แมว จิรศักดิ์ ตกใจรู้ข่าว แซ็ก I-ZAX โดนจับข้อหายาเสพติด รับเป็นห่วง แต่ทุกอย่างเกิดจากผลของการกระทำ ไม่ซีเรียสโดนโยงนามสกุล
จากกรณี ป.ป.ส. แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายจัดหาและจำหน่ายยาเสพติดภายในประเทศ ขยายผลจับกุมลูกค้ายาเสพติด ซึ่งพบว่าเป็นอดีตนักร้องดังยุค 90 แซ็ก พัชรพล ปานพุ่ม หรือ แซ็ก I-ZAX ก่อนจะขยายผลต่อ พบว่ามีกลุ่มนักร้องและดาราที่สั่งซื้อยาเสพติดจากผู้ต้องหาหญิงรายนี้อยู่อีก ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
หลังข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตหลายคนเข้าไปคอมเมนต์ด้วยความสงสัย เมื่อเห็นนามสกุล ปานพุ่ม ของนักร้องหนุ่ม แซ็ก พัชรพล ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับศิลปินร็อกชื่อดัง แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม
ล่าสุดวันที่ 18 ม..ค.2568 ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ได้ต่อสายตรงหา แมว จิรศักดิ์ เพื่อสอบถามถึงประเด็นดังกล่าวที่มีการโยงมาถึงชื่อและนามสกุลของตนเอง โดย แมว กล่าวว่า “ผมเพิ่งทราบข่าวเหมือนกัน ส่วนเรื่องที่มีการโยงถึงนามสกุลปานพุ่มว่าจะกระทบกับชื่อเสียงของเราไหม ผมว่าไม่กระทบหรอกครับ เพราะมันก็คนละส่วนกัน”
“คือถ้าจะโยงว่าเป็นหลานเราก็ไม่แปลกเพราะเขาเป็นหลานเราจริงๆ ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะถูกโยงมาอยู่แล้ว แต่ว่าเราไม่ได้ติดต่อกันเลย ครอบครัวผมค่อนข้างที่จะอยู่ใครอยู่มัน ไม่ได้ยุ่งอะไรกัน แต่พอได้ข่าวมาเราก็รู้สึกว่าไม่น่าเลย”
“อย่างที่บอกว่าเราทราบข่าววันนี้พร้อมกับทุกคน เพราะส่วนตัวไม่ค่อยได้เสพข่าวเท่าไหร่อยู่แล้ว แต่มีเพื่อนๆ ส่งมาถาม เราดูแล้วก็…อืม! ยอมรับว่าตกใจ แต่จริงๆ ไม่ได้คิดอะไรไว้ ถึงแม้ใครจะเป็นหลานเราหรืออะไรยังไง เขาจะทำอะไรเราก็ไม่ได้อยากจะไปวิพากษ์วิจารณ์ พูดง่ายๆ ว่าเราก็อยู่ของเราเงียบๆ แหละ ดูว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นก็มาจากผลของการกระทำ เลยไม่ได้ให้น้ำหนักหรืออยากไปจะพูดถึง”
ร็อกเกอร์ชื่อดังเผยกับข่าวสดอีกว่า “ผมกับแซ็กไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น พอต่างคนต่างโตขึ้นมาก็มีชีวิตใครชีวิตมัน เราก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกัน ถามว่ายังพูดคุยอะไรกันไหมก็ปกติครับ ไม่ได้มีปัญหากัน อย่างปีที่แล้วงานศพของคุณแม่ผม แซ็กก็มาร่วมงาน พูดคุยกันปกติแล้วก็แยกย้ายกันไป เรื่องส่วนตัวของเขาเราก็ไม่เคยรับรู้ว่าเขามีปัญหาอะไร ใช้ชีวิตแบบไหนเราก็ไม่ได้รู้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำงานอะไรอยู่ ยังทำงานเพลงอยู่ไหม เห็นหน้าก็แค่ทักทายกันแค่นั้น”
“ถามว่าก่อนหน้านี้มีระแคระคายว่าเขาไปข้องเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดบ้างไหม ไม่ได้รู้เรื่องครับ อาจจะเพราะว่าเราไม่ได้สนใจที่จะไปถามไถ่อะไรด้วย เจอหน้ากันคราวที่แล้วก็ไม่ได้ไปซักไซ้ถามว่าอยู่ยังไง เป็นยังไงบ้าง หรือว่าการสังเกตหน้าตารูปร่างของเขา เราก็ไม่ได้ไปอะไรขนาดนั้น”
“แต่เป็นธรรมดาที่พอมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นเราก็เป็นห่วงเขา แต่ก็อยากให้เป็นข้อคิดไว้ว่า การที่เราจะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้มันดีขึ้น เราก็เรียนรู้จากความผิดพลาด ทุกคนทำพลาดได้ แต่ที่สำคัญคือตอนนี้คุณทำถูกหรือยัง โอเควันนี้เราได้รับบทเรียนแล้ว ต่อไปเราก็ต้องเริ่มต้นใหม่ อันนี้พูดถึงทั่วๆ ไปด้วย ไม่ใช่แค่หลานเรา”
“ส่วนชาวเน็ตที่มีการพูดถึงเรื่องนามสกุลก็ไม่เป็นอะไร แล้วแต่เลยตามสบาย เพราะว่ามันเป็นสิทธิของเขาที่จะพูดจะคิด ทุกอย่างอยู่ที่ว่าเราเป็นยังไงมากกว่า ดีหรือไม่ดีไม่ได้เกี่ยวกับชื่อหรือนามสกุล แต่อยู่ที่การทำตัวของแต่ละคน ต่อให้นามสกุลหรูหราใหญ่โตขนาดไหน ถ้าทำตัวไม่ดีก็ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์เหมือนกัน”
“แล้วก็ไม่อยากให้ต้องรู้สึกว่าจะหมดอนาคตหรืออะไร อาจจะต้องใช้เวลากับสังคมนิดนึงเป็นธรรมดาในการพิสูจน์ตัวเอง ถ้าตั้งใจที่จะทำดีก็ต้องอย่าท้อ แล้วก็ย้ำว่าผมไม่ซีเรียสเรื่องที่พูดถึงนามกสุล เรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วมันก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ก็ให้กำลังใจแซ็กว่าต่อจากนี้ทำตัวให้ดี อะไรที่ผิดแล้วก็อย่าไปทำอีก ในอนาคตถ้าสังคมให้โอกาสอีกครั้งก็เชื่อว่าเขาน่าจะแก้ไขปรับปรุงตัวได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายก่อน” แมว กล่าวทิ้งท้าย