หรืออึดอัดน้อยที่สุด ในส่วนของการทำงานของเราที่ต้องเป็นนักดนตรีร้องเพลงกลางคืน จริงๆ มีเสียงกระซิบจากผู้ใหญ่ว่าร้องเพลงให้น้อยๆ หน่อยได้ไหม ไม่ควรจะทิ้งภรรยาไว้ที่บ้านนะ(หัวเราะ) แต่ว่าแฟนผมเขาไม่เคยมีปัญหาอะไรกับการที่ผมไปเล่นดนตรี หรือการที่ผมมีภารกิจที่บริษัททุกวัน เขาเป็นคนที่เข้าใจ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกสบายใจที่เลือกเจ้าสาวคนนี้”
“สำหรับแพลนเรื่องการมีลูกยังไม่เคยพูดไว้ชัดเจนว่าจะอยากมีหรือไม่อยากมี ตอนนี้มันยัง 50:50 ยังก้ำกึ่ง แต่ว่าก็เริ่มเอียงไปทางว่าอยากมี 70:30 แล้ว เพราะรู้สึกว่ามันต้องมีสเต็ปของการแต่งงานเป็นคู่ชีวิตกันก่อน แล้วสเต็ปที่2 คือการมีลูกก็น่าจะเป็นไปได้มากขึ้น”
“ทุกวันนี้ก็ปรึกษาพี่ๆ เพื่อนๆ นักดนตรีที่เขามีครอบครัวกันแล้วเยอะเลย ผมเป็นคนสุดท้ายๆ ในรุ่นแล้วเหมือนกัน จริงๆ ตัวเองยังประหลาดใจเลยไม่คิดว่าจะมีวันนี้ได้ ถ้าคนที่รู้จักกับผมทุกคนเขาก็ก็จะถามผมตลอด แล้วก็คิดว่าผมคงไม่แต่งงานแล้วล่ะ อยู่ๆ ฟ้าก็ส่งคนนี้มา(ยิ้ม) ถามว่ามองเห็นภาพตัวเองในการเป็นพ่อบ้านยังไงบ้าง คงจะเป็นพ่อบ้านที่ทำให้บ้านนี้อบอุ่นที่สุด แล้วก็ทำให้เราสองคนเป็นเพื่อนเป็นมิตรที่ดีต่อกันในทุกๆ เรื่องเลย”