จากกรณีเหตุเรือนำเที่ยว เกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 16 มีนาคม 2568 ที่บริเวณจุดดำน้ำกองหินตุ้งกู ห่างจากเกาะเต่าประมาณ 5-6 ไมล์ทะเล ซึ่งในวันเกิดเหตุ หลังรับแจ้ง ได้มีเรือเอกชน และอาสาสมัคร เร่งเข้าช่วยเหลืออพยพนักท่องเที่ยวและลูกเรือไปยังเรืออีกลำ ได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะตรวจสอบพบภายหลังว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สูญหายไป 1 คน เป็นเพศหญิง ชื่อ Alexandra Clarke สัญชาติอังกฤษ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดทีมค้นหาผู้สูญหาย ขณะที่ในตัวเรือ ช่วงแรก ไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ เนื่องจากเพลิงไหม้รุนแรง
หลังเกิดเหตุวันแรก (16 มี.ค.68) หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ได้บูรณาการ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธรและตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่ เทศบาลตำบลเกาะเต่า ชุดปฏิบัติการ ศรชล.ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเกาะเต่า (TAC) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า ผู้ประกอบการเรือในพื้นที่เกาะเต่า ทีมประดาน้ำเกาะเต่า หน่วยกู้ภัย ชาวบ้านและผู้ประกอบการในพื้นที่เกาะเต่าเพื่อปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่สูญหายอย่างเต็มกำลัง โดยช่วงเย็นวันเกิดเหตุ หน่วยประดาน้ำจากเกาะเต่าได้ดำน้ำ ลงสำรวจบริเวณที่เรือจม และพยายามตรวจสอบซากเรือในเบื้องต้น แต่ด้วยสภาพน้ำและเวลาที่จำกัด จึงไม่สามารถค้นหาได้อย่างเต็มที่
จนเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ยังมีความพยายามค้นหาต่อเนื่อง โดยพลเรือโท นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 สั่งการให้ เรือ ต.113 พร้อมด้วย เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่ 4 (S-76B) และนักประดาน้ำจากฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 ร่วมกับนักประดาน้ำเกาะเต่า และจากมูลนิธิกุศลศรัทธา เกาะเต่า กำหนดแผนปฏิบัติการร่วมกัน ในการดำน้ำ สำรวจซากเรือจมที่ระดับความลึก 37 เมตร โดยเน้นตรวจสอบบริเวณ ท้ายเรือ ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่มีรายงานว่าผู้สูญหายอยู่ แต่จากการตรวจสอบ ยังไม่พบร่องรอยของผู้สูญหายภายในซากเรือ และหยุดปฏิบัติการในช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. เนื่องจากสภาพอากาศ คลื่นลม และแสงไม่อำนวย
โดยหลังจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้หารือถึงแนวทางการค้นหาเพิ่มเติม รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสนับสนุน เช่น โดรนใต้น้ำ หรืออุปกรณ์ สแกนโซนาร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบซากเรือ ขณะที่ บริเวณผิวน้ำก็จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาต่อไป โดยทางศูนย์ประสานงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงมุ่งมั่นและระดมสรรพกำลัง ที่จะค้นหาผู้สูญหายโดยเร็วที่สุด