ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มบ้าง จากสิ่งที่เกิดขึ้น?
“มันไม่ถึงกับเรียนรู้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เราก็รับรู้อยู่แล้วในบางเรื่อง ผมอยู่กับความทุกข์ มาตั้งแต่แม่ผมป่วย ทุกคนดูเหมือนผมวางได้เร็ว เพราะเป็นประสบการณ์ แม่ผมป่วยมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ แล้วแม่ผมเคยจะเสียสองรอบแล้ว หมอบอกว่าแม่จะไม่รอดมาสองครั้งแล้ว เหมือนเราอยู่กับแบบนี้มาจนเราเข้าใจว่าไม่วันใดก็วันนึงจะต้องมีคนที่นั่งๆ กันอยู่ พี่ผม ก็ต้องจากกัน ไม่จากเป็นก็จากตาย ก็รู้สึกว่ามันก็เป็นแบบนี้แหละ เวลาใครถามผม ผมก็จะบอกว่ามันเป็นแบบนี้แหละ เดี๋ยวสักวันพี่ก็จะเจอปัญหาเหมือนที่ผมเจอ แต่อาจแค่ต่างสถานการณ์กัน”
เรามีภูมิต้านทานไว้บ้างแล้ว พอวันนี้เจอสิ่งที่ค่อนข้างหนัก เราเลยรู้สึกว่าเรารับมันได้ เราปล่อยวางมันได้ ได้วิธีคิดบทเรียนวิธีคิดอะไรกับการใช้ชีวิตต่อจากนี้ต่อไป?
“ผมคิดตลอดเวลาอยู่แล้ว น่าต้องทำให้ดีขึ้นไป แต่ไม่รู้จะวิธีไหน (หัวเราะ) แต่คนเราถ้ามีเหตุผล เรานิ่ง เวลาเราเจออะไรเราก็คิดได้ ถ้าเรานิ่งๆ ไว้ อาจคิดไม่ได้วันนี้ พรุ่งนี้ก็อาจคิดได้”
คนรอบข้างครอบครัวให้กำลังใจกันยังไงบ้าง?
“ส่วนใหญ่ผมให้กำลังใจคนอื่น ทุกวันนี้ผมยังให้กำลังใจคนอื่น ใครถามผมเรื่องเศร้า ผมก็จะตอบกลับไปว่าพี่ไม่ต้องมาเศร้าเรื่องผมนะ ปัญหาพี่ก็มีอีกเยอะ พี่ก็ใช้ชีวิตต่อ เชื่อผมเถอะ เดี๋ยวลูกพี่ เมียพี่ก็จะมีปัญหา พี่ทำใจไว้ได้เลย พี่เอาผมเป็นบทเรียนแล้วกัน ผมจะชอบพูดกลับไปแบบนี้ ไม่ชอบตอบอะไร”
แฟนคลับที่รักมากๆ มากอด แล้วร้องไห้ เขาอินกับเรา เสียใจและเศร้าไปกับเรา แต่คนโดนกอดแข็งแรง?“ใช่ครับ คนชอบคิดว่าผมทำเป็นแข็งแรง แต่จริงๆ ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้รู้สึกว่าผมเสียอะไรไป หรือได้อะไรมา ผมก็รู้สึกว่าผมปกตินะครับ”
อาจแปลกใจว่าถ้าเป็นเราเจอจะไหวเหมือนเขามั้ย แต่คนเราภูมิต้านทานไม่เหมือนกัน อยากบอกอะไรกับแฟนคลับหรือคนที่ติดตามเรื่องของเรา ให้กำลังใจเราในช่วงที่ผ่านมามั้ย?
“ขอบคุณทุกคน ขอบคุณทุกกำลังใจครับ ดีใจที่ได้รับกำลังใจจากทุกคน ผมก็ขอส่งกำลังใจคืนกลับไปให้ทุกๆ คนด้วยนะครับ”
วัยเด็กแสนลำบาก พ่อปลูกฝังระเบียบวินัย
ปุ้ยเติบโตมาในครอบครัวที่มีพี่น้อง 6 คน พ่อเป็นทหารที่เข้มงวด สอนให้ลูกชาย “อย่าทำให้ใครเดือดร้อน” บ้านยากจนถึงขั้นมีไฟฟ้าใช้เป็นหลังสุดท้ายของหมู่บ้าน นักเรียนมีชุดเดียวต้องซักทุกวัน และหากทำผิด โดนทำโทษด้วยการคัดลายมือ วิ่งออกกำลังกาย
แม้ลำบาก พ่อยังทุ่มเทส่งลูกเรียนสูงสุด ถึงขั้นสมัครไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อให้ได้เงินเพิ่ม ปุ้ยและพี่ชายเรียนกฎหมายที่รามฯ แต่ต้องใช้ชีวิตประหยัดสุดๆ มีเงินไม่เกินวันละ 100 บาท
เดินเก็บเงินข้างถนน กินข้าวฟรีตามโรงทาน
ช่วงเรียน ปุ้ยใช้ชีวิตอย่างลำบาก ถึงขั้นเดินก้มหน้าหาเงินตกตามพื้น หรืออาศัยโรงทานตามวัดเพื่อประทังชีวิต
“เคยไม่เหลือเงินเลย ต้องเก็บเงินข้างถนน ซื้อข้าวแกง 10 บาทแบ่งกินสองมื้อ อาศัยโรงทานที่วัดช่วยประทังความหิว”

จากวันที่ต้องขอข้าวกิน ถึงวันที่แฟนคลับร้องไห้กอด
วันนี้ ปุ้ยกลายเป็นศิลปินที่มีแฟนคลับรักและให้กำลังใจมากมาย แม้เจออุปสรรคหนัก แต่เจ้าตัวยังเข้มแข็ง ย้ำว่า
“ผมไม่ได้สูญเสียอะไรไป” และขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมา.