เปิดนาที 2หนุ่ม ซิ่งจยย.หนีด่าน เสียหลักดับ 1 เจ็บ 1 ผู้การฯตรัง แจงปมญาติคาใจ เผยประวัติพบเคยต้องคดียาเสพติด ก่อนควบคุมตัวแจ้งอ่วมหลายข้อหา
จากกรณีที่ตำรวจสายตรวจชุดอินทรีย์ชุดที่ 2 สภ.เมืองตรัง ตั้งด่านตามแผนพิทักษ์เมือง บริเวณถนนสายต้นปริง-แยกป่าหมาก (หน้า รร.ท่ากลางสอนขับรถยนต์) พื้นที่ หมู่ 1 ถนนน้ำผุดใต้ ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง ในห้วงเวลา 09.30-10.30 น.
ความคืบหน้าวันที่ 19 มี.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานถึง กล้องวงจรปิดจากเทศบาล ต.นาตาล่วง สามารถจับภาพนาทีตั้งแต่ตัวของผู้ขับขี่รถ จยย. กลับรถไม่ยอมเข้าด่านตรวจของตำรวจ โดยมีตำรวจสายตรวจ 1 นาย พยายามสกัดเอาไว้
แต่รถจยย.คันดังกล่าวยังหลบหลีกไปได้ และมุ่งหน้าผ่านสี่แยกไฟแดงป่าหมาก ซึ่งมีตำรวจขับติดตาม ก่อนมุ่งหน้าเข้าถนนเลียบแม่น้ำตรัง ผ่านหน้าวัดไพรสณฑ์ และเลี้ยวซ้ายจนเกิดอุบัติเหตุ ขณะเดียวกันกล้องบอดี้แคมของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว ที่ขับติดตาม ได้บันทึกภาพนาทีติดตามและการปฎิบัติหน้า จนถึงจุดเกิดเหตุ
เปิดนาที 2หนุ่ม ซิ่งจยย.หนีด่าน เสียหลักดับ 1 เจ็บ 1 ผู้การฯตรัง แจงปมญาติคาใจ
ด้าน พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรัง เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุได้รับรายงานจาก ผกก.สภ.เมืองตรัง ในทันทีถึงเหตุที่เกิดขึ้น ขอเรียนว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวของผู้ขับขี่ รถจยย. ที่หลบหลีกไม่ยอมเข้าจุดตรวจของตำรวจตามปกติ และก็ขับหลบหนี ทำให้ตำรวจที่ประจำจุดตรวจต้องรีบขับขี่ รถจยย.ติดตามไป
ซึ่งทางตำรวจมีกล้องบอดี้แคม ที่ติดตัวประจำกายของตำรวจบันทึกเหตุการณ์ในการขับติดตามอยู่ตลอด กระทั่งมาเกิดเหตุที่ผู้ขับขี่ที่หลบหนีเสียหลักตกลงไปข้างทาง หลังจากที่รถ จยย.ล้มลงไปแล้วนั้น ตำรวจซึ่งติดตามไปเพียงแค่นายเดียว ก็รีบลงจากรถแล้วเข้าไปควบคุมผู้ซ้อนท้าย โดยเหตุผลที่เข้าไปควบคุมผู้ซ้อนท้าย
เนื่องจากว่า บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางต่างระดับลึกลงไปจากขอบถนนประมาณ 2 เมตร และผู้ซ้อนท้ายกระเด็นออกจากตัวรถไปไกลกว่าตัวของตำรวจที่จอดรถลงในจุดนั้น ก็เลยต้องรีบเข้าไปใช้กุญแจมือซึ่งมีเพียงแค่คู่เดียวสำหรับตำรวจเพียง 1 นาย เข้าไปควบคุมตัวผู้ซ้อนท้ายก่อน
โดยตอนนั้นอาจจะไม่ได้สังเกตดูด้วยซ้ำไปว่า ผู้ซ้อนท้ายยังมีสติอยู่หรือไม่อย่างไร เมื่อใช้เครื่องพันธนาการควบคุมตัวผู้ซ้อนท้ายดังกล่าวแล้ว จึงวิ่งกลับมาควบคุมตัวผู้ขับขี่ ที่อยู่ใกล้กว่าอีกส่วนหนึ่งด้วย ตรงนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องใช้เครื่องพันธนาการเข้าควบคุมผู้ซ้อนท้าย
หลังจากควบคุมทั้ง 2 คนได้แล้วจึงได้แจ้งเหตุให้กำลังตำรวจเข้ามาสนับสนุน และแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย ซึ่งตนเชื่อว่าขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็คงจะเข้าใจว่าได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ แต่คงยังไม่ทราบว่าจะถึงแก่ชีวิต
ซึ่งอยากให้ประชาชนได้เข้าใจการทำงานของตำรวจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ไม่ได้เป็นเหตุปัจจัยที่เกิดจากตำรวจเลย เป็นเหตุปัจจัยมาจากตัวของผู้ขับขี่ โดยเชื่อว่าตัวของผู้ขับขี่อาจจะรู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองมีความผิดอะไรอยู่ในตัวบ้าง ก็เลยไม่ยอมที่จะเข้าด่านตรวจตามปกติ โดยหลังจากเกิดเหตุปรากฏว่าได้ตรวจสอบประวัติผู้ขับขี่เป็นบุคคลที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายมาก่อน เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และยังมีพฤติการณ์เสพยาเสพติดอยู่ในปัจจุบัน
ตรวจหาสารเสพติดก็พบมีสารเสพติดอยู่ในปัสสาวะ รถจยย.ที่ใช้หลบหนีและเกิดเหตุก็ขาดการเสียภาษีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ท่อรถมีการดัดแปลงสภาพ จึงเป็นสาเหตุที่ตัวของผู้ขับขี่รู้อยู่แล้วว่ากระทำความผิดจึงหลบหนี และส่งผลกระทบมาสู่ผู้ซ้อนท้าย ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้จากการกระทำของผู้ขับขี่ ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก
เบื้องต้นได้รับรายงานจากทาง ผกก.สภ.เมืองตรัง ได้พูดคุยทำความเข้าใจในส่วนหนึ่งกับทางญาติผู้เสียชีวิต และได้แสดงความเสียใจไปแล้ว พร้อมทั้งส่งพวงหรีดไปแสดงความลาลัยอีกส่วนหนึ่ง ก็คงจะต้องทำความเข้าใจให้ทางญาติกระจ่างว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากใครเป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อเกิดจากตัวผู้ขับขี่ซึ่งตอนนี้แพทย์ได้อนุญาต ให้ออกจาก รพ.ศูนย์ตรังแล้ว
ส่วนทางตำรวจได้นำมาควบคุมตัวที่ สภ.เมืองตรัง โดยดำเนินคดีไปตามกฏหมายในทุกฐานความผิด เช่น ขับรถโดยใช้สรเสพติด , ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย , ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ฉะนั้นผู้ที่นั่งซ้อนท้ายซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบทางญาติผู้เสียชีวิตจะต้องไปไล่เบี้ยจากผู้ขับขี่เอา และต้องไปดูว่ารถคันเกิดเหตุมีการจัดทำ พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถหรือไม่อย่างไร หากมีผู้เสียชีวิตก็จะได้รับสิทธิตรงนั้นด้วย รวมไปถึงระเบียบกฏหมายอะไรอีกหรือไม่ที่จะได้สิทธิให้กับผู้ซ้อนท้ายที่เสียชีวิต ผลมาจากตัวของผู้ขับขี่
มองเรื่องนี้ว่าในเบื้องต้นทางญาติอาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจ ในเรื่องของการควบคุมพันธนาการ ว่าทำไมต้องใช้กุญแจมือในการเข้าควบคุมพันธนาการ เรียนง่ายๆว่าถ้ามีตำรวจติดตามไป 2 นาย ก็จะต้องใช้เครื่องพันธนาการทั้ง 2 คน แต่เหตุนี้มีตำรวจติดตามไปอย่างกระชั้นชิดเพียงแค่นายเดียว มีกุญแจมือเพียงแค่คู่เดียว
แล้วเป็นการตัดสินใจในภาวะคับขัน ที่ตำรวจจะต้องตัดสินใจในตอนนั้นว่าจะต้องควบคุมใครก่อน เลยตัดสินใจไปควบคุมผู้ที่กระเด็นไปห่างไกลจากตัวตำรวจก่อนเป็นอันดับแรก แล้วกลับมาควบคุมผู้ที่อยู่ใกล้ตัวคือผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นการตัดสินใจและการทำหน้าที่ของตำรวจในภาวะคับขันในตรงนั้นด้วยเหตุผลดังกล่าว ซึ่งมองว่าเป็นไปตามหลักการยุทธวิธี เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในการทำหน้าที่
จึงอยากนำเรียนให้เข้าใจถึงการทำงานของตำรวจ ภายใต้การบังคับบัญชาของตน ที่ได้กำชับให้ปฎิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง และตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงการป้องกัน เช่นอุปกรณ์ป้องกันตัว และกล้องบอดี้แคม
โดยเหตุที่เกิดขึ้นหากไม่มีกล้องบอดี้แคมคงจะมีข้อกังขามากกว่านี้ แต่นี้เราถึงได้เห็นภาพจากกล้องบอดี้แคมบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด จึงมีความกระจ่างค่อนข้างชัดเจน จึงยืนยันเลยว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวผู้ขับขี่ไม่ได้เกิดจากตำรวจ จึงอยากนำเรียนถึงประชาชนว่า คนดีจะต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายจะต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์ ถ้ามั่นว่าไม่ได้ทำผิดอะไรก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจ ผ่านจุดตรวจไปตามปกติ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม ร่างของ นายธีรพงศ์ หรือจีน อายุ 30 ปี ผู้เสียชีวิต แพทย์ได้ทำการส่งไปชันสูจน์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียดและแน่ชัดที่ รพ.สงขลานครินทร์(มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื่องจากในเบื้องต้นตามลำตัวมีบาดแผลค่อนข้างน้อย ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า กระดูกคอหักหรือไม่ หรืออาจจะมีเลือดออกภายในอวัยวะภายใน ผลจากการถูกกระแทกจากอุบัติเหตุ เป็นสาเหตุให้ถึงแก่ความตาย ซึ่งขณะนี้ยังคงต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง.