ตะลึง คลองบางแพรกกลายเป็นสีชมพู พบน้ำมีกลิ่นเน่า โดนแล้วคัน ค่าออกซิเจนสุดต่ำ เทศบาลนครนนท์เร่งติดตั้งเครื่องเติมอากาศเกือบ 10 เครื่อง เตรียมลอกคลองแก้ปัญหาระยะยาว

จากกรณีที่มีประชาชนผู้อยู่อาศัยบริเวณคลองบางแพรก ข้างกรมราชทัณฑ์ ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี จ.นนทบุรี ร้องเรียนความเดือดร้อนเรื่องน้ำเน่าเสียในคลองที่เปลี่ยนเป็นสีชมพู จากคลองบางแพรกไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา

ต่อมาทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับเทศบาลนครนนทบุรี จึงพบว่าค่าออกซิเจนละลายในน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ที่ 0.3 มก.ต่อลิตร และยังมีค่าแอมโมเนียสูงถึง 11มก.ต่อลิตร จนทำให้น้ำในคลองกลายเป็นสีชมพูส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านนั้น

เกี่ยวกับกรณีนี้ วันที่ 18 มี.ค.2568 ที่คลองบางแพรก ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี พร้อมหน่วยงานในสังกัดเทศบาลนครนนทบุรี รวมทั้งประชาชนริมคลองบางแพรก 11 แห่ง คือชุมชนมิ่ง ชุมชนขุนเลิศดำริห์การ ชุมชนธนสมบูรณ์ ชุมชนศรีพรสวรรค์ 1 ชุมชนศรีพรสวรรค์ 2 ห้างสรรพสินค้า โครงการออนติวานนท์ โครงการมายด์ ติวานนท์ หมู่บ้านฟลอล่า ติวานนท์ รร.นครนนท์ 4 หมู่บ้านโกลเด้นทาวน์ แคราย

ร่วมกันลงพื้นที่ ฟื้นฟูและแก้ปัญหาคุณภาพน้ำในคลองบางแพรก โดยให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลคลองและปรับปรุงคุณภาพน้ำ เพื่อให้น้ำในสามารถกลับมามีคุณภาพตามปกติทั้งนี้คลองบางแพรกมีความยาวประมาณ 3กม. จากหลังกระทรวงสาธารณสุข ซอยติวานนท์ 2 ถึงแม่น้ำเจ้าพระยา

หลังเกิดปัญหาน้ำในคลองบางแพรกเน่าเสียจนกลายเป็นสีชมพู ทางเทศบาลนครนนทบุรี ได้ดำเนินการได้ดำเนินการเปิดปิดประตูระบายน้ำ เพื่อเพิ่มออกซิเจนและเพิ่มการไหลเวียนของน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนและเพิ่มการไหลเวียนของน้ำในคลองบางแพรก

พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดคู่คลอง กำจัดผักตบชวา วัชพืช และขยะมูลฝอย รวมทั้งยังควบคุมการปล่อยน้ำทิ้งลงคลอง ด้วยการเพิ่มการติดตั้งบ่อดักไขมันตามบ้านเรือนประชาชนและร้านจำหน่ายอาหาร และรื้อสิ่งปลูกสร้างที่สร้างกีดขวางทางน้ำออก

โดยวันนี้ทางเทศบาลนครนนทบุรี ได้นำเครื่องเติมอากาศลงคลองบางแพรก ประกอบด้วย เครื่องเติมอากาศแบบแอร์เจ็ทพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเติมอากาศแบบสูบกระจายน้ำสัมผัสอากาศ และเครื่องเติมอากาศแบบใช้ปั๊มลมสูบอากาศผ่านท่อและ ปล่อยออกใต้น้ำผ่านหัวจ่ายอากาศ โดยติดตั้งไปแล้วจำนวน 5 เครื่อง ติดตั้งล่าสุดเพิ่มอีก 3 เครื่อง ซึ่งติดตั้งในจุดที่มีน้ำเน่าเสีย เป็นสีดำ

นอกจากนี้ยังวางงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มอีก 10 เครื่อง เพื่อนำมาใช้แก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียตามคลองต่างๆในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี รวมทั้งประชุมขอความร่วมมือจากชาวบ้านในเรื่องการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงลำคลอง จัดทำโครงการถังดักไขมัน รวมทั้งโครงการเอาน้ำมันเก่าแลกน้ำมันใหม่ ซึ่งชาวบ้านริมคลองทั้ง 11 แห่งให้ความค่วมมือเป็นอย่างดี

นายสิรภพ ทองอุไร อายุ 30 ปี ประธานชุมชนพิชญานันท์ กล่าวว่า จากปัญหาน้ำจากปัญหาน้ำในคลองบางแพรกเป็นสีชมพู เกิดจากการมีก๊าซไข่เน่าอยู่ที่ตะกอนใต้ดิน ทำให้ชาวบ้านวิตก การติดตั้งเครื่องปล่อยอ็อกซิเจนแก้ปัญหาได้ชั่วคราว

แต่ที่กรมควบคุมมลพิษแนะนำคือต้องทำการลอกหน้าดินในคลองที่เป็นดินเสียออกถึงจะตรงจุด ซึ่งทางชาวบ้านได้ยินมาว่าหลังจากนี้จะมีการลอกคลอง แต่ติดด้วยชาวบ้านมีการปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำคลอง จึงยังดำเนินการลอกคลองไม่ได้ต้องทำการรื้อถอนก่อน คาดว่าน่าจะต้องใช้เวลา ส่วนชาวชุมชนเองต้องช่วยดูแลและให้ความร่วมมือในการรักษาคลอง

น.ส.จันทร์ฉาย เชาว์วัลแล่น อายุ 65 ปี ชาวบ้านริมคลอง กล่าวว่า น้ำในคลองบางแพรกเป็นสีชมพูเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ซึ่งเมื่อก่อนตนใช้น้ำในคลองได้ พอเป็นสีชมพูเพราะสาเหตุสิ่งเน่าเสียมันตกตะกอน

โดยน้ำในคลองเสียมาประมาณ 2 ปีแล้ว มีกลิ่นเน่า คัน ใช้น้ำไม่ได้ ตอนนี้มาติดตั้งเครื่องเติมออกซิเจนก็ดีขึ้น เวลาพบปัญหาก็จะแจ้งไปทางเทศบาลนครนนทบุรี ชาวบ้านเองก็ช่วยกันเก็บขยะตามหน้าบ้านตนเอง ทราบว่าทางเทศบาลนครนนทบุรีจะมีโครงการลอกคลองแห่งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว

ทางด้านนายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศบาลนครนนทบุรี กล่าวว่า จากปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองบางขวาง ที่กลายเป็นสีชมพู ทางเทศบาลนครนนทบุรีได้ทำความสะอาดคลอง เก็บขยะ สิ่งปฏิกูล และรื้อสิ่งก่อสร้างที่กีดขวางทางน้ำออก โดยในวันนี้ได้มีประชาชนและภาคเอกชน มาร่วมมือกันฟื้นฟูคลองบางแพร หลังจากทำโครงการคลองสวยน้ำใสเพื่อปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนนั้นยังไม่เพียงพอ เพราะยังพบว่ามีโรงงาน บริษัทและห้างร้านต่างๆ ยังคงปล่อยน้ำเสียลงคลองอยู่

ในวันนี้จึงได้นำทุกภาคส่วนมาร่วมมือกันทำการฟื้นฟูคลอง โดยได้ติดตั้งเครื่องปล่อยออกซิเจนลงน้ำมาเพื่อช่วยลดปริมาณก๊าซไข่เน่า ส่วนสิ่งปลูกสร้างต่างๆหลังจากนี้จะนำออกทั้งหมด เพื่อวางแผนขุดลอกคลองในอนาคต ตอนนี้ได้ติดตั้งเครื่องปล่อยออกซิเจนไปแล้วเกือบ 10 เครื่อง

และจะจัดซื้อเพิ่มอีกเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้กับน้ำในคลอง และจะมีการขุดลอกคูคลองเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ทางเทศบาลจะได้ให้ความรู้กับชาวบ้านในชุนชนริมคลองควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหา อยากให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลรักษาลำคลองให้สะอาดเพื่อที่น้ำในคลองตะไม่กลับมาเน่าเสียจนกลายเป็นสีชมพูอีก