ซีคอนรุกตลาดรับสร้างบ้าน เดินหน้าเจาะลูกค้าข้าราชการ ตั้งเป้ารายได้ 1,690 ล้าน
Pornchanok February 25, 2025 01:46 PM

ซีคอน เปิดฉากปี 2568 เดินเกมรุกด้วยแนวคิด “SEACON Growing Together” เน้นเติบโตบนบริบท ESG มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพสินค้าและบริการมากคุณภาพสู่มือผู้บริโภค พร้อมสานต่อความสำเร็จด้วยโครงการบ้าน Your Home : Your Family ซีรีส์ 2 ตั้งเป้ายอดขายปี 2568 ที่ 1,690 ล้านบาท

นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา ซีคอนต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย แต่ก็สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ยังเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่าัดส่วน 48.45% ราคาสั่งสร้างหลังละ 8-50ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอย 351 ตารางเมตรขึ้นไป

ตามมาด้วยกลุ่มครอบครัวขนาดกลาง สัดส่วน 34.65% ราคาสั่งสร้าง 5-7.90 ล้านบาทต่อหลัง พื้นที่ใช้สอย 200 – 350 ตารางเมตร และกลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก สัดส่วน 16.90% ราคาสั่งสร้าง 1.39-4.50 ล้านบาทต่อหลัง พื้นที่ใข้สอยน้อยกว่า 200 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็นยอดจองช่องทาง Offline คิดเป็น 78.05% และยอดจองผ่านช่องทาง Online 21.95% เพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา

สำหรับแนวทางการดำเนินงานและกลยุทธ์ของซีคอนในปี 2025 ยังคงมุ่งมั่นเป็นผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านของไทย ด้วยการพัฒนาคุณภาพงานด้านการก่อสร้างและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบบ้านคุณภาพให้แก่ลูกค้า มีการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์และแคมเปญบ้านราคาพิเศษ รวมถึงการบริหารจัดการด้านราคาของโครงสร้างกึ่งสำเร็จรูปที่ผลิตเองภายในโรงงาน พร้อมรับประกันคุณภาพนานถึง 20 ปี

นอกจากนี้ บริษัทมีการลงทุนด้านเทคโนโลยี และปรับรูปแบบการทำงานโดยนำระบบ ERP (Microsoft Dynamics 365 Business Center) เข้ามาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงลงทุนในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของพนักงาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและความโปร่งใสในการสื่อสารภายในองค์กร เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเติบโตของยอดขายที่ 1,690 ล้านบาทในปี 2568

จากความสำเร็จของโครงการบ้าน Your Home Series เพื่อเจาะกลุ่มข้าราชการไทยที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปี 2568 ซีคอนได้สานต่อแคมเปญดังกล่าวโดยได้เปิดตัวโครงการบ้าน “Your Home: Your Family #2”ที่มาพร้อมกับดีไซน์และสไตล์ที่หลากหลาย คงความโดดเด่นในเรื่องสีสันและความอ่อนละมุน มีขนาดบ้านให้เลือกมากขึ้นและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน

ซึ่งจะเปิดตัวครั้งแรกผ่านช่องทางออนไลน์ในต้นเดือนมีนาคม 2568 นี้ และเตรียมเปิดตัวเป็นทางการในงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2025” ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮออล์ 8 ตัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 16 มีนาคม 2568 และงาน “บ้านและสวน Select 2025” ที่ไบเทค บางนาระหว่างวันที่ 22 – 30 มีนาคม 2568 โดยมีแบบบ้านให้เลือก 5-8 แบบ ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท ควบคู่จัดโปรโมชันพิเศษในช่วง Early Bird ตั้งแต่มีนาคม-มิถุนายน 2568

นายมนูกล่าวต่อว่า ในด้านกิจกรรมเพื่อสังคม ซีคอน ได้ดำเนินโครงการ “SEACON ป้อนฝัน ปันให้น้อง (ปีที่ 1)” วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความยั่งยืนและพัฒนาศักยภาพของเยาวชน เน้นสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาและนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีแต่มีฐานะยากจน จากการคัดเลือกพบว่ามีผู้สมัคร 13 คน และได้คัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการจริง 11 คน โดยให้ทุนการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาทุนละ 20,000 บาท ระดับอุดมศึกษาทุนละ 40,000 บาท พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่อนาคต

ในขณะเดียวกัน SEACON ยังได้ริเริ่มโครงการ “สร้างงาน สร้างคุณค่า ส่งเสริมสวัสดิภาพคนพิการอย่างเท่าเทียม” ด้วยการปรับเปลี่ยนแนวทางจากการส่งเงินสมทบให้กับการจ้างงานคนพิการในรูปแบบสัญญาจ้างรายปี โดยร่วมมือกับมูลนิธินวัตกรรมทางสังคมเพื่อคัดเลือกและจ้างคนพิการที่มีความประพฤติและตั้งใจประกอบอาชีพ ซึ่งการจ้างงานในรูปแบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้พวกเขามีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ แต่ยังช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวอีกด้วย

นอกจากนี้ ซีคอน ยังได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ภายในองค์กร “SEACON Learning Center-SCL” เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะด้านงานก่อสร้างและ soft skills ของพนักงาน โดยมีการจัดฝึกอบรมมาตรฐานที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด

พร้อมทั้งลงทุนในระบบ Knowledge Management System ที่ให้บุคลากรสามารถเข้าศึกษาและเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อรองรับความต้องการด้านคุณภาพการบริการและการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ องค์กรยังให้ความสำคัญกับการตรวจสอบภายใน (Internal Audit) เพื่อประเมินและตรวจสอบระบบควบคุมภายในอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายและมาตรฐาน ลดความเสี่ยง และเสริมสร้างความโปร่งใสในทุกกระบวนการบริหารจัดการ

ด้านแนวทางการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซีคอนได้ริเริ่มโครงการรีไซเคิล “กระเป๋าผ้าใบจากป้ายไวนิล” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิด ESG ภายในองค์กร โดยมีการผลิตกระเป๋าผ้าไวนิลชุดแรก 200 ใบ นำไปแจกให้กับเด็กด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร รวมทั้งวางจำหน่ายในงาน Exhibition โดยรายได้จะมอบให้กับผู้ด้อยโอกาส และมีการนำ waste รูปแบบอื่นๆ เช่น กระดาษใช้แล้วในสำนักงานมารีไซเคิลร่วมกับพันธมิตร SEACON X SCGP recycle เพื่อใช้ภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ

ในด้านการบริหารจัดการ Carbon Footprint ซีคอนใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากเขียวจากงานก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ผลิตภัณฑ์ Thai Metal Aluminium ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 437.65 ตัน CO₂ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 17,500 ต้น รวมถึงสี Beger ที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 38.02 ตัน CO₂ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 625 ต้น และยังมีการใช้พลังงานสะอาดจากโซล่าเซลล์ในโรงงานซีคอน พรีคาสท์ แฟคทอรี่ (SF) เพื่อผลักดันแนวทางการลดการปล่อยคาร์บอนในทุกปี โดยบริษัทมุ่งมั่นในการสนับสนุนและพัฒนาการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง

“SEACON Growing Together แสดงให้เห็นถึงผลประกอบการที่มั่นคงอย่างยั่งยืน แบะสะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาบนบริบทที่ครอบคลุม ESG ทั้งด้านนวัตกรรมการก่อสร้าง บริการที่มีคุณภาพ และการดำเนินโครงการที่มุ่งสร้างความยั่งยืนในสังคมและสิ่งแวดล้อม ความมุ่งมั่นนี้เป็นหลักการที่ขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียโดยรวม ด้วยการนำหลักการดำเนินธุรกิจในแบบ Triple Bottom Line หรือ 3P คือ People, Planet, Profit มาใช้ประเมินความสำเร็จขององค์กรอย่างครอบคลุมและยั่งยืนจากปัจจุบันสู่อนาคต” นายมนูกล่าว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.