ACE เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดประจำปี 2567 รายได้รวม 6,451 ล้านบาท กำไรสุทธิ 839 ล้านบาท ปีนี้เตรียมรับรู้รายได้เต็มปีจาก 6 โรงไฟฟ้าใหม่ที่เปิด COD เมื่อปีที่ผ่านมา และเตรียมรับรู้รายได้เพิ่มจากโรงไฟฟ้าใหม่ที่จ่อรอคิว COD อีกหลายโครงการ
เมื่อวันที่ 3 มี.ค.68 นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2567 ของ ACE ว่า สามารถทำรายได้จากการขายและบริการรวม 6,451 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2566 ที่ทำได้ 6,583 ล้านบาท กำไรสุทธิ 839 ล้านบาท ลดลง 21.8% จากปี 2566 ที่ทำได้ 1,073 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากกำไรขั้นต้นของโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ลดลง เนื่องจากในไตรมาส 4 ปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าขยะชุมชนแห่งหนึ่งที่สิ้นสุดช่วงระยะเวลาการได้รับ Adder ตามเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า รวมทั้งต้นทุนทางการเงิน ปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2566 อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิง (MLR) ของธนาคารพาณิชย์ ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 ถึงไตรมาส 4 ปี 2567 และการเพิ่มขึ้นของเงินกู้เพื่อนำมาใช้ในการลงทุนในโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและการก่อสร้าง
“ปี 2567 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ ACE กลับสู่วงจรการเติบโตรอบใหม่ และมีข่าวดีต่อเนื่องตลอดปี ทั้งจากการที่โรงไฟฟ้าต่างๆ ที่บริษัทฯ ชนะการประมูลและมีการลงทุนก่อนหน้า เริ่มทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จจนสามารถเปิด COD ได้แก่ โรงไฟฟ้า SPP Hybrid คลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร กำลังการผลิตติดตั้งรวม 20 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) จำนวน 5 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 71.19 เมกะวัตต์ ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มปีตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป รวมถึงการได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เพิ่มเติมจากโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ในกลุ่มที่มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (SCOD) ช่วงปี พ.ศ.2570 จำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 40.22 เมกะวัตต์ อีกด้วย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACE กล่าว
สำหรับทิศทางธุรกิจ ACE คาดว่าในปี 2568 นี้จะสามารถ COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มได้อีก 10 โครงการ ซึ่งเมื่อรวมกับที่เพิ่ง COD ไปเมื่อปลายปี 2567 จำนวน 5 โครงการ รวมเป็น 15 โครงการ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เหลืออีก 3 โครงการ คาดว่าจะ COD ได้ตามแผน คือ ภายในปี 2570 นอกจากนี้ยังมีโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะชุมชนอีกหลายโครงการที่คาดว่าจะทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิด COD ได้เพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนเชียงหวาง จ.อุดรธานี และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนโชคชัย จ.นครราชสีมา กำลังการผลิตติดตั้งรวม 18.9 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP จำนวน 9 โครงการ ที่ได้ PPA คืนมาจาก กฟภ. กำลังการผลิตติดตั้งรวม 89.1 เมกะวัตต์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ประชุมยังได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยมีจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 3.93 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยมีกำหนดซื้อหุ้นคืนด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 5 กันยายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
อนึ่ง ACE ยังคงตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ให้ได้ภายในปี พ.ศ.2593 ซึ่งสอดรับตามกลยุทธ์ธุรกิจในการตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็น “ต้นแบบผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของโลก” ที่ยึดมั่นมาตลอด อันจะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกจากภายในองค์กรไปสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน