เมื่อวันที่ 1 มี.ค. น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหา การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ปี 2567 ว่า จากข้อมูลกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบอัตราการคลอดบุตรในช่วงอายุ 10 – 14 ปี เพิ่มขึ้น 0.93 ต่อพันคน เกินเป้าหมายที่กำหนดจากข้อมูล DOH Dashboard และสูงขึ้นจากปี 2566 อยู่ที่ 0.77 ต่อพันคน เกินกว่าเป้าหมายของ UN ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 0.7 ต่อพันคน โดยรัฐบาลเร่งวางแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา เพิ่มความรู้ด้านเพศศึกษา การคุมกำเนิด ขยายการเข้าถึง บริการสุขภาพและที่ปรึกษาสำหรับวัยรุ่น เน้นครอบครัวโรงเรียน และชุมชน มีส่วนร่วม โดยใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ให้ความรู้แก่เยาวชน รวมทั้งการให้คำปรึกษาผ่านสายด่วน 1663
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า ยอดขอคำปรึกษาเรื่องตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น 10 – 14 ปี ในปี 2567 ขอรับคำปรึกษาเรื่อง ตั้งครรภ์ไม่พร้อม ผ่านช่องทางออนไลน์และสายด่วน รวม 46,893 ราย หรือเฉลี่ย 128 รายต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีจำนวน 44,574 ราย สาเหตุหลักของการตั้งครรภ์ไม่พร้อม คือขาดความรู้และความเข้าใจเรื่องเพศศึกษา ไม่ได้ป้องกันตนเองในการมีเพศสัมพันธ์ การถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข ในการส่งต่อไปยังหน่วยบริการที่เหมาะสม ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลระหว่างตั้งครรภ์ หรือทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยตามกฎหมาย
คือ ให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาเชิงรุกในโรงเรียนและครอบครัว และขยายช่องทางปรึกษาที่เข้าถึงง่าย ผ่านโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดที่ปลอดภัย และ พัฒนาโครงการช่วยเหลือแม่วัยใส ให้เข้าถึงการศึกษาต่อและโอกาสทางอาชีพตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความจำเป็นในการป้องกันปัญหาเชิงระบบ เพื่อลดอัตรา การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และช่วยให้เด็กหญิงกลุ่มเสี่ยงมีอนาคตที่ดีขึ้น
”รัฐบาลตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น และมุ่งมั่นแก้ไขอย่างเป็นระบบและจริงจัง โดยเร่งดำเนินมาตรการป้องกัน คุ้มครอง และให้ความช่วยเหลือผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งครอบครัว โรงเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้วยการขยายการเข้าถึงความรู้ด้านเพศศึกษา การคุมกำเนิด และบริการปรึกษาอย่างครอบคลุม เพื่อให้เยาวชนมีทางเลือกที่ปลอดภัยเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1663 ตลอด 24 ชั่วโมง“ น.ส.ศศิกานต์ กล่าว