สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมเปิดร้าน “คาเฟ่ เดอ ข่อย” ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท พร้อมเปิดตัวเมนูอาหารใหม่ทั้งหมดที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้าที่ให้บริการตลอดวัน หรืออาหารไทยที่คุณชื่นชอบ รวมถึงขนมจีนน้ำยาปูแกงใต้สูตรเด็ดจาก “เชฟกิ่ง” สุพัตรา รักขนาม เชฟสาวชาวใต้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคุณย่าในการถ่ายทอดสูตรอาหาร นอกจากนี้ยังมีเมนูสไตล์คอมฟอร์ทโบว์ลที่ไม่ควรพลาด เช่น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสกลมกล่อม ปรุงสดใหม่และส่งกลิ่นหอมเรียกน้ำย่อยได้อย่างง่ายดาย อีกทั้ง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ยังได้ร่วมแบ่งปันบทสนทนาในบรรยากาศผ่อนคลายที่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ความชอบหัวหิน
ย้อนกลับไปสมัยผมเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในยุคทักษิณ ชินวัตร เป็นช่วงที่เกิดสึนามิ วันที่ 26 ธันวาคม 2547 มีผู้เสียชีวิตในประเทศไทยจำนวนมาก แหล่งท่องเที่ยวเกิดความเสียหาย เศรษฐกิจหยุดชะงัก นายกรัฐมนตรีก็มอบหน้าที่ให้ผมไปดูแลพี่น้อง ประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหา ผมจึงได้รับหน้าที่ให้ไปฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน บ้าน ถนน สะพานที่เสียหาย จึงทำให้ได้ไปอาศัยอยู่ที่ภูเก็ตนานเป็นเดือนๆ ตอนนั้นอดีตนายกฯ ทักษิณ เรียกผมแล้วพูดว่า สุวัจน์ สึนามิถ้ากลับมาอีกจะทำอย่างไร มาทีมันก็เสียหาย ท่านเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจมาก ผมก็คิดว่าถ้าอย่างนั้น เราต้องมีสถานที่สำรอง มีแหล่งท่องเที่ยวสำรองเพิ่มมากขึ้น ตอนนั้นผมเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลเรื่องท่องเที่ยวและกีฬา ผมก็มาประชุมกับการท่องเที่ยว เพื่อให้ประเทศไทยมีความหลากหลายในเดสทิเนชั่น เราก็กลับมาคิดว่า ถ้าสามารถนำฝั่งอ่าวไทยมาเป็นย่านการท่องเที่ยวจุดหมายใหม่ของประเทศไทยได้ไหม ผมเดินทางบ่อยทำให้ผมนึกย่านริเวียร่า ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เราคิดว่าฝั่งอ่าวไทยน่าจะพัฒนาขึ้นมาให้เป็นย่านแบบนั้นได้ ตั้งแต่กรุงเทพฯ เพชรบุรี หาดเจ้าสำราญ ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี ชุมพร และระนอง จึงทำให้เกิดการพัฒนาเป็นโครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า (Thailand Riviera) โครงการฯ นี้เป็นการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นย่านท่องเที่ยวใหม่ของประเทศไทย โดยหัวหินจะเป็นศูนย์กลางของโครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า ผมเป็นรองนายกฯ ในขณะนั้น ผมนำโครงการไทยแลนด์ริเวียร่าเข้า ครม. และได้อนุมัติเงิน 20,000 ล้านบาท ให้มาทำถนนเลียบหาด ทำทางรถไฟ ทำมารีน่า เพื่อให้เป็นย่านท่องเที่ยวใหม่ เหมือนย่านอันดามัน
