ตำรวจท่องเที่ยวบุกจับมาเฟียรัสเซีย อ้างตัวมีแบ็คใหญ่ รู้จักเจ้าหน้าที่รัฐ สามารถวิ่งเต้นคดีได้

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 9 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเที่ยวในเกาะพะงันว่ามีชายต่างชาติ มีพฤติกรรมชอบข่มขู่ชาวรัสเซียด้วยกัน ชอบถ่ายรูปสวมใส่เสื้อกั๊ก สะพายอาวุธปืน อวดโชว์เพื่อนต่างชาติด้วยกัน มีการเก็บค่าคุ้มครอง มีการอ้างตัวว่าทำงานกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย สามารถช่วยไกล่เกลี่ยหรือช่วยเหลือในด้านคดีได้ เนื่องจากตนรู้จักกับเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง โดยชายคนดังกล่าวมักพบเห็นบริเวณร้าน ม.4 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

จึงได้เข้ารายงานต่อ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.สทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ได้สั่งการให้สืบสวนจับกุม สามารถ จับกุม ขณะที่นายวลาดิสลาฟ อายุ 27 ปี สัญชาติ รัสเซีย กำลังยืนขายผลิตภัณฑ์กัญชาอยู่บริเวณเคาท์เตอร์ให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการอยู่ภายในร้าน แห่งหนึ่ง ที่ บริเวณ ม.4 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน)” ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามนายวลาดิสลาฟ ให้การยอมรับว่าตนได้ทำงานเป็นพนักงานขายกัญชาให้กับร้านดังกล่าว โดยได้รับเงินเดือนหักจากยอดขายทั้งหมด จำนวน 17% และได้ที่พักอาศัยฟรีภายในร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีมีการร้องเรียน นายวลาดิสลาฟฯให้การยอมรับว่าตนได้กระทำพฤติกรรมดังกล่าวจริง และได้นำเสื้อกั๊ก ปืนอัดลม M4A1 และกุญแจมือ นำมาแสดงให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งยอมรับว่าตนได้ใช้อุปกรณ์ใช้ในการก่อเหตุ ทั้งนี้ตนได้สั่ง ซื้อชุดเสื้อกักตำรวจ และ กุณแจมือ และปืน มาจาก แอป  ออนไลน์ และ ยอมรับว่าทำผิดจริง ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้

ทั้งนี้ ตำรวจท่องเที่ยว ขอประชาสัมพันธ์ให้ นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย หรือ ท่านใด ที่เคยถูกบุคคลดังกล่าวข่มขู่ เรียกเอาทรัพย์ หรือ อื่นใด ที่เห็นว่า ทำให้ เกิดความเสียหายเสื่อมเสียต่อทรัพย์ให้เดินทางมาร้องทุกต่อ พนักงานสอบส่วน สภ.เกาะพะงัน หรือ ติดต่อมายังตำรวจ ท่องเที่ยว สายด่วน 1155 ได้ตลอด

ทั้งนี้ทางท่าน พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำผบช.ทท.ได้กำชับหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนำร่องและพื้นที่ไกล้เคียงเร่งให้กวาดล้างการกระทำผิดของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี เพื่อสร้างภาพลักษณการท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นนี้ อย่างจิงจัง และเด็ดขาด