แพทย์เตือน 8 อาการอักเสบเรื้อรัง กระตุ้นร่างกายในระยะยาว ใกล้ชิดกับหลายโรค ชี้เป็นอาการเกิดขึ้นง่าย ๆ และใกล้ตัว พร้อมแนะวิธีป้องกัน

เรียกได้ว่า หลาย ๆ คนคงเคยได้ยิน “อาการอักเสบเรื้อรัง” มาบ้าง แต่คงนึกภาพตามได้ยาก ดังนั้น เพื่อสุขภาพดี นายแพทย์ จางเจียหมิง แพทย์ด้านพันธุกรรมและผู้อำนวยการแผนกปรับปรุงพันธุกรรมของโรงพยาบาลทหารผ่านศึกไทเป ได้ออกมาให้องค์ความรู้ทางการแพทย์ผ่านเฟซบุ๊ก หากอาการเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แสดงว่าอาการอักเสบเรื้อรังในร่างกายกำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแล้ว

นพ. จางเจียหมิงเผยว่า การอักเสบเรื้อรังเป็นการกระตุ้นร่างกายในระยะยาว ซึ่งทำให้เซลล์และระบบภูมิคุ้มกันอยู่ในภาวะต่อสู้ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ทำให้ผู้คนป่วยทันที แต่อาการที่มองไม่เห็นนี้จะค่อย ๆ ทำลายสุขภาพ ส่งผลต่อระบบต่า งๆ ในร่างกาย และในที่สุดจะกลายเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังต่าง ๆ

นพ. จางเจียหมิงอธิบายเพิ่มเติมว่า เซลล์กำลังต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่สบายทางร่างกายและจิตใจในระยะยาว ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้ เช่น รู้สึกเหนื่อยล้าตลอดเวลา, ตื่นมาเหมือนไม่ได้พักผ่อนเต็มที่แม้จะนอนมาเป็นเวลานาน, รู้สึกไม่สบายท้อง, ท้องเสีย, ปวดข้อเป็นครั้งคราว, ผิวหยาบกร้าน, ผิวหมองคล้ำ เริ่มมีสิวและผื่นแพ้

อาการอักเสบเรื้อรังไม่ใช่แค่คำศัพท์ แต่เป็น “โรคระบาด” ในหมู่คนยุคใหม่ นพ. จางเจียหมิงกล่าวว่า การอักเสบเรื้อรังเปรียบเสมือนไฟที่ลุกโชนช้า ๆ ในร่างกาย จากมุมมองของการแพทย์ทางพันธุกรรม การอักเสบเรื้อรังไม่ได้เป็นปัญหาของอวัยวะเพียงอวัยวะเดียวอีกต่อไป แต่เป็นผลต่อระบบโดยรวม

“การอักเสบที่มองไม่เห็น” นี้ไม่ชัดเจนเหมือนหวัดหรือการบาดเจ็บ แต่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับโรคหัวใจและหลอดเลือด, เบาหวาน, มะเร็ง, สมองเสื่อม และแม้แต่โรคอ้วนและภาวะซึมเศร้า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า มีปัญหาอาการอักเสบเรื้อรังหรือไม่? นพ. จางเจียหมิงยังเผยอาการสำคัญ 8 ประการต่อไปนี้ที่สาธารณชนควรใส่ใจมากขึ้น

• ปากแตก มีกลิ่นปาก เหงือกบวมและเจ็บ และเจ็บคอซ้ำ ๆ
• “อาการอาหารไม่ย่อย”: ความเครียดสามารถทำให้เกิดอาการท้องเสีย กรดไหลย้อน ท้องอืด และอาหารไม่ย่อยได้
• “ยังรู้สึกเหนื่อยแม้จะนอนหลับเพียงพอแล้ว”: นอนวันละ 7 – 8 ชั่วโมงแต่ยังรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าได้ง่าย
• “สมองทำงานช้า”: ความจำจะแย่ลง ความคิดจะช้าลง สมาธิจะจดจ่อได้ยาก และลืมง่าย
• “อาการข้อเสื่อม” :เมื่อตื่นนอนลุกขึ้นในตอนเช้าหรือยืนขึ้นหลังจากนั่งเป็นเวลานาน เข่า หลัง และเอวจะตึงหรือเจ็บปวด
• “ผิวแย่ลง”:มีแนวโน้มเกิดสิวง่าย ผิวหมองคล้ำ รอยแดง บวม เป็นผื่นผิวหนัง และแพ้ง่าย
• “เป็นหวัดง่ายเมื่อมีความเครียด”:ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง รู้สึกเจ็บป่วยง่ายขึ้นกว่าเดิม และระยะเวลาการฟื้นตัวนานขึ้น
• “น้ำหนักขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ”: กินไม่มากแต่พุงกลับใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไขมันในร่างกายก็เพิ่มขึ้น และระบบเผาผลาญก็ทำงานช้าลง

หากต้องการอยู่ห่างจากอาการอักเสบเรื้อรัง นพ.จางเจียหมิงแนะนำให้เปลี่ยนนิสัยการใช้ชีวิต ลดน้ำตาลขัดสี อาหารแปรรูป อาหารทอด และรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้น เช่น ผักใบเขียว, ถั่ว, น้ำมันปลา, ขมิ้น และชาเขียว นอกจากนี้ ต้องออกกำลังกายด้วย การเดินเร็วเป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน การเล่นโยคะ และการว่ายน้ำ จะช่วยให้ร่างกายกระตุ้น “กลไกต่อต้านการอักเสบ”

พร้อมทั้งควรใส่ใจเรื่องการนอนหลับด้วย นพ. จางเจียหมิงชี้ให้เห็นว่า การนอนดึกจะส่งผลต่อการซ่อมแซมร่างกายและเพิ่มดัชนีการอักเสบ