อิงฟ้า เปิดใจ หลังชนะคดีปวศ. ไม่ต้องจ่าย 1.2 พันล้าน เผยถึงโอกาส ที่จะได้ปล่อยเพลงของตัวเอง
GH News March 01, 2025 04:01 PM

อิงฟ้า วราหะ เปิดใจ หลังชนะคดีประวัติศาสตร์ ศาลยกฟ้องละเมิดสัญญา ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย 1.2 พันล้าน

หลังจากทนายสาคร ศิริชัย เปิดเผยคำพิพากษาของศาลว่า อิงฟ้าชนะคดีประวัติศาสตร์ สัญญาไม่เป็นธรรม ทวงถามความเป็นธรรมให้ อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 จากกรณีถูกต้นสังกัดเดิมฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณีผิดสัญญาว่าจ้างนักร้องมาประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ เป็นจำนวนเงินถึง 1,245,500,000 บาท โดยมีการฟ้องตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก

  • อิงฟ้า วราหะ ชนะคดี สัญญาไม่เป็นธรรม ค่ายเก่า เรียกค่าเสียหาย 1,245 ล้าน

ล่าสุด อิงฟ้า มาร่วมงาน Thailand Social Awards 13 ที่ True Icon Hall, ชั้น 7 ICONSIAM และเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า

“คือจริงๆ หนูรู้มาสักพักแล้ว แต่ว่าเราก็รอทางองค์กรและทีมทนายว่าเราจะสามารถพูดเรื่องนี้ได้ตอนไหน และอันนี้ก็เป็นการชนะแค่สารตั้งต้นเฉยๆ ค่ะ แล้วเขาก็ยังมีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์ได้

สำหรับครั้งที่สองคือภาพโดยรวมที่คุยกับทางทีมทนายก็ต่อสู้เพื่อความถูกต้องแล้วก็ข้อเท็จจริง ไม่มีอะไรต้องกลัว และอีกอย่างกำลังใจดีมากจากทุกคน พอทางทนายได้มีการประกาศออกไป คือทุกคนก็แห่เข้ามาให้กำลังใจ พี่ๆ ในวงการบันเทิงทุกคนเหมือนรอฟังข่าวนี้มานาน ก็ถือว่าสิ่งที่ดีสำหรับปีนี้กับการเริ่มต้น ก็มารอดูในขั้นตอนต่อไปว่าจะเป็นยังไง

ก็มีการถามกับทางทีมทนายแล้วก็บอสว่าเราจะมีการเตรียมตัวยังไงบ้างกับทางต่อไป คือสุดท้ายเราสู้ด้วยความจริงความถูกต้อง ไม่มีอะไรต้องกลัว ก็ดูทิศทางในครั้งที่สอง ก็คิดว่ามันเป็นไปในทิศทางที่ดีก็เบาใจ คือพูดจริงๆ หนูไม่ได้กลัวอยู่แล้วกับการที่เขาฟ้องเรามาตั้งแต่แรกสำหรับ 1.3 ล้าน เรามองว่ามันไม่สมเหตุสมผล มันไม่จำเป็นที่จะต้องจ่าย เพราะว่ามันก็มีในส่วนของการที่เราเสียเวลาเสียโอกาสหลายๆ อย่างด้วยในตอนนั้น คือตอนนี้ไม่กังวลเพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่าความถูกต้องและความยุติธรรมมันมีอยู่ในโลกจริงๆ และศาลเขาก็น่าจะมองเห็นด้วย”

ตอนที่มันเกิดเรื่อง มันก็กวนใจไหม?
“กวนใจ เพราะเหมือนเราจะทำอะไรซักอย่างเกี่ยวกับธุรกรรม การทำงาน มันก็เป็นแผลในใจเรา เดี๋ยวก่อนนะเดี๋ยวค่อยทำ เหมือนมันรั้งเราไว้ เหมือนมันเป็นโซ่ที่ติดขาเราไว้ แต่ว่าในวันนี้ก็ได้ปลดออกไปหนึ่งข้อแล้ว ก็รอดูต่อไปว่ามันจะเป็นอิสระจากความกังวลใจตรงนี้เมื่อไหร่ คือตัวฟ้าเองได้เจอกับทางคู่กรณีในศาลก็การพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนที่เราจะเริ่มขั้นตอนต่างๆ”

รู้สึกยังไงที่ชื่อเรามันขึ้นว่าเป็นจำเลย?
“คือมันอยู่ที่มุมมอง คือในมุมมองเขา เราเป็นจำเลย แต่สำหรับเรา เราก็พร้อมที่จะพิสูจน์ความจริง แล้วตัวหนูเองก็อยากจะได้ความยุติธรรม แล้วก็ไอ้สิ่งที่เขาเคยหมิ่นประมาทเราในเพจ บางอย่างมันก็ไม่ได้เป็นความจริงเสมอไป หนูก็พร้อมที่จะพิสูจน์ แล้วก็พร้อมที่จะพูดความจริงต่อหน้าศาล และตอนนั้นก็มีความกดดันแล้วก็มีความกล้าหาญอยู่ในตัวเองด้วย ก็ขอบคุณที่วันนั้นเรากล้าที่จะพูดกับเขา กล้าที่จะยืนหยัดด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านมาหนูก็กลัวมาตลอด ก็เกรงใจไม่กล้าด้วย แต่วันนี้ก็ต้องขอบคุณบอสแล้วก็ทีมทนายที่สู้มาด้วยกัน แล้วก็คอยให้กำลังใจกันตลอด ก็ถามว่าถึงไหนเป็นยังไง ส่วนบอสก็หาทนายที่ดีที่สุด รอบคอบที่สุดเพื่อที่จะให้เราไม่เกิดข้อผิดพลาด”

ถ้าวันนั้นเราไม่ตัดสินใจความกลัวก็จะอยู่ในตัวเราไปตลอด?
“ใช่ค่ะ เพราะว่าหนูก็ 10 ปีเนอะ เหมือนเราเพิ่งจะได้เจอเขาอีกครั้งนึง คือมัน 10 ปี หนูว่าถ้าไม่ได้ตัดสินใจ สัญญามันคงต่ออัตโนมัติไปถึง 12 ปี ก็ดีแล้วที่เราตัดสินใจมาประกวดมิสแกรนด์ ได้เจอบอสแล้วก็ผู้ใหญ่ที่พร้อมที่จะยืนเคียงข้างเรา”

จริงๆ เราได้มีการคุยกันนอกรอบไหม?
“ก็ได้คุยที่อยู่ที่ศาล ได้เจอกันครั้งแรกเลย ก็เป็นประโยคเหมือนที่ตอนที่เรายังอยู่กับเขาเลย ก็เหมือนเขาบอกเราว่า อยากจะให้เราเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องฟ้องเรา แต่เราบอกว่าเราไม่เข้าใจหรอก ก็เป็นการนั่งคุยกับเขาสองคนหน้าศาล คือเราเรียกเขาว่าแม่ เราก็บอกว่าเราไม่เข้าใจจริงๆ แต่ก็อยากให้แม่เข้าใจด้วยว่าทำไมวันนี้หนูต้องสู้ เพราะว่าที่ผ่านมา ช่วงที่เราไม่ได้มีวันนี้ เราก็ไม่ได้รับการติดต่อจากใครเลยจริงๆ แต่พอเรามีวันนี้ พอที่จะยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง เรากลับมาเจออะไรแบบนี้ ก็อยากให้เขาเข้าใจเราด้วย เพราะเราก็เคยมีความรักความหวังดีต่อกัน มันเคยมีเคยเกิดขึ้น

ที่ผ่านมาเราก็อ่อนน้อมตลอด อย่างเช่นเวลาที่เราไปประกวดเดอะวอยซ์ เราก็ยอม เพราะว่าเขาก็มีการโทรไปหาทีมงานเดอะวอยซ์ว่าให้ตัดเราออก เราก็ยอมตลอด หรือแม้กระทั่งตอนที่เราประกวดมิสแกรนด์สุพรรณในปีก่อนหน้านั้น ก็มีข้อความไปทางพีดีมิสแกรนด์ ว่าถ้าเกิดให้เราเข้ารอบ ก็จะฟ้อง เราก็ถูกตัดสิทธิออกไป จนกระทั่งมาประกวดมิสแกรนด์กรุงเทพฯ เราถึงได้พร้อมแล้วจริงๆ ก็หลายปีที่เรายอม แล้วเราก็ไม่สู้เพื่อตัวเอง”

ในระหว่างที่สู้คดีมันสร้างความเสียหายเป็นเม็ดเงินมากขนาดไหน?
“ก็ไม่มากไม่น้อย เราก็ต้องมีค่าใช้จ่ายด้านทีมทนายด้วย”

ได้คุยกับทนายไหมว่าคดีมันน่าจะจบลงยังไง มันก็ค่อนข้างยืดเยื้อมาสามปี?
“ก็ได้ถามว่ามันมีวี่แววว่ามันจะจบยังไง จะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ถ้าเลวร้ายที่สุดเป็นยังไง ดีที่สุดจะเป็นยังไง เขาก็มีการบอกกับเราตรงๆ ถ้าเลวร้ายที่สุดก็เป็นแบบนี้นะ ให้เราเตรียมยังไงบ้าง แต่ทนายก็เชื่อว่า สุดท้ายแล้วใบเบิกความทั้งหมดที่เราเป็นลายลักษณ์อักษรมันเป็นความจริงที่เราพร้อมจะสู้ เขาก็ไม่กลัวเราก็ไม่กลัว ทีมก็พร้อมที่จะพิสูจน์”

ถ้ามันจบแล้วทางเราได้รับข่าวดี จะฟ้องกลับไหม?
“ไม่ฟ้องค่ะ จริงๆ อ่ะหนูอยากให้จบลงด้วยดีด้วยซ้ำ เราเองก็รู้สึกว่าช่วงที่มันมีความรักความหวังดีต่อกันมันก็มี แม้ว่ามันจะไม่ได้มากแต่มันก็มี เราก็อยากให้มันจบลงได้ด้วยดี สามารถเจอกันได้ คุยกันได้ ร่วมงานกันได้ ในอนาคตมีอะไรให้เราช่วยเหลือ เราก็อยากช่วย”

สาเหตุที่ทำให้อิงฟ้าไม่มีเพลงเป็นของตัวเองคือเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยมั้ย?
“เกี่ยวค่ะ เพราะว่าในสัญญาก็คือห้ามทุกอย่าง ห้ามร้องเพลง ห้ามเดินแบบ ห้ามเป็นพิธีกร ห้ามทุกอย่างเลย ก็ไม่สามารถมีเพลงเป็นของตัวเองได้”

ถ้าเกิดหลังจากที่ได้รับข่าวดีเราก็คงจะได้เห็นผลงาน?
“แฟนคลับก็รอคอยเพลงของเราจริงๆ เป็นเพลงที่เป็นเพลงพี่ฟ้าโจ๊ะๆ สนุกๆ สักครั้งหนึ่ง”

คิดว่ามันจะเป็นตัวอย่างให้น้องๆ มิสแกรนด์ที่จะมาประกวด เขาได้ไปเคลียร์ตัวเองก่อนไหม?
“คือมันก็เป็นปัญหานึงที่บางทีองค์กรก็ไม่สามารถที่จะช่วยเราได้ทุกครั้งตลอด ถ้าหากว่าบางทีข้อเท็จจริงความผิดพลาดมันเกิดจากเด็กก็มี เพราะฉะนั้นก็อยากให้น้องๆ ดูเรื่องของสัญญาให้ดี สุดท้ายมันก็มีผลต่อการประกวดเช่นเดียวกัน แล้วมันก็จะมีปัญหาตามมาบานปลายไปอีก อย่างที่บอกว่า องค์กรก็ไม่สามารถที่จะปกป้องเราได้ อย่างตัวเองฟ้าเองก็พร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเราเจออะไรมาบ้าง แล้วความโชคดีของเราก็คือ เรามีศิลปินที่เคยอยู่ในค่ายเขาที่เจอเหตุการณ์แบบเดียวกับเรา เรามีพยานที่พร้อมจะสู้ไปด้วยกัน คือหนูว่าเรื่องแบบนี้มันไม่มีใครอยากเจอ ถ้าเป็นไปได้ จะเซ็นสัญญาจะทำอะไรก็คิดดีๆ”

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.