พายุฤดูร้อน ถล่มยโสธร บ้านเรือนเสียหายกว่า 100 หลัง ผู้ว่าฯลงพื้นที่สั่งเร่งตรวจสอบ จัดงบช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายได้เกิดมีพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร มีทั้งลมหมุนพัดแรงก่อนจะมีฝนตกหนักและตามมาด้วยลูกเห็บตกจนสร้างความแตกตื่นตกใจกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่ที่ประสบเหตุเพราะไม่เคยพบเห็นมาก่อนโดยเฉพาะลมหมุนที่พัดถล่มอย่างแรงจนทำให้มีบ้านเรือนของชาวบ้านสิ่งปลูกสร้างต่างๆและป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ รวมทั้งต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มระเนระนาด หลังคาบ้านเรือนประชาชนถูกแรงลมพัดปลิวหายไปกับแรงลมกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ และยังมีหลังคาสังกะสีบางส่วนพัดไปติดอยู่กับสายไฟฟ้าแรงสูง จนส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าต้องเร่งเข้าดำเนินการแก้ไขและนำเศษสังกะสีที่ปลิวไปติดสายไฟฟ้าแรงสูงออกอย่างเร่งด่วน เพื่อจะได้ปล่อยกระแสไฟฟ้าให้กับชาวบ้านได้มีไฟฟ้าใช้
นอกจากมีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายแล้วยังมีร้านขายไก่ย่างส้มตำที่อยู่ริมถนนแจ้งสนิท บริเวณด้านหน้าปั้มน้ำมัน ปตท.คำเขื่อนแก้ว ถูกแรงลมจนได้รับความเสียหายไปอีกหลายร้านและมีรถยนต์กระบะของชาวบ้านที่บ้านดอนเขือง ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งได้จอดเอาไว้บริเวณหน้าบ้านพักถูกกิ่งต้นยางนาขนาดใหญ่หักลงมาทับหลังคารถจนได้รับความเสียหายไปอีก 1 คัน ความเสียหายเบื้องต้นในเขตเทศบาลตำบลคำเขื่อนแก้ว มีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือน และนอกเขตซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.ลุมพุก ยังมีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายอีกจำนวนมากอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย
หลังเกิดเหตุ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรและ พันจ่าเอก อนุสิทธิ์ บัวหุ่ง นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตนเองเพื่อให้กำลังกับชาวบ้านที่ประสบภัยพร้อมทั้งได้กำชับให้ผู้นำชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งรายงานให้กับทางอำเภอคำเขื่อนแก้วและจังหวัดยโสธร อย่างเร่งด่วนเพื่อจะได้เร่งจัดสรรงบประมาณเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วนต่อไป
พันจ่าเอก อนุสิทธิ์ บัวหุ่ง นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15 นาฬิกาเศษ โดยได้มีลมพัดแรงแล้วมีฝนตกหนักและตามมาด้วยมีลูกเห็บตกโดยใช้เวลาอยู่ประมาณ 45 นาที เหตุการณ์ก็สงบฝนหยุดตก หลังจากนั้นตนจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายด้วยตนเองพร้อมทั้งได้กำชับให้ผู้นำชุมชนได้เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนแต่เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้นอกจากมีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย สำหรับในเขตเทศบาลตำบลคำเขื่อนแก้ว มีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือน และนอกเขตเทศบาล ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.ลุมพุก ก็มีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายอีกเป็นจำนวนมากเช่นกันและอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่