นิพนธ์ แนะท้องถิ่น บริหารงานโปร่งใส ยึดหลักนิติธรรม เน้นสร้างธรรมาภิบาล เตือน ขรก. ที่ดีต้องไม่ถูกครอบงำหรือแทรกแซงจากผู้มีอิทธิพล

เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2568 ที่ห้องประชุมโรงแรมลากูน่า แกรนด์ แอนด์ สปา สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวบรรยายในการอบรมโครงการเสริมสร้างธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ.สงขลา จัดขึ้นภายใต้หลักสูตร “ข้อควรระวังในการปฏิบัติราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกรณีศึกษา”

มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม มีความรู้ความเข้าใจในหลักกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เรียนรู้แนวทางการปฏิบัติราชการที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการทำงานจริงเพื่อพัฒนาระบบราชการท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

นายนิพนธ์ กล่าวถึงความสำคัญของหลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานอปท. ว่า หัวใจสำคัญของการทำงานในระดับท้องถิ่น คือ ความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อประชาชน เนื่องจากอปท. เป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด และเป็นผู้ที่ใช้จ่ายงบประมาณจากภาษีของประชาชนเพื่อให้บริการสาธารณะในด้านต่าง ๆ

ดังนั้น การบริหารงานจึงต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามหลักกฎหมายและจริยธรรมทางราชการ และนอกเหนือจากเรื่องธรรมาภิบาลแล้ว ยังมีหลักนิติธรรมซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของการบริหารงานภาครัฐ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของอปท.ทุกระดับ ต้องปฏิบัติงานตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ไม่ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่กระทำการใด ๆ ที่ขัดต่อจริยธรรมทางราชการ

“การปฏิบัติราชการที่ดี ต้องไม่ถูกครอบงำหรือแทรกแซงจากผู้มีอิทธิพลที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ทุกคนที่ทำงานในอปท. ต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรม อย่ากลัวอิทธิพลหรือแรงกดดันจากบุคคลที่ต้องการใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนตน เพราะหากเราทำงานด้วยความสุจริต และยึดถือกฎหมายเป็นหลัก ย่อมไม่มีใครสามารถแทรกแซงหรือละเมิดอำนาจหน้าที่ของเราได้”นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า ขอฝากข้อคิดถึงข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในอปท.ทุกระดับว่า ตำแหน่งและอำนาจหน้าที่เป็นสิ่งที่มีวาระและหมดอายุได้ แต่สิ่งที่จะอยู่กับเราตลอดไปคือชื่อเสียงและเกียรติคุณที่เกิดจากการทำงานอย่างสุจริต ขอให้ทุกคนตั้งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ คิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และอย่าหลงไปกับผลประโยชน์ส่วนตนหรือแรงกดดันทางการเมือง