ปิดฉากอย่างงดงามสำหรับ ‘Knowledge Fest เทศกาลอ่านเต็มอิ่ม 2025 x เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ’ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 โดย สำนักพิมพ์มติชน สานพลังกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ระหว่างวันที่ 8-9 มีนาคม 2568 ณ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม)
ตลอด 2 วันของการจัดงาน มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 16,000 คน ที่ได้สัมผัสบรรยากาศอันคึกคัก เต็มไปด้วยพลังแห่งการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกระตุ้นเม็ดเงินสะพัดกว่า 4 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่ได้รับความสนใจจากนักอ่าน นักคิด และผู้รักการเรียนรู้จากทุกวงการ
ปีนี้ Knowledge Fest 2025 ยิ่งใหญ่กว่าที่เคย ด้วยการจับมือกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง AIS, OKMD, มิวเซียมสยาม, เส้นทางเศรษฐี, ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงเหล่าพาร์ตเนอร์ความรู้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Witcast, สมาคมการ์ตูนไทย, สมาคมบอร์ดเกมประเทศไทย, ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC a member of NSTDA) พร้อมด้วยวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญจากหลายวงการมาร่วมแบ่งปันมุมมอง อาทิ สมาคมป้ายยาหนังสือ, เพจการตลาดวันละตอน, เพจ JUST READ และพันธมิตรอีกมากมาย ที่ได้มาสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ที่เข้าถึงได้ทุกคน
ภายในงานได้รับเกียรติจาก ปราปต์ บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ขึ้นกล่าวเปิดงานและได้เน้นย้ำว่า การสร้างความรู้อาจจะเกิดไม่ได้ด้วยการทำกิจกรรมขายหนังสือเพียงอย่างเดียว เครือมติชนจึงได้ออกแบบงานให้เป็น Knowledge Fest เนื่องจากกระบวนการก่อให้เกิดความรู้นั้นเกี่ยวพันกับการอ่านหนังสือด้วยกัน การรับฟังกัน การสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวมถึงการสร้างประสบการณ์อื่นๆ ในชีวิต เช่น ประสบการณ์ด้านความบันเทิง ด้านสันทนาการ ประสบการณ์ในการกินอาหาร ประสบการณ์การเดินเที่ยว ตลอดจนประสบการณ์ในการเล่น
“งานครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากพื้นที่อย่างมิวเซียมสยาม และพันธมิตรหลักอย่าง AIS และ OKMD ตลอดจนเพื่อนสำนักพิมพ์และองค์กรต่างๆ ที่มาร่วมจัดกิจกรรม อันก่อให้เกิดความรู้ที่หลากหลายในครั้งนี้” เอ็มดี มติชน เผย
อีกหนึ่งพันธมิตรสำคัญของงานในปีนี้คือ กรุงเทพมหานคร โดย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้กล่าวถึงภาพรวมงานนี้ว่า ขอขอบคุณมติชนและพันธมิตรทุกฝ่ายในการร่วมกับ กทม. เพื่อจัดงาน Knowledge Fest ในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีเป็นอย่างมาก ซึ่ง กทม. อยากให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ เพราะความรู้เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตัวเอง พัฒนาเมือง และพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป
“มติชนถือเป็นสื่อที่มีการให้ความรู้ในหลากหลายแขนง เช่น เส้นทางเศรษฐี ที่มีการเชิญร้านอาหารหลายๆ ร้านมาร่วมงาน ซึ่งเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน รวมไปถึงมีการเชิญสำนักพิมพ์ต่างๆ มาร่วมขายหนังสือให้ความรู้ และการแสดงดนตรี ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาจัดขึ้นในพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถมาร่วมงานได้ ถือเป็นสิ่งที่ดีและอยากให้มีการจัดงานลักษณะนี้ต่อไป”
ด้าน ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเสริมว่า เดือนมีนาคมเป็นเดือนที่ กทม. ได้ปักหมุดไว้ว่าเป็นเดือนแห่งการเรียนรู้ ซึ่งในช่วงปลายเดือนก็จะมีการจัดงานสัปดาห์หนังสือฯ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ การจัดงาน Knowledge Fest จึงเป็นเหมือนการนำร่องในต้นเดือนที่แสดงให้ประชาชนเห็นว่า งานมอบความรู้ลักษณะนี้ไม่ได้มีเพียงแค่งานหนังสือเพียงอย่างเดียว ที่สำคัญคือตอนนี้อยู่ในช่วงปิดภาคเรียน ผู้ปกครองที่ไม่รู้จะพาบุตรหลานไปเที่ยวที่ไหน งานลักษณะนี้จึงเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ผู้ปกครอง
อย่างไรก็ดี จากแนวคิดดังกล่าวและความสำเร็จของ ‘Knowledge Book Fair’ ในปีที่ผ่านมา ทำให้ Knowledge Fest 2025 ถูกยกระดับให้ครอบคลุมและเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยปีนี้เพิ่มกิจกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้เข้าร่วมงานทุกช่วงวัย ภายในงานถูกแบ่งออกเป็น 7 โซนหลัก ที่อัดแน่นไปด้วยสาระและความสนุก ทั้ง ทัวร์, ทอล์ก, เวิร์กชอป, หนังสือ และโซนอาหาร สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ครบทุกมิติ พร้อมให้ทุกคนได้ดื่มด่ำไปกับความรู้และแรงบันดาลใจตลอดทั้งงาน
ทัวร์ทอดน่อง ท่องมุมลับย่านพระนคร
เริ่มต้นด้วยกิจกรรม Book Tour ที่ได้พาผู้เข้าร่วมงานเดินทอดน่องเปิดมุมลับของพระนคร ผ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเกร็ดความรู้น่าสนใจ
โดยในวันแรกของงาน (8 มีนาคม 2568) ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.ชาตรี ประกิตนนทการ เจ้าของผลงาน ‘สถาปัตย์-สถาปนา: การ(เมือง)ดีไซน์พื้นที่และความนัยสถาปัตยกรรม’ มาเป็นวิทยากรพาทุกคนเดินสำรวจวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ผ่านมุมมองประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม พร้อมเผยคำตอบเกี่ยวกับ ‘จักรวาลใหม่’ ที่รัชกาลที่ 1 ทรงจำลองไว้ในวัดโพธิ์ และเรียนรู้เรื่องราวของพระมหาเจดีย์สี่รัชกาล พร้อมเยี่ยมชมศาลาแดง ตึกทรงฝรั่งที่สะท้อนอิทธิพลตะวันตก ในมุมที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน
ส่วนในวันที่สอง (9 มีนาคม 2568) ผู้เข้าร่วมงานได้เดินทัวร์ปากคลองตลาด พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และย้อนอดีตผ่านยุคอยุธยาและธนบุรี โดยมี ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ คอลัมนิสต์มติชนสุดสัปดาห์ เป็นวิทยากรนำชม ถ่ายทอดเรื่องราวที่หลายคนอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับย่านประวัติศาสตร์แห่งนี้
ทอล์กสุดเข้มข้น แบ่งปันความรู้-จุดประกายไอเดียใหม่
นอกจากกิจกรรมทัวร์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ภายในงานยังจัดเต็มด้วยเวทีทอล์กสุดพิเศษ ที่รวมตัวเหล่านักคิด นักเขียน และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ กว่า 20 ชีวิต อาทิ ศาสวัต บุญศรี อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร, สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักเขียนอิสระและเจ้าของนามปากกา ‘นิ้วกลม’, วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ นักเขียนเจ้าของผลงาน ‘The Lost Human: หนทางรอดก่อนยุคสูญพันธุ์’, ต่อวงศ์ ซาลวาลา เจ้าของเพจ 2how ผู้เชี่ยวชาญการถ่ายภาพและเทคโนโลยีดิจิทัล, ณัฐพล ม่วงทำ นักกลยุทธ์ และเจ้าของเพจ ‘การตลาดวันละตอน’, ‘อ.โต้ง’ นายอัจฉริยะ ศรีทา ‘ศักดิ์’ สุรศักดิ์ ป้องศร และ ‘โต้ง’ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ จากเรื่อง ‘จักรวาลไทบ้าน’ ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง จุดประกายไอเดีย และแบ่งปันองค์ความรู้แบบเข้มข้นตลอดสองวันเต็ม
สุรศักดิ์ ป้องศร ผู้กำกับและนักเขียนบท ‘จักรวาลไทบ้าน’ กล่าวตอนหนึ่งบนเวที BookTalk หัวข้อ ‘จักรวาลไทบ้าน: จุดเริ่มต้นไทบ้าน และก้าวต่อไปสู่ระดับโลก’ โดยบอกว่า ผมจำได้เลยว่า วันฉายรอบสื่อวันแรก หนังยังตัดต่อไม่เสร็จ ฉายรอบสื่อไปไฟล์หายไปบ้าง มีปัญหาบ้าง มีเสียงคัทสเลทบ้าง ตอนนั้นเป็นความรู้สึกที่ใจหายมาก เพราะอีก 5 วัน ต้องฉายแล้ว
“ผมเหนื่อยมากในการทำธุรกิจ จุดพีคสุดคือ การที่คิดว่าตัวเองถอดใจ แต่เมื่อเรารู้ว่าเราพลาดอะไรแล้ว เราก็ต้องไปแก้ตรงนั้น เราตัดต่อบนเครื่องบินก็ทำมาแล้ว ต้องไฟล์ DCP (Digital Cinema Package-ไฟล์ภาพยนตร์ในรูปแบบดิจิทัลสำหรับฉายในโรงภาพยนตร์) เราก็ไปจ้างเจ้าที่เป็นมือสมัครเล่น แล้วใช้ไม่ได้ จนเราต้องไปแปลงไฟล์เองในร้านเกม เราเอาคอมกว่า 40 เครื่องไปตั้งที่ร้านเกม ผมไม่ได้นอนกว่า 5 คืนติด เราต้องทำงานแข่งกับเวลามากๆ แล้วเราก็ทำได้ก่อนหนังฉาย 1 วัน”
ขณะเดียวกัน ภายในงาน Knowledge Fest 2025 ยังมีวงเสวนาที่ได้พูดคุยถึงละครที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้อย่าง ‘คุณพี่เจ้าขา ดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์’ ละครพีเรียดชื่อดังทางช่อง 3 และสตรีมทาง Netflix ผ่านกิจกรรม ‘Book Talk: กอสซิปประวัติศาสตร์ คุณพี่เจ้าขา…ดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์’ โดยได้มีการเชื้อเชิญ ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และผู้เป็นทายาทของยายแฟง, ‘ป้าแจ๋ว’ ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ผู้กำกับละครเรื่องนี้ รวมทั้งเหล่านักแสดง นำโดย จอย-รินลณี ศรีเพ็ญ ผู้รับบท ‘แม่แฟง’, ธัชทร ทรัพย์อนันต์ รับบท ‘พ่อเผือก’ และ อภัสสรา สนแสบ รับบท ‘นกน้อย’ มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองถึงละครแบบออกรสออกชาติ โดยมี ผศ.อัครพงษ์ ค่ำคูณ ดำเนินรายการ
ซึ่งความตอนหนึ่งบนเวทีเสวนา ป้าแจ๋ว ได้เล่าถึงที่มาของละครเรื่องนี้ว่า ปกติเป็นคนชอบดูละครพีเรียด อยากทำละครพีเรียด และชอบอ่านนิยายพีเรียดอยู่แล้ว รวมถึงชอบเรื่องราวสมัยรัชกาลที่ 3-5 แต่ปัญหาคือหลายๆ เรื่องที่อยู่ในความสนใจก็ถูกสร้างไปแล้ว จนกระทั่งได้อ่านหนังสือ ‘คุณพี่เจ้าขา…ดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์’ แล้วพบว่ามีเนื้อหาสนุกสนาน น่าสนใจ โดยเฉพาะชะตากรรมของนางเอกที่โดดเด่นและแตกต่างกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะย้อนเวลากลับไปเป็น ‘นางคณิกา’ จึงอยากเอามาทำละคร และเกิดเป็นละครเรื่องนี้ขึ้นมา
“อยากทำละครให้ดูสนุกและแทรกรายละเอียดทางประวัติศาสตร์ให้มากที่สุด จึงพยายามมอบความประณีตบรรจงใส่ไว้ในละคร ในฐานะคนทำละครจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง หากผู้ชมเอาไปต่อยอดด้วยการศึกษาหรืออ่านค้นคว้าเพิ่มเติม”
ด้าน ศ.พิเศษ ธงทอง ยังเล่าเสริมความรู้เรื่อง ‘บ้านการบุญ’ โดยบอกว่า บ้านของตระกูลบริเวณตรอกเต๊า เยาวราช ที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบงานบุญงานกุศลต่างๆ ในอดีต ทั้งมีกองทุนสำหรับนิมนต์พระมาเทศน์ทุกวันพระ ซึ่งตนตั้งข้อสันนิษฐานว่า บริเวณตรอกเต๊าอาจเคยเป็นที่อยู่อาศัยของแม่แฟงก็เป็นได้
เติมเต็มความรู้ พร้อมลงมือทำและสัมผัสจริง
ไม่เพียงแต่มีกิจกรรมเสวนาที่อัดแน่นไปด้วยสาระเท่านั้น แต่ Knowledge Fest 2025 ยังเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้ลงมือทำและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรม Book Master Class ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ทั้ง ‘อิ่มกาย สบายใจ’ ไปพร้อมกัน โดยมี ดร.ฐนิต วินิจจะกูล อาจารย์จากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และแอดมินเพจ ‘เมื่อวานนี้ทานอะไร?’ ร่วมด้วยนักกำหนดอาหารมากประสบการณ์อย่าง ภัสราภรณ์ สำเภานนท์ จากโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ และ สุภานัน มากรัมย์ จากบริษัท อีทเวลล์คอนเซปต์ จำกัด มาร่วมแชร์ความรู้ด้านโภชนาการ พร้อมแจกสูตรเมนูสุขภาพกว่า 4 เมนูพิเศษ ที่ทั้ง ทำง่าย อร่อย และดีต่อสุขภาพ
จากการดูแลสุขภาพผ่านอาหาร เรามาขยับเข้าสู่โลกของอดีตกาลที่เต็มไปด้วยความลึกลับและน่าค้นหา ผ่านเสวนา ‘ไดโนสนุก ไดโนเสาร์ ทำไมไทยถึงเป็นบ้านของไดโนเสาร์?’ ที่ได้ ดร.สุรเวช สุธีธร ผู้เชี่ยวชาญด้านไดโนเสาร์คอยาว (ซอโรพอด) หนึ่งเดียวในอาเซียน และ แทนไท ประเสริฐกุล ร่วมพาทุกคนออกเดินทางย้อนเวลากลับไปสำรวจโลกยุคดึกดำบรรพ์ ไขปริศนาและความลับของไดโนเสาร์ในไทยแบบเจาะลึก พร้อมเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่เคยครองโลกเมื่อหลายล้านปีก่อน
เมื่อกล่าวถึงการเดินทางผ่านกาลเวลา วรรณกรรมก็คืออีกหนึ่งเครื่องมือที่พาเราก้าวข้ามยุคสมัยไปได้ ซึ่งหากพูดถึง ‘นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ’ คงไม่มีใครไม่รู้จัก กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ นักเขียนชาวโคลอมเบียผู้เป็นต้นแบบของวรรณกรรมแนว ‘สัจนิยมมหัศจรรย์’ (Magical Realism) ในงานนี้ เมธาวี โหละสุต และ รณฤทธิ์ มณีพันธุ์ ได้พาทุกคนดำดิ่งสู่โลกแห่งตัวอักษร ในกิจกรรม ‘เมาท์มอยวรรณกรรม: ไหว้ผีมาร์เกซ งานหลังความตาย และชีวิตใหม่บนหน้าจอ’ เจาะลึกชีวิตและผลงานระดับตำนาน พร้อมแนะนำหนังสือที่ต้องอ่านสักครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว, ไม่มีใครเขียนถึงผู้พัน, และ ไว้พบกันเดือนสิงหา
และหากพูดถึงนักเขียนที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการวรรณกรรมอีกท่าน ‘เออร์ซูลา เค. เลอ กวิน’ คงเป็นชื่อที่ไม่อาจมองข้าม เธอคือนักเขียนหญิงที่เปลี่ยนโฉมนิยายไซไฟและแฟนตาซีให้เต็มไปด้วยมิติที่ลึกซึ้ง ดึงดูดนักอ่านทั่วโลกให้ดำดิ่งสู่จักรวาลที่เธอรังสรรค์ขึ้นมา ซึ่งภายในงานก็มีกิจกรรม ‘เมาท์มอยวรรณกรรม: เออร์ซูลา เค. เลอ กวิน ผู้หญิง และ ไซไฟ (?)’ โดย ธาริตา อินทนาม และ รณฤทธิ์ มณีพันธุ์ ที่ให้ผู้เข้าร่วมได้ถอดรหัสแนวคิด เทคนิคการเล่าเรื่อง และสาระสำคัญที่ซ่อนอยู่ในงานเขียนของเธอ พร้อมค้นพบมุมมองใหม่ๆ ที่ทำให้วรรณกรรมของเลอ กวิน ยังคงเป็นที่จดจำจนถึงปัจจุบัน
รวมพลคนรักหนังสือ ดำดิ่งสู่โลกแห่งการอ่าน
งานนี้ยังเอาใจนักอ่านด้วยกิจกรรมสุดพิเศษ Book Club รวมพลคนรักการอ่าน ที่เปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้มาล้อมวงพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การอ่านไปพร้อมกัน เริ่มต้นด้วย ‘สืบจนชำนาญ เพราะอ่านวรรณกรรม’ ที่พาผู้เข้าร่วมงานดำดิ่งสู่โลกของวรรณกรรมแนวสืบสวนไปกับ ปูเป้ สมาคมป้ายยาหนังสือ และ เวฟ JUST READ ให้ทุกคนได้ร่วมคลี่คลายปริศนาและค้นหาเงื่อนงำจาก 3 นิยายเข้มข้นจากสำนักพิมพ์มติชน ได้แก่ A Tidy Ending รวบ รัด ขจัดปม, How to Kill My Family ลูกสาวคนนี้ขอทวงแค้น และ The Wonder จับตา ศรัทธาลวง
ต่อด้วย ‘อาทิตย์ละเล่ม อ่านอุ้มใจ’ โดย อุ้ม ARTHIT TIME (ช่องอาทิตย์ละเล่ม) ที่พานักอ่านออกเดินทางค้นหาหนังสือฮีลใจที่ใช่สำหรับตัวเอง ผ่านคอลเลกชันพิเศษจาก สำนักพิมพ์ Broccoli Book ไม่ว่าจะเป็น Self-Love First กอดใจไว้ก่อน โดย เมริษา ยอดมณฑป ที่ช่วยเติมเต็มความรักให้ตัวเอง หรือ No Hurry, No Worry ขออภัย แต่ไม่ต้องรีบ โดย พิชญา โชนะโต ที่ชวนทุกคนใช้ชีวิตให้ช้าลงและสุขมากขึ้น
หนังสือดี อาหารเด็ด ดนตรีเพราะ มีครบจบในงานเดียว
ภายในงาน Knowledge Fest 2025 เด็กๆ และครอบครัวต่างเพลิดเพลินไปกับโซน Playground พื้นที่สร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ สนุกไปกับกิจกรรมแสนเพลิดเพลินที่ทั้งเล่นได้และได้ความรู้ ไม่ว่าจะเป็น Board Game ล้อมวงเล่น โดย สมาคมบอร์ดเกมประเทศไทย และ Siam Board Games, ParaDough ยางปั้นพาเพลิน โดย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) และ กิจกรรมวาดภาพการ์ตูน โดย สมาคมการ์ตูนไทย ซึ่งสร้างรอยยิ้มและแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ได้อย่างเต็มที่
นอกจากการเรียนรู้ผ่านการเล่น Book Blind Date ยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เปิดโอกาสให้เหล่านักอ่านได้แลกเปลี่ยนหนังสือและมุมมองใหม่ๆ กับเพื่อนร่วมงาน นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมเขียนบอกรักหนังสือเล่มโปรด ที่เต็มไปด้วยข้อความจากใจของผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งถูกแปะไว้บนบอร์ดจนแน่นขนัด
ขณะเดียวกัน งานนี้ยังร่วมรักษ์โลกไปกับ AIS จัดกิจกรรมเก็บ E-Waste หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ใช้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ, สายชาร์จ, หูฟัง, เมาส์, คีย์บอร์ด เพื่อรีไซเคิลและลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังเพิ่มขึ้นในโลกยุคใหม่ ซึ่งผู้เข้าร่วมงานต่างให้ความสนใจร่วมทำดีเพื่อโลก พร้อมรับรางวัลพิเศษมากมาย
งานหนังสือทั้งที จะขาดโซนนักอ่านไปได้อย่างไร ‘Mini Book Fair’ จึงเป็นโซนที่ขนขบวนหนังสือคุณภาพจาก 14 สำนักพิมพ์ชั้นนำ มาให้เลือกซื้อในราคาสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น สำนักพิมพ์มติชน, สำนักพิมพ์แสงดาว, มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, สำนักพิมพ์สารคดี-เมืองโบราณ, สำนักพิมพ์ River Books, สำนักพิมพ์ยิปซี, สำนักพิมพ์ต้นฉบับ, สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน, สำนักพิมพ์แซลมอน, สำนักพิมพ์บทจร, สำนักพิมพ์ Word Wonder, แมงมุม บุ๊ก & อะโวคาโด บุ๊กส์ และ สำนักพิมพ์แจ่มใส ซึ่งแต่ละบูธต่างได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักอ่านทุกวัย
เติมเต็มความรู้กันมาทั้งวัน ‘Mini Food Fest’ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะขน 20 ร้านดัง มาเสิร์ฟความอร่อยถึงที่ ไม่ว่าจะเป็น หมูกรอบตลอดไป, กะเพราจิตสดชื่น, อนันต์จะปั่นชาเย็น, ทองดีเบอร์เกอร์, Fair Chocolate, เจปัง, ลื้อมันรั้น และอีกมากมาย ให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยระหว่างเดินชมงาน
ปิดท้ายอย่างประทับใจด้วย ‘เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ’ ที่มาสร้างบรรยากาศสุดพิเศษให้กับพื้นที่แห่งความรู้ ผ่านเสียงดนตรีอันไพเราะจาก ‘กองการสังคีต กรุงเทพมหานคร’ ร่วมด้วยศิลปินเพลงแหล่ชื่อดัง ‘ทศพล หิมพานต์’ ที่มาเติมเต็มความสนุกสนาน จนผู้เข้าร่วมงานต่างให้ความสนใจนั่งรับชมกันแน่นพื้นที่สนามหญ้าในมิวเซียมสยาม
แม้งานจะจบลงไปแล้ว แต่ความรู้ แรงบันดาลใจ และความประทับใจจาก Knowledge Fest 2025 ยังคงอยู่กับทุกคน สำหรับใครที่พลาดกิจกรรมดีๆ ครั้งนี้ ไม่ต้องเสียใจ เพราะยังมีอีกหลายกิจกรรมที่น่าสนใจให้ติดตามต่อไป สามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของกิจกรรมเครือมติชนได้ทาง มติชน, ข่าวสด, ประชาชาติธุรกิจ, มติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม, เส้นทางเศรษฐีออนไลน์, เทคโนโลยีชาวบ้าน, FEED, มติชนทีวี และ สำนักพิมพ์มติชน ครบทุกช่องทางทั้ง สิ่งพิมพ์ ออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย
