ลำไย เผยสภาพจิตใจเต็มร้อย รับยังอยู่บ้านเดียวกับ ปุ้ย L.กฮ. ส่วนโอกาสรีเทิร์นเป็นเรื่องอนาคต

จากกรณีดราม่าสนั่นวงการลูกทุ่ง หลังนักร้องสาว ลำไย ไหทองคำ โพสต์แจงสถานะโสด ประกาศเลิก ปุ้ย L.กฮ. นักร้องหนุ่มอินดี้ ที่คบหาดูใจกันมานาน 9 ปี โดยยืนยันจบกันด้วยดี ไม่มีเรื่องมือที่สาม ก่อนที่เพจดังจะออกมาโยงประเด็น ลำไย กับ แดนเซอร์ชาย จนกลายเป็นกระแสข่าวดังไปทั่ว

โดย ลำไย เผยว่า “กำลังใจตอนนี้ดีมากเลยค่ะ ส่วนที่นายห้างประจักษ์ชัยบอกว่าได้ลูกสาวคนเดิมกลับมาแล้ว จริงๆ เราก็เป็นลูกสาวคนเดิมตลอด ไม่ได้เปลี่ยนไปไหน เพียงแต่ว่าช่วงแรกๆ อาจจะมีบ้างที่เราเสพข่าวต่างๆ นอนน้อยบ้างเพราะว่าเราติดตามข่าว ช่วงนั้นมันก็ฮอตฮิตจริงๆ แต่ตอนนี้สภาพจิตใจปกติเต็มร้อย จริงๆ เรื่องต่างๆ เคลียร์จบไปนานแล้ว แต่เพิ่งมาเป็นประเด็นเพราะว่าคนเพิ่งจะรู้”

“สิ่งที่ทำให้ก้าวข้ามผ่านดราม่านี้ได้ คิดว่าเป็นเพราะเรายอมรับความจริง ทุกอย่างเป็นผลของการกระทำไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม เรารับรู้ตั้งแต่ตอนที่มันเกิดเรื่องแล้วว่าอะไรเป็นมายังไง แล้วก็ยอมรับความจริงตรงนั้นแล้ว และได้มีการเคลียร์ใจขอโทษกันไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งโอกาสข้างหน้ามันจะเป็นข่าวหรือเป็นอะไรไหม เราก็ไม่สามารถรู้ได้ แต่พอมันเกิดขึ้นแล้วมันก็คือความจริงที่ต้องยอมรับ”

“ในส่วนของแฟนคลับก็ให้กำลังใจและเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ตรงนี้เรารู้สึกดีใจมากๆ แต่ว่าแฟนคลับก็ไม่ได้อวยหรือเข้าข้างเรานะคะ เพียงแค่เขาให้โอกาสเราในการที่จะปรับตัวและใช้ชีวิตต่อ ส่วนคนที่อาจจะผิดหวังในตัวเราไปแล้วก็ไม่เป็นไร คนเราสามารถคาดหวังและผิดหวังได้ ตัวเราเองก็เคยผิดหวังกับหลายๆ เรื่องเหมือนกัน“

”แต่เอาจริงๆ เราก็ไม่ได้คิดว่าคนจะให้ความสนใจเรื่องนี้ขนาดนี้ ตอนนั้นเลื่อนไปช่องไหนก็เจอแต่ข่าวเราทั้งนั้นเลย ถือเป็นอีกหนึ่งข่าว“ใหญ่ในชีวิตของลำไย ไหทองคำ ตอนโน้นที่เป็นข่าวใหญ่ก็คือประเด็นเรื่องการแต่งตัว แต่อันนี้ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ถามว่าข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับงานไหม ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ ทางบริษัทแจ้วว่ายังไม่มีการแคนเซิลคิวต่างๆ เราก็ต้องขอบคุณเจ้าภาพที่เขาเข้าใจในส่วนตรงนี้”

”ส่วนที่หลายคนชื่นชมสปิริตการทำงานแม้ว่าต้องเผชิญดราม่าหนักในช่วงเวลานั้น เอาจริงๆ ต้องบอกว่าตอนขึ้นโชว์เราก็คงไม่ได้เฟรช 100% มันก็ต้องมีบ้างเพราะคนเรามีความรู้สึก แต่บนเวทีตรงนั้นมันคือหน้าที่ของเราที่ต้องดำเนินต่อไป แล้วก็อีกหลายๆ ชีวิตในวงด้วย สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชีวิตเรามันก็ต้องก้าวเดินต่อไป ส่วนเราก็ยอมรับความจริงและปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เราผิดพลาดไป“

”ถามว่าตอนนี้เวลาไปไหนระแวงกับสายตาของคนที่มองมาไหม ตอนนี้ที่เราเจอน่ารักกันทุกคนเลย เวลาไปตามงานต่างๆ จะมีพี่ๆ ที่เข้ามาซัพพอร์ตแบบให้กำลังใจมากกว่าค่ะ ส่วนที่เป็นแนวลบก็จะมีบ้างทางโซเชียลที่เราได้อ่าน ถามว่าจะเอากฎหมายเข้ามาช่วยไหม ถ้าเป็นเรื่องการคอมเมนต์เราไม่ได้ยึดติดกับตรงนี้มานานมากแล้ว แต่ตอนนี้อยากให้ทุกคนระวังเรื่องคนที่เข้ามาช่วยโอกาสในเรื่องนี้เช่นพวกเว็บพนันต่างๆ หลอกให้คลิกลิงก์ต่างๆ แล้วอาจจะมีการดูดเงิน ตอนนี้มีคนส่งข้อมูลตรงนี้มาให้ค่อนข้างเยอะ“

”ถามว่าจากเหตุการณ์นี้ทำให้เวลาโชว์บนเวทีแล้วเกร็งกับแดนซ์เซอร์ชายไหม เอาจริงๆ ก็ไม่ถึงกับเกร็งค่ะ แต่ก็จะมีระวังมากขึ้น บางทีเราแสดงยาวชั่วโมงครึ่ง แต่พอคนไปตัดลง 2 วิ 5 วิ แล้วบางคนที่เขาไม่ได้ติดตามเราจริงๆ ก็อาจจะตีความหมาย ไปในทางผิดๆ ได้ เราจะมีความระมัดระวังมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้ทิ้งความเป็นตัวเองค่ะ“

”อีกอย่างตอนนี้นายห้างมีมาตรการใหม่ประกาศออกมาแล้วว่าสามารถเต็มที่ได้เลย เพราะเกรงว่าคุณเนมที่เป็นนักร้องชายเขาจะอัดอั้น เดี๋ยวจะเกร็งในการทำงานที่ไม่ได้เต้นเพราะเขาชอบเต้น ส่วนว่าแดนซ์เซอร์ชายเกร็งกันไหม เราไม่ได้ถามส่วนตัวว่าเขาเกร็งไหม ทุกวันนี้ก็ทำงานกันปกติ แต่เท่าที่ดูจากการโชว์บนเวทีแล้วก็ไม่น่าจะเกร็งนะคะ(ยิ้ม)“

หลายคนชื่นชมความสัมพันธ์ของเรากับพี่ปุ้ย L.กฮ. ที่แม้วันนี้จะเลิกกันแล้วแต่จบกันด้วยดี ไม่มีสาดโคลนใส่กัน?
“เราอยู่ด้วยกันมานาน สารทุกข์สุกดิบทุกอย่างในชีวิตที่เกิดขึ้นเรามีการพูดคุยกัน มันก็เลยทำให้เรามีความเข้าใจ แล้วก่อนที่เราจะออกมาประกาศ เราได้เข้าใจปัญหาชีวิตของกันและกันแล้ว ตอนนี้เหมือนเราซัพพอร์ตกันมากกว่า ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันในฐานะพี่น้อง พี่ปุ้ยก็ยังอยู่ที่บ้านเดียวกันค่ะ แต่ว่าจะไปๆ มาๆ แล้วช่วงนี้พี่ปุ้ยงานเยอะ ต้องเดินทางบ่อย แต่ก็คือจะเข้ามาที่บ้านด้วยค่ะ”

ทุกคนเคารพการตัดสินใจของเราทั้งคู่ แต่หลายคนก็ยังแอบหวังว่าจะมีโอกาสกลับมาคบกันเหมือนเดิมไหม?
“ขอบคุณทุกคนมากค่ะ แต่อนาคตเราก็ไม่สามารถตอบได้ อาจจะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ เราก็ยังไม่ทราบเหมือนกัน แต่ว่าก็ต้องขอบคุณทุกกำลังใจที่ติดตามและเอ็นดูพวกเรามาตลอด สถานะตอนนี้ของลำไยกับพี่ปุ้ยก็คือพี่น้อง คุยกันปกติเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าด้วยความที่เราสองคนอยู่ด้วยกันมานานแล้ว ความสัมพันธ์มันกลายเป็นกลืนกันแบบพี่น้องไปโดยที่เราเองก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน อยู่ดีๆ ความมุ้งมิ้งความเป็นแฟนมันหายไป แต่มันเหมือนกับเราได้คนในครอบครัวมาเพิ่มโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว”

“จริงๆ เราสองคนมีการพูดคุยและตัดสินใจกันหลายรอบ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะโพสต์ออกไป ตอนนั้นมันอยู่ในช่วงที่แบบว่าความดีของเขาและความดีของเราที่ต่างคนมานั่งคุยกันมันเยอะกว่า แต่เราจะทำยังไงดี เพราะว่าเราสองคนก็ไม่ได้อยากจะแบบประกาศออกไป แล้วอยู่ดีๆ มาคืนดีกัน เราก็เลยได้มีการลองที่จะใช้ชีวิต ลองที่จะหาความสุขตรงอื่นบ้างว่าจริงๆ เรายังต้องการกันในจุดที่เป็นแฟนกันอยู่ไหม ให้มันมั่นใจจริงๆ ถึงจะออกมาพูด เลยทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันซับซ้อนเพราะมันค่อนข้างละเอียดอ่อนนิดนึง ถ้าให้อธิบายมันก็คงจะอธิบายไม่ได้ค่ะ“

”แต่ว่าตอนนี้เราสองคนก็มีความสุขกับสถานะนี้ค่ะ หนูกับพี่ปุ้ยคือเหมือนเดิมเลย ทุกวันนี้เขาก็ยังถามว่ากินข้าวหรือยัง มีอะไรเราก็ยังปรึกษาเขาอยู่ แล้วเขาก็มีโทรมาเหมือนเดิมเลย เพียงแค่ว่าตอนนี้เขางานเยอะขึ้น เขาจะเป็นคนเลี้ยงข้าวเราบ้าง(หัวเราะ) ส่วนมากว่าเขาจะตัดผมไหม คิดว่าไม่น่านะคะ อันนี้มันเป็นคาแร็กเตอร์ของเขา แล้วเขาก็มั่นใจในส่วนตรงนั้น ที่สำคัญคือคนก็จำเขาในภาพลักษณ์แบบนั้นด้วย ตัวเราเองก็ชอบผมยาวนะคะ รู้สึกว่าเหมาะกับเขาดีค่ะ”