ศธ.แจง พร้อมให้ความร่วมมือรัฐบาล เดินหน้าทุนโอดอส พร้อมแนะข้อดี ข้อเสีย
GH News March 21, 2025 01:40 PM

ศธ.แจง พร้อมให้ความร่วมมือรัฐบาล เดินหน้าทุนโอดอส พร้อมแนะข้อดี ข้อเสีย

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า
ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าว โครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชน หรือ ODOS (โอดอส) โดยเชิญชวนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 อายุไม่เกิน 19 ปี จาก 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขตทั่ว กทม. สมัครเข้าร่วมโอดอส ซัมเมอร์แคมป์ ค่ายแห่งโอกาสภาคฤดูร้อน ได้ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม-16 พฤษภาคม 2568 ผ่านแอพพลิเคชั่นทางรัฐ นั้น สำหรับโครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชน หรือโอดอส ในปีนี้ทางศธ.จะมีส่วนในการเป็นกรรมการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดหลักเกณฑ์และเลือกกลุ่มเด็กที่จะเข้ามารับทุนนี้ รวมไปถึงทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับเยาวชนที่มีความสนใจในการเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งศธ.ได้มีการประชุมกับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด

“ในครั้งนี้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และ คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะเป็นหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อน ส่วนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จะเข้ามาดูแลในกระบวนการลงทะเบียนผ่านระบบดิจิทัล และถึงแม้ว่า ศธ.จะไม่ได้เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวเหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่ก็ยินดีให้ความร่วมมือ เพื่อให้การดำเนินการสำเร็จไปได้ด้วยดี โดยมุ่งหวังให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสไปศึกษาต่อในสิ่งที่ตนเองสนใจ ซึ่งพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศธ. ได้กำชับไปยังทุกหน่วยงานในสังกัดศธ.ว่าให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่และปฏิบัติตามนโยบายของนายกฯให้ดีที่สุด”นายสิริพงศ์ กล่าว

นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมที่ผ่านมาศธ.ได้มีการเสนอแนะข้อดีข้อเสียของโครงการในครั้งก่อนเพื่อให้มาปรับปรุงในครั้งนี้ เช่น เรื่องของอัตราเด็กที่ได้ทุนไปเรียนแล้วแต่ไม่สามารถเรียนต่อจนจบได้โดยได้มีการรวมรวมข้อมูลปัจจัยต่างๆที่ส่งผลให้เกิดปัญหากับเด็กไม่ว่าจะเป็น ปัจจัยทางด้านภาษา ปัจจัยทางด้านประเทศ ปัจจัยทางด้านความพร้อมของครอบครัว และปัจจัยทางด้านสังคม ซึ่งได