เมื่อวันที่ผมออกจากรองนายกรัฐมนตรีมา ก็มีความคิดว่าหัวหินน่าพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เซเลบไฮเอนด์ เพราะว่าเรื่องการท่องเที่ยวเราต้องทำให้มันหลากหลาย ชะอำ หัวหิน เกาะสมุย ภูเก็ต คนละบุคลิกกันเลย สมมุติเราให้บุคลิกแต่ละเมืองแตกต่างกัน ใครชอบสนุกสนานก็พัทยา ใครชอบสงบๆ แบบฟลอริด้า ไมอามีก็ไปหัวหิน ชอบแนวมนต์รักแปซิฟิกก็ไปสมุย หรือถ้าชอบแนวเกาะคาปรีก็ไปภูเก็ต
ถ้าเราสามารถพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแล้วทำให้มีความแตกต่าง เมื่อนักท่องเที่ยวมาสามารถพักอาศัยอยู่ได้ยาวๆ เพราะเศรษฐกิจนักท่องเที่ยวมา 1 คน เฉลี่ยอยู่ 10 วัน แล้ว 1 วันใช้เงิน 5,000 บาท เพราะฉะนั้น 1 คนก็ใช้เงิน 50,000 บาท ถ้านักท่องเที่ยวมา 40 ล้านคน ก็เป็นจำนวนเงิน 2 ล้านล้าน และคนไทยเที่ยวกันเองอีก 1 ล้านล้าน รวมแล้วก็ 3 ล้านล้านบาท นี่คือรายได้จากการท่องเที่ยว ทำอย่างไรเราจะเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว หากสมมุตินักท่องเที่ยวอยากอยู่ต่อวันที่ 11 ก็สามารถเพิ่มเงินไปอีก 5,000 บาท เราจะทำอย่างไรให้เขาอยู่เพิ่มขึ้น ผมว่าวิธีการที่จะทำให้เศรษฐกิจท่องเที่ยวดี นอกจากเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวแล้ว คือการเพิ่มระยะเวลาในการพักอาศัย ส่วนใหญ่เรามองแต่จำนวนคน แต่ทำไมเราไม่มองว่าเราต้องเพิ่มจำนวนวันท่องเที่ยวให้เขาได้ ธรรมชาติก็ไม่ช้ำ สิ่งแวดล้อมก็ไม่ช้ำ
ผมชอบหัวหิน เพราะหัวหินมีศักยภาพในการพัฒนาเป็น Niche Market เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบุคลิกเฉพาะ เหตุผลคือ ในจำนวนแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยทั้งหมด หัวหินเก่าแก่ที่สุด ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ถึงรัชกาลที่ 7 ตั้งแต่ 100 กว่าปีที่แล้วหัวหินเป็นเมืองตากอากาศอันดับ 1 ของเอเชีย สมัยก่อนโรงแรมที่เป็นโรงแรมแห่งแรก คือ โรงแรมรถไฟ ที่กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน สมัยนั้นท่านเป็นผู้ว่าการรถไฟ ได้มาสร้างโรงแรมรถไฟ สร้างสนามกอล์ฟรถไฟ ตัดทางรถไฟจากชะอำมาหัวหิน
ฉะนั้นหัวหินมีความเจริญเป็น 100 ปี แล้วคนหัวหินเวลาเขานับอายุ เขานับจากวันที่ทางรถไฟตัดมาหัวหิน สมัยก่อนรถไฟจะไปใต้จากกรุงเทพฯ ก็มีถึงชะอำ รัชกาลที่ 6 ท่านโปรดเกล้าฯให้กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน ตัดทางรถไฟจากชะอำมาหัวหิน และเปิดหัวหินให้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น ฉะนั้น หัวหินเขาจะนับจากวันที่ทางรถไฟมาถึง วันนี้ก็เกือบ 120 ปี ฉะนั้นหัวหินมีความเก่าแก่ตั้งแต่อดีตกาล มีวังไกลกังวล มีข้าราชบริพารอยู่ที่หัวหิน มีหาดที่สงบ ที่หัวหินยังมีบ้านสไตล์โคโลเนียล หาดทรายขาวและมีผังเมืองแบบยุโรป หัวหินคล้ายกับโมนาโก นีซ ถ้าเราสามารถพัฒนาหัวหินให้มีบุคลิกเฉพาะตัว ให้เป็นเมืองตากอากาศระดับสูงได้ ก็จะดีกับเศรษฐกิจของประเทศ
หัวหินมีพื้นฐานที่ดี เป็นเมืองตากอากาศที่มีอายุยาวนาน มีบรรยากาศที่ดี เป็นเมืองตากอากาศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ หัวหินควรจะไปได้ไกลกว่านี้ บางทีเราก็คิดว่าการจัดกิจกรรมที่หัวหินให้เป็นระดับโลกก็จะเป็นสิ่งที่ดี เราต้องใช้ Sport Tourism หัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ติดอันดับของโลกไปแล้ว แต่แอบเสียจังหวะในการก่อสร้างถนนพระราม 2 ผมคิดว่าถ้าพระราม 2 เสร็จ อะไรๆ ก็จะดีขึ้น ทางรถไฟรางคู่ก็มาหัวหินแล้ว ใครมาหัวหินต้องมารถไฟจะเท่มากเลย เพราะมันเริ่ม Journey ตั้งแต่ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์แล้ว ถ้ามารถยนต์ส่วนตัวจะได้ท่องเที่ยวก็ต่อเมื่อถึงหัวหิน แต่ถ้าคุณมารถไฟ คุณก็สัมผัสบรรยากาศตั้งแต่การขึ้นรถไฟ ชมวิวสองข้างทาง มีทั้งข้าวหลาม ข้าวผัดรถไฟ ทำให้ย้อนนึกถึงความทรงจำเก่าๆ ผมว่ามันน่ารัก ผมว่าน่าจะใช้การท่องเที่ยวทางรถไฟเป็นอีก Journey ของประสบการณ์ในการเดินทางท่องเที่ยว
ถ้ามาถึงที่หัวหินแล้ว ต้องกินอะไร
ถ้านึกถึงหัวหิน ต้องนึกถึงฟิชชิ่ง วิลเลจ เพราะหัวหินเป็นเมืองประมงเก่า ชื่อหัวหินเดิมคือ บ้านสมอเรียง ต่อมาเรียกเป็นบ้านแหลมหิน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นหัวหิน ฉะนั้นถ้ามาหัวหินก็ต้องกินซีฟู้ด ผมสังเกตนักท่องเที่ยวเวลามาพักในโรงแรมจะออกไปข้างนอก ทั้งเขาตะเกียบ หมู่บ้านประมง ไปที่ที่มีซีฟู้ด และขนมอร่อย ทั้งข้าวเหนียวมะม่วงป้าเจือ หรือขนมหวานแม่เก็บ ทั้งสังขยา หม้อแกง ขนมใส่ไส้ แต่วันนี้หัวหินเริ่มเป็นเมืองอินเตอร์แล้ว มีร้านสเต๊ก มีร้านอาหารอิตาเลียน
มองอนาคตหัวหิน
ผมนึกถึงโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ต้องเอามาทำอย่างจริงจัง และให้เมืองหัวหินเป็น Capital ของโครงการฯ นี้ จะไม่ได้ประโยชน์เฉพาะหัวหิน แต่จะได้ไปถึงชะอำ ปราณบุรี แหลมผักเบี้ย หาดเจ้าสำราญ สามร้อยยอด ชุมพร ระนอง จะทำให้เกิดเป็นย่าน ประเทศไทยต้องมี 3 ย่าน 1.พัทยา 2. ไทยแลนด์ริเวียร่า 3.อันดามัน คือมันต้องไปให้สุดๆ เรื่องการท่องเที่ยว ผมคิดว่าวันนี้เศรษฐกิจไม่ดี และอุตสาหกรรมอย่างอื่นก็จะลำบาก เพราะเรามีแต่ Sunset Industry อุตสาหกรรมที่เราเริ่มไม่ทันแล้ว
เมื่อก่อนเราเคยเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์อันดับ 1 วันนี้ไปเป็นรถไฟฟ้าแล้ว อุตสาหกรรมอื่นๆ เราก็ไม่ค่อยทันสมัย แต่จุดแข็งของประเทศไทยในวันนี้คือ เรื่องการท่องเที่ยว ฉะนั้นเราต้องรบเศรษฐกิจบนจุดแข็ง อย่าไปรบบนจุดอ่อน ต้องขายจุดแข็ง แต่งตัวให้เต็มที่ ต้องไปให้สุด ถ้าจะสู้กับเขาแล้วทำให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ต้องทำเรื่องการท่องเที่ยว เพราะเรามีจุดแข็งรองรับ เรามีชายหาดไม่รู้กี่พันกิโลเมตร ทั้ง 4 ภาค มีวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน มีทั้งภูเขา ทะเล แบงค็อกที่ใครๆ ก็รู้จัก มีอาหารไทยที่เป็นเอกลักษณ์ วัฒนาธรรมของคนไทย ความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย นิสัยของคนไทย สิ่งเหล่านี้คือจุดแข็งของคนไทย เทคโนโลยีอาจจะมาทำลายอุตสาหกรรม แต่เทคโนโลยีไม่สามารถทำลายการท่องเที่ยวได้เลย มีแต่จะมาเสริมให้การท่องเที่ยวง่ายขึ้น จองโรงแรมง่ายขึ้น ฉะนั้นเรื่องท่องเที่ยวไม่มีเทคโนโลยีดิสรัปชั่น มีแต่เทคโนโลยีซัพพอร์ต ประเทศไทยต้องทำเรื่องการท่องเที่ยวให้เต็มที่