การขับรถในเมืองที่เต็มไปด้วยการจราจรที่หนาแน่น ย่อมสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าการขับรถออกต่างจังหวัด บทความนี้ Sanook Auto มีเคล็ดไม่ลับช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองให้น้อยที่สุดสำหรับการขับขี่ในเมือง จะมีอะไรบ้างไปดูกัน
การวางแผนการเดินทางและหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการประหยัดน้ำมัน การจราจรที่ติดขัดทำให้รถต้องหยุดและออกตัวบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการกินน้ำมันมากที่สุด หากเป็นไปได้ ควรเลือกเดินทางในช่วงเวลาที่รถไม่ติด หรือใช้แอปพลิเคชันนำทางเพื่อตรวจสอบสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์และเลือกเส้นทางที่เหมาะสมก่อนออกเดินทาง
การขับรถด้วยความเร็วคงที่และนุ่มนวลจะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน หลีกเลี่ยงการเร่งความเร็วและเบรกอย่างรุนแรง เพราะการกระทำเหล่านี้จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติ พยายามรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอและใช้เบรกอย่างนุ่มนวลเมื่อจำเป็น
เมื่อต้องจอดรถติดไฟแดงนานๆ ควรเข้าเกียร์ N (เกียร์ว่าง) และดึงเบรกมือขึ้น การทำเช่นนี้จะช่วยลดภาระของเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้มากกว่าการเหยียบเบรกไว้ในเกียร์ D (เกียร์เดินหน้า)
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการจอดรถติดไฟแดงเพียงชั่วครู่ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าเกียร์ N เพราะการเข้าเกียร์ N บ่อยๆ อาจทำให้เกียร์เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร
การปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสมจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น อุณหภูมิที่แนะนำคือ 24 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เย็นสบายและไม่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเกินไป เนื่องจากคอมเพรสเซอร์แอร์มีส่วนเพิ่มโหลดเครื่องยนต์ ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มมากขึ้น
การนำรถเข้าเช็กระยะตามกำหนดเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษารถยนต์ให้มีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมัน การตรวจสอบและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ และชิ้นส่วนอื่นๆ ตามระยะเวลาที่กำหนดจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน
นอกจากนี้ การตรวจเช็กลมยางให้ได้ตามมาตรฐานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการประหยัดน้ำมันเช่นเดียวกัน
เทคนิคเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มความประหยัดได้จริง แถมยังไม่ต้องเสียแม้แต่บาทเดียว (เว้นแต่การเช็กระยะที่ต้องทำเป็นประจำอยู่แล้ว) ทางที่ดีควรลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่เหล่านี้ดู รับรองว่าแต่ละเดือนจะช่วยลดรายจ่ายได้ไม่น้อยทีเดียว