กาญจนบุรี ง้อขอคืนดีไม่เล่นด้วย! หนุ่มเลาขวัญ วัย 43 ฉุนขาด กะซวกไม่นับอดีตภรรยาคนสวยดับอนาถ ปมตายเพราะระแวงจะมีคนใหม่ ถีบรถล้มชักมีดกระซวกไม่นับแล้วแทงตัวเองหนีผิด แต่ไม่ตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ยุทธนา รบนิกร รอง สารวัตรสอบสวน สภ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ฯ ว่าเกิดเหตุแทงกันตายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดที่ริมถนนสายบ้านบ่อยาง-บ้านน้ำคุ้ง หมู่ 1 ต.หนองโสน อ.เลาขวัญฯ หลังรับแจ้ง จึงรีบรายงานให้ พ.ต.อ.สิทธิพงค์ สังข์แสง ผกก.สภ.เลาขวัญ และ พ.ต.ท.วีรยุทธ อ่วมประเสริฐ ผกก.สอบสวน สภ.เลาขวัญฯ ให้ทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.เลาขวัญ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่าที่จุดเกิดเหตุอยู่ริมถนนมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพ-กู้ภัยของมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ประจำจุดรอรับเหตุ ต.เลาขวัญ กำลังยืนรอปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจและแพทย์ในการชันสูตรพลิกศพ โดยใช้เชือกกั้นสถานที่เกิดเหตุเพื่อปิดกั้นไม่ให้ผู้ใดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุ จุดเกิดเหตุเป็นถนนสองเลนแบบสวนทางกันเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้าน พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าสีแดง ทะเบียนจังหวัดสุพรรณบุรี ล้มคว่ำตะแคงอยู่ ห่างไปเล็กน้อยพบรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นคลิ๊กสีดำ-ขาว ทะเบียนจังหวัดนครปฐม ล้มคว่ำตะแคงอยู่เช่นกัน มีแพ็คน้ำอัดลมและอาหารรวมทั้งถุงขนมตกเกลื่อนกลาดอยู่ริมถนน ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร พบมีดปลายแหลมเล่มยาวเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ในที่เกิดเหตุยังพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวนอนหงายอยู่พื้นหญ้าริมถนน สภาพศพสวมผ้าคลุมหัวสีดำแบบไอ้โม่งปิดหน้า สวมเสื้อแขนยาวลายสก็อตสีฟ้าเข้ม สวมกางเกงขาสั้นสีเทา สวมรองเท้าแตะแบบหูหนีบ คล้ายคนงานตัดอ้อยที่เพิ่งเลิกงานในไร่ มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าตามร่างกายนับสิบแห่ง เลือดสดๆ ไหลนองพื้น เบื้องต้นสอบถามหญิงสาวชื่อนางโน ที่เป็นเพื่อนผู้ตายและมากับผู้ตาย ทราบว่าผู้ตายชื่อ นส.เนตรดาว(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 42 ปี อยู่บ้านไม่ทราบเลขที่ ผู้ตายเป็นคนบ้านหนองขาม ต.หนองขาม อ.หนองหญ้าไทร จ.สุพรรณบุรี
ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุชื่อนายเค ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง อายุ 43 ปี เป็นคนบ้านหนองโสน ต.หนองโสน อ.เลาขวัญ และเป็นอดีตสามีของผู้ตาย หลังก่อเหตุใช้มีดแทง นส.เนตรดาว ภรรยา จนเสียชีวิต แล้วก็ใช้มีดปลายแหลมเล่มเดียวแทงท้องตัวเองจนไส้ไหลเพื่อฆ่าตัวตายตามและหนีความผิด แต่นายเคไม่ตายอาการสาหัส นอนหายใจรวยรินอยู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยของมูลนิธิฯ จึงรีบนำตัวส่ง รพ.เลาขวัญฯ แล้วทาง รพ.ฯ ส่งไปรักษาตัวต่อที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา เนื่องจากอาการสาหัสมาก แต่ในที่สุดแพทย์ก็สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้จนพ้นขีดอันตราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบเดินทางไปสอบสวนและทำการอายัคตัวนายเค ผู้ต้องหาอดีตสามีจอมโหดรายนี้
เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า นส.เนตรดาว ผู้ตายกับนายเค เป็นสามีภรรยากัน อยู่กินกันมานาน 12 ปี มีพยานรักด้วยกัน 1 คนเป็นลูกชายอายุ ประ12 ปี อยู่ๆ นส.เนตรดาว ซึ่งเป็นคนหน้าตาดี ก็ได้ขอเลิกกับนายเค เพราะนายเคเป็นคนเกเร เกียจคร้าน ไม่ยอมทำมาหากิน ปล่อย นส.เนตรดาว ผู้ตายทำงานเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว นส.เนตรดาวผู้ตายจึงได้ย้ายไปทำงานเป็นคนงานตัดอ้อยและพักอยู่กับเถ้าแก่ ซึงบ้านเถ้าแก่ก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านของนายเค นายเค พยายามตามง้อขอคืนดีกับ นส.เนตรดาวอดีตภรรยามาโดยตลอดเป็นเวลาเกือบ 2 ปี แต่ นส.เนตรดาวก็ไม่เล่นด้วย จึงทำให้นายเค โกธรแค้นและหวาดระแวงกลัวว่า นส.เนตรดาว ผู้ตายจะไปมีแฟนใหม่ ก่อนเกิดเหตุ นส.เนตรดาว ผู้ตายได้เลิกงานรับจ้างตัดอ้อย และจะไปตลาด เถ้าแก่ก็ให้เงินไปซื้อของที่ตลาดมาทำกินกัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุเถ้าแก่ได้ให้นางโน ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุล ขี่รถจักรยานยนต์พา นส.เนตรดาว ไปตลาด นายเค เห็นเข้าก็กวักมือเรียกให้จอด แต่นางโนไม่ยอมจอดเพราะกลัวมีเรื่อง นายเค จึงขี่รถจักรยานยนต์ตามมา พอมาถึงที่เกิดเหตุ นายเคได้ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ของนางโน จนล้มลง นายเค ทิ้งรถแล้วกระโดดค่อมร่างของนส.เนตรดาว อดีตภรรยาแล้วใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทง นส.เนตรดาว แบบไม่นับ โดยที่ นส.เนตรดาว ผู้ตายพยายามแย่งมีดโดยมีนางโน พยายามช่วยเหลือแย่งมีด และร้องขอความช่วยเหลือจากผู้คนที่ขับขี่รถผ่านไปมา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย จนในที่สุด นส.เนตรดาวก็แน่นิ่งเสียชีวิต นายเค ผัวจอมโหดก็ใช้มีดปลายแหลมเล่มดังกล่าวแทงลำตัวและท้องตัวเองจนลำไส้ไหลออกมา เพื่อฆ่าตัวตายตาม และหนีความผิด แต่ไม่ตาย เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงเห็นนอนหายใจรวยริน อาการสาหัส จึงรีบนำตัวส่ง รพ.เลาขวัญ แล้วส่งต่อไปที่ รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ แพทย์ได้ทำการรักษาอาการจนพ้นขีดอันตราย ซึ่งตำรวจได้เดินทางไปทำการอายัดตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป