เปิดใจครั้งแรก ‘แอนดอย’ มิสทิฟฟานี่ วอนให้ครูสาวทรานส์แต่งตัวตามอัตลักษณ์ ขอพัฒนาต่อแม้โดนกระแสไม่สมมง

เดินทางมาถึงรอบตัดสินแล้ว สำหรับการประกวด “Miss Tiffany’s Universe 2025 : Moving Forward พุ่งทะยานสู่วันใหม่” ที่ปิดฉากไปอย่างสวยงาม ในค่ำคืนวันที่ 15 มีนาคม ณ โรงละครทิฟฟานี่โชว์ พัทยา จังหวัดชลบุรี

โดยมงกุฎมิสทิฟฟานี่ 2025 ตกเป็นของ แอนดอย-ปรียากร พรพรหม มิสทิฟฟานี่ คนที่ 26 จบการศึกษาสาขาวิชาการสอนศิลปะ มหาวิทยาลัยบูรพา ปัจจุบันรับราชการครู เป็นชาวจังหวัดชลบุรี เธอสวยสมมงแบบรอบด้านทั้งรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ ทัศนคติ และปฏิภาณไหวพริบในการตอบคำถาม

โดยเธอตอบคำถามในรอบสุดท้ายที่ว่า “หากคุณสามารถส่งข้อความถึงรุ่นน้องทิฟฟานี่ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยบรรจุไว้ในแคปซูลเวลา เรื่องราวและบทเรียนใดที่คุณคิดว่าสำคัญที่สุด ที่คุณอยากจะถ่ายทอด และเพราะเหตุผลใด”

แอนดอยตอบว่า “เมสเสจที่แอนดอยจะส่งไปคือคำว่าพัฒนา เพราะทุกการเริ่มต้น พวกเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ในทุกวัน แต่ถ้าเราขาดการพัฒนา เราไม่สามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ในวันข้างหน้า แต่ถ้าทุกคนอยู่กับตัวเอง พัฒนาตัวเอง แอนดอยคิดว่าไม่ว่าจะผ่านไปกี่วัน 1 วัน 2 วันหรือ 3 วัน ถ้าเราพัฒนา เราก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน”

แอนดอยเปิดใจหลังคว้ามงว่า แอนดอยกล่าวว่า ดีใจมากๆ เพราะเธอตั้งใจมากและเต็มที่ในทุกๆ วัน และวันนี้เป็นค่ำคืนที่สวยที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา 29 ปี อยากขอบคุณทีมพี่เลี้ยง ทีมคนทำชุด ทีมองค์กรมิสทิฟฟานี่ ขอบคุณครอบครัว และที่สำคัญอยากขอบคุณหน่วยงานต้นสังกัดที่เปิดโอกาสให้เธอได้แสดงอัตลักษณ์ทางเพศในกลุ่มครูที่เป็นทรานส์เจนเดอร์ โดยไม่มีการกีดกัน และส่งกำลังใจ ส่งพลังบวกให้ในทุกๆ วัน
เมื่อประเทศไทยมี “ครูที่เป็นมิสทิฟฟานี่” แล้ว

แอนดอยกล่าวถึงตรงนี้ว่า เมื่อเช้าทักหา ผอ.ว่า “หนูจะเอามงกุฎกลับโรงเรียนของเรา และวันนี้หนูก็เอามงกุฎกลับโรงเรียนของเราได้แล้วนะคะ”

ทั้งนี้ มิสทิฟฟานี่ คนที่ 26 รับข้าราชการครู โรงเรียนวัดหนองยาง จ.ชลบุรี เป็นโรงเรียนขยายโอกาส สอนวิชาศิลปะมาแล้ว 5 ปี

“แอนดอยถือเป็นคนที่โชคดีมากคนหนึ่ง ที่ได้เป็นครูตรงตามอัตลักษณ์โดยที่ไม่มีคำกีดกันเลย แอนดอยไม่มีอุปสรรคกับการเป็นข้าราชการครูเลย ได้ปฏิบัติตัวเหมือนเพศปกติเลย ลูกศิษย์ก็แฮปปี้ ไม่เคยมีคำบูลลี่หรืออะไรเกิดขึ้นเลย ตลอดการเป็นข้าราชการครู ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นคนแรกหรือเปล่าที่เป็นคนแรกของสาวทรานส์ที่มีบัตรข้าราชการครู แต่แอนดอยได้แต่งตัวตามอัตลักษณ์ทางเพศที่เป็นเพศหญิง ถือว่าได้รับการให้เกียรติจากหน่วยงานต้นสังกัดที่ไม่เคยกีดกั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็สามารถแสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางเพศได้อย่างเต็มที่”

อย่างไรก็ตาม แอนดอยก็ยังสะท้อนว่า ยังมีปัญหาการกีดกันในราชการครูในการปฏิบัติตัวให้ตรงตามอัตลักษณ์ทางเพศ ซึ่งเธอมายืนอยู่ตรงนี้ก็เพื่อมาเป็นกระบอกเสียง

“ยังมีอีกหลายพื้นที่จะยังมีการกีดกันการแสดงออกตามอัตลักษณ์ทางเพศ อยากเรียกร้องให้อย่าเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเขตไหน พื้นที่ไหน อยากให้ทุกคนได้รับสิทธิเท่ากัน”   

ชีวิตแอนดอยนับว่าเป็น “คนสู้ชีวิต” เธอโตมากับแม่เพียง 2 คน พ่อของเธอรับราชการทหารที่ต่างประเทศและภาคใต้

“หนูอยู่กับแม่มาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จนถึงอายุ 29 ปี และพ่อก็เสียชีวิตไปแล้ว หนูคิดว่าหนูจะทำให้แม่หนูภาคภูมิใจที่สุด หนูมองไปหนูไม่เห็นหรอกว่าแม่หนูอยู่ตรงไหน แต่สิ่งที่หนูรู้ได้ว่า แม่และพ่อกำลังดูหนูอยู่ และวันนี้ หนูอยากบอกกับแม่ว่า หนูทำได้แล้ว หนูรักแม่มาก”

อย่างไรก็ตาม มีกระแสตีกลับว่าเธอไม่สมมง โดยเฉพาะเรื่องการตอบคำถามรอบสุดท้าย แอนดอยกล่าวถึงประเด็นดราม่านี้ว่า

“สิ่งเดียวที่แอนดอยมีคือความพยายาม และเชื่อว่าองค์กรก็เห็นความพยายามของแอนดอยแล้ว ถึงได้เลือกให้เป็นผู้ชนะในค่ำคืนนี้ และสิ่งเดียวที่แอนดอยได้พูดไว้ในรอบตอบคำถามว่า สิ่งที่อยากจะฝากคือการพัฒนา คนเราจะหยุดพัฒนาเพียงเท่านี้เหรอ พรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่แล้ว คนเราสามารถพัฒนาใหม่ได้ทุกวันอยากให้เชื่อในแอนดอยว่าแอนดอยจะคว้าชัยชนะครั้งนี้มาให้ได้ มง 5 ต้องเป็นของประเทศไทย”