เพื่อไทย รุมอัด วิโรจน์ ไม่รู้จักกาลเทศะ ใช้คำหยาบคายโจมตีรัฐบาล หลังว่านายกฯอิ๊งค์ ไม่รู้สี่รู้แปด ฉะ ฉวยโอกาสเอาความทุกข์ประชาชน มาปั่นกระแส หาซีนการเมือง

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 19 มี.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ระบุว่านายกฯ ไม่รู้สี่รู้แปด ว่า ตนรู้สึกผิดหวังจริงๆ ด้วยตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ ตั้งความหวังกับการเมืองเหมือนกัน พอเห็นแบบนี้ก็รู้สึกผิดหวังจริงๆ เพราะกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ก็ยิ่งกว่าเดิม

สำคัญที่สุดคือความหยาบคายที่เกิดขึ้นกับคำพูดต่างๆ มันก็กลับมา ตนมองว่าไม่ดีต่อภาพของคนที่เป็นตัวแทนของประชาชน แต่หากจะดึงไปถึงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ย้ำว่านายกรัฐมนตรีพร้อมตอบคำถามและชี้แจงกับประชาชน

เมื่อถามว่านายวิโรจน์ต้องออกมาถอนคำพูดดังกล่าวหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เอาที่สบายใจ มองว่าประชาชนแยกออกว่าอันไหนคือวุฒิภาวะ ย้ำว่ารู้สึกผิดหวังจริงๆ

ด้าน น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเอ็กซ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า เข้าใจว่าท่าน สส.ฝ่ายค้านต้องการตีวาทกรรมเพื่อเรียกกระแสความสนใจ ก่อนจะถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

แต่เดียร์คิดว่าการเลือกใช้คำพูดว่า “ไม่รู้สี่..รู้แปด” ที่ท่านพูดต่อหน้าสื่อ ไม่ได้เป็นการสะท้อนถึงการบริหารงานของรัฐบาลหรอกค่ะ มันสะท้อนถึงวุฒิภาวะทางอารมณ์ของผู้พูดเองมากกว่า

การจงใจใช้ถ้อยคำเสียดสีที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้กับผู้นำของประเทศ ไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของฝ่ายค้านดูดีขึ้นมาเลยในสายตาของประชาชนจำนวนมาก มันเป็นการประจานและตั้งคำถามกลับไปยังตัวท่านมากกว่าว่า การใช้ถ้อยคำหยาบคายและบิดเบือนข้อเท็จจริงเช่นนี้ ตัวท่านหวังผลทางการเมืองอะไรหรือไม่

เพราะหากตามจากรายงานข่าวก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจกับความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด นายกฯ ได้ส่งตัวแทนออกไปรับเรื่องและสั่งการให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยความรวดเร็ว

แต่แทนที่ท่านจะทำหน้าที่ตัวแทนของประชาชนในการมาติดตามปัญหา และพูดคุยกับรัฐบาล โดยใช้ข้อมูล ข้อเท็จจริงและเหตุผลอย่างผู้มีอารยะ ท่านกลับเลือกใช้อารมณ์ความรู้สึกและถ้อยคำที่หยาบคายมาชี้นำในการสื่อสารกับสังคม

การทำเช่นนี้สะท้อนหรือไม่ว่าท่านพยายามฉวยโอกาส เอาความทุกข์ร้อนของชาวบ้านมาปั่นกระแส เพื่อเรียกความสนใจและหาซีนทางการเมืองให้พรรคของท่าน มากกว่าจะสนใจปัญหาของประชาชนจริงๆ

“เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เดียร์ก็เริ่มกังวลว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมาถึง จะเป็นการอภิปรายเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน หรือจะเป็นเพียงการมาตีวาทกรรมโดยอาศัยเวทีของสภา เพื่อหวังโจมตีรัฐบาลแบบไร้อารยะ และฉวยโอกาสใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย โดยไม่สนเหตุผลและข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น แบบที่ท่านกำลังทำในวันนี้ เดียร์คิดว่าไม่ใช่รัฐบาลหรอกค่ะที่ไม่รู้สี่รู้แปด แต่ตัวท่านต่างหากที่ไม่รู้จักกาลเทศะ” น.ส.ขัตติยา ระบุ