วิจารณ์สนั่น! ผอ.ส่งหนังสือถึงเขตพื้นที่ฯ ขอย้ายด่วนครู กระด้างกระเดื่อง-ไม่ยอมเซ็นงบอาหารกลางวัน ชาวบ้านจี้เขตพื้นที่ชี้แจงด่วน!
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า มี ผู้อำนวยการโรงเรียนระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ใน อ.พรหมคีรี ซึ่งสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 ได้ส่งหนังสือถึงผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ ลงวันที่ 10 มีนาคม 2568 ขอส่งตัว พนง.ราชการ เหตุมีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา, ผู้ร่วมงาน, มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อนักเรียน, ชุมชน และ องค์กร
และในเวลาต่อมา ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 4 ได้ลงนามรับตัวพนักงานราชการคนดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่อำเภอสิชล โดยมิได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่อย่างใด ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มข้าราชการครูในเขตพื้นที่การศึกษา และในกลุ่มไลน์เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียน
แหล่งข่าวรายหนึ่ง ระบุว่า เหตุเกิดจาก ทางโรงเรียนแจ้งผู้ปกครองว่าให้หยุดเรียน และทำการสอนออนไลน์เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเหตุน้ำท่วม พร้อมจ่ายค่าหัวเด็กๆหัวละ 10 บาทต่อวัน ต่อมาได้เกิดลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก 10 ครั้ง ในเดือนธันวาคม 2567 และ มกราคม 2568 รวมเป็นเงิน 17,010 บาท โดยไม่ได้มีการสอนจริง ทั้งนี้ ผอ.กำชับ จนท.การเงิน นำเงินจำนวนดังกล่าวมอบให้กับ จนท.อาหารกลางวัน เพื่อเก็บเงินไว้ แต่เมื่อ พนง.ราชการคนดังกล่าว และครูใน รร.ท้วงติง ผอ.จึงไม่พอใจ สั่งจ่ายเงินสดให้ผู้ปกครองทันทีเมื่อวันที่ 21กุ มภาพันธ์ 2568
ครูรายหนึ่งกล่าวว่า ทางโรงเรียนไม่ได้มีการเปิดเรียนและไม่ได้จัดการเรียนการสอนชดเชย ให้แก่นักเรียนเลย แต่มีการสร้างเอกสารการลงเวลามาปฏิบัติราชการของครู พวกตนอึดอัดใจ แม้แต่การจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจรับอาหารกลางวัน ดำเนินการโดย จนท.อาหารกลางวัน พียงคนเดียว และมีการจัดซื้อจัดจ้างในโรงเรียนอีกหลายรายการ อาทิ การถมดินในสนามไม่เต็มปริมาณ แต่เบิกจ่ายเงินเต็มจำนวน การซ่อมแซมห้องน้ำไม่ครบรายการแต่เบิกเงินครบจำนวน การทาสีกำแพงที่ไม่ได้มาตรฐานแต่เบิกเงินเต็ม
ครูรายหนึ่งกล่าวว่า ทั้งหลายทั้งปวงที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่อันมีเจตนาไม่สุจริตหรือส่อไปในทางทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และยังใช้อำนาจบีบบังคับให้เจ้าหน้าที่พัสดุลงลายมือชื่อโดยที่ไม่ได้เป็นคนดำเนินการใด ๆ ผอ.เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต่อรองราคาด้วยตัวเองทั้งสิ้น เป็นพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นถึงเจตนาเปิดช่องโหว่ให้มีการทุจริต ทำให้ได้รับสินค้าและบริการที่ไม่สอดคล้องกับราคาตลาด หรือแม้กระทั่งการใช้เงินรายได้จากการขายผลปาล์มที่ไม่มีการเปิดเผย รายรับ-รายจ่าย และไม่ได้นำเงินไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่นักเรียนและโรงเรียน
“การส่งตัวครูคนดังกล่าวที่ไม่เห็นชอบกับการเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวันเป็นเงินสดให้แก่นักเรียน ทางเขตก็สั่งให้ครูคนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ใน โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สิชล โดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่อย่างใด” ตัวแทนครู กล่าว
ตัวแทนผู้ปกครองรายหนึ่งระบุว่า ทราบเรื่องมาบ้างแล้วแต่ไม่คิดว่าจะทำกับครูแบบนี้ ทาง ผอ.เขต สมควรตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน ถ้าถามชุมชน,ครู,นักเรียน,องค์กร ทุกคนรักครู เหลือเพียงกระด้างกระเดื่องกับ ผอ.เท่านั้น ถามว่า เขตพื้นที่ทำถูกต้องหรือไม่ หากว่า เขตพื้นที่ฯ ไม่ออกมาชี้แจง พวกเราจะไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดให้ลงมาแก้ไข
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการแชร์ลงไปในโลกโซเชียล ได้มีการวิ่งเต้นเคลียร์สื่อห้ามลงข่าวเกรงเสียชื่อเสียง ผู้สื่อข่าวได้โทรประสานไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 4 เจ้าหน้าที่รับสายพร้อมกล่าว ผอ.ติดราชการ ค่อยโทรมาใหม่