เปิดรายชื่อ 242 หุ้น เป้ากองทุน Thai ESG และ Thai ESGX
BIG_FIN March 12, 2025 09:42 AM

ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวง ตามมาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน (ESG) และเพิ่มเสถียรภาพตลาดทุนไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ได้แก่ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเงินลงทุนใหม่ในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long-Term Equity Fund: LTF) ไป Thai ESGX ในช่วงเวลาที่กำหนด 2 เดือน (พ.ค.-มิ.ย. 2568) ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด โดยให้สำนักงาน ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์รองรับกองทุนรวมดังกล่าวต่อไป

ด้านนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. จะเสนอคณะกรรมการกำกับตลาดทุน (ก.ต.ท.) เพื่อพิจารณาหลักการจัดตั้งและจัดการ Thai ESGX และจะเร่งออกประกาศรองรับ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้ บลจ. ยื่นขออนุมัติจัดตั้ง Thai ESGX ได้ภายในเดือน เม.ย. 2568

สำหรับมาตรการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม จากกอง Thai ESG ปกติ ที่ได้รับลดหย่อน 300,000 บาท โดยในปีนี้ หากลงทุนเพิ่มในกอง Thai ESGX (วงลดหย่อน 1) จะได้ลดหย่อนภาษีสูงสุดอีก 300,000 บาท

นอกจากนี้ ยังสามารถลดหย่อนภาษีสูงสุดอีก 300,000 บาท (วงลดหย่อน 2) หากผู้ถือหน่วยกองทุน LTF ได้สับเปลี่ยนหน่วยในกองทุน LTF ที่ถือครอง ณ วันนี้ ทั้งหมด เข้ามายังกองทุน Thai ESGX โดยในส่วนของวงลดหย่อน 2 ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกปีละ 50,000 บาท เป็นระยะเวลาอีก 4 ปี ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไข

ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เปิดเผยรายชื่อหุ้นจำนวน 242 บริษัท สำหรับกองทุน Thai ESG และ Thai ESGX ซึ่งประกอบด้วยรายชื่อหุ้นยั่งยืน (SET ESG Ratings) จำนวน 228 บริษัท และหุ้นไทยที่มีการเปิดเผยข้อมูลก๊าซเรือนกระจก 14 บริษัท ดังนี้

SET ESG Ratings 4 ระดับ

  • กลุ่ม AAA จำนวน 56 บริษัท
  • กลุ่ม AA จำนวน 80 บริษัท
  • กลุ่ม A จำนวน 71 บริษัท
  • กลุ่ม BBB จำนวน 21 บริษัท

โดยแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่า ธุรกิจบริการ มีสัดส่วน 47% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง มีสัดส่วน 38% ธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม มีสัดส่วน 35% ธุรกิจการเงิน มีสัดส่วน 33% ธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร มีสัดส่วน 29% ธุรกิจทรัพยากร มีสัดส่วน 29% ธุรกิจเทคโนโลยี มีสัดส่วน 21% และธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค มีสัดส่วน 10%

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.