SAS ชู 'SAS Viya' เสริมแกร่ง 'แบงก์' รับมืออาชญากรรมออนไลน์
Kaimuk_ICT March 17, 2025 01:24 PM

SAS ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ พัฒนา “SAS Viya” โซลูชั่น Cloud-Base รองรับการเชื่อมต่อโมเดลโอเพ่นซอร์ส เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ช่วยลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ “แบงก์” รับมือความเสี่ยง-ลดความสูญเสียจากอาชญากรรมออนไลน์

นายณฐพล อภิรักษ์โตยานันท์ กรรมการผู้จัดการ SAS ประเทศไทย กล่าวว่า SAS เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นไอทีระบบที่ดำเนินธุรกิจกว่า 49 ปี และเข้ามาทำตลาดในไทยกว่า 23 ปี มีลูกค้าในไทยประมาณ 100 ราย โดย 70% เป็นลูกค้าในกลุ่มธนาคารและบริการทางการเงิน (Financial Services) และอีก 30% อยู่ในอุตสาหกรมอื่น ๆ

“สิ่งที่ลูกค้ากลุ่มธนาคารให้ความสำคัญมากมี 3 เรื่องหลัก ๆ คือ 1.การป้องกันอาชญากรรมและการหลอกลวง 2.การบริหารความเสี่ยง และ 3.การทำความเข้าใจลูกค้า ยิ่งมีเรื่องของ พ.ร.ก.อาชญากรรมออนไลน์เข้ามาด้วย ยิ่งต้องการโซลูชั่นในการวางระบบหลังบ้านที่ตอบโจทย์ทุกเรื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นายณฐพลกล่าวต่อว่า ท่ามกลางความต้องการของลูกค้าองค์กร และการเข้ามามีบทบาทของ AI ทำให้ในปี 2023 SAS ตัดสินใจลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (3.36 หมื่นล้านบาท) ในระยะเวลา 3 ปี เพื่อพัฒนาโซลูชั่นแบบ Cloud-Base ที่รองรับการทำงานบนคลาวด์ เรียกว่า “SAS Viya”

SAS Viya รองรับการเชื่อมต่อโมเดลแบบโอเพ่นซอร์สของผู้ให้บริการรายอื่น ๆ เช่น Amazon และ Red Hat เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้ระบบของ SAS โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ภาษา SAS มาก่อน และจากการทดสอบของ The Futurum Group พบว่า การเทรนโมเดลสำหรับพัฒนา AI บน SAS Viya เร็วกว่าโมเดลโอเพ่นซอร์สทั่วไป 30 เท่า

การที่ SAS ต้องทำระบบให้ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว เพราะต้องตรวจจับพฤติกรรมการทำธุรกรรมที่ผิดปกติเพื่อหยุดยั้งความเสียหายได้อย่างทันท่วงที ท่ามกลางปริมาณธุรกรรมที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น การรูดบัตรเครดิตแบบถี่ ๆ ในจำนวนเงินที่มากกว่าปกติ เป็นต้น

“SAS Viya เป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของ SAS ในแง่ของการพัฒนาโซลูชั่นให้สอดรับกับความต้องการในปัจจุบัน โดยปีนี้วางแผนที่จะย้ายเวิร์กโหลดของลูกค้าที่อยู่บน SAS 9 ที่รองรับการทำงานเฉพาะบน On Premise มาอยู่บน SAS Viya ทั้งหมด เพราะมีความคล่องตัวมากกว่า โดยทำงานได้ทั้งบนคลาวด์และ On Premise”

นายณฐพลกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจของ SAS ประเทศไทย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.การขายไลเซนส์บริการ 2.การให้บริการแบบ Subscription ตามรอบที่กำหนด และ 3.การให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มมีสัดส่วนรายได้พอ ๆ กัน

ส่วนแนวทางการทำตลาดในปัจจุบันจะเน้นไปที่การทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่มีการแต่งตั้งในประเทศไทย เช่น ยิบอินซอย, G-Able และ Metro Systems มากกว่าดีลกับลูกค้าโดยตรง

“ธุรกิจการให้บริการโซลูชั่นไอทีระบบยังมีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง แต่บางรายอาจมีที่ชนกับเราแค่บางโซลูชั่น ด้วยความที่ SAS อยู่ในตลาดมาเกือบ 50 ปี มีบริการครอบคลุมทั้งด้านการบริหารความเสี่ยง และการตรวจจับความผิดปกติแบบเรียลไทม์ ทำให้ยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาจนถึงปัจจุบัน”

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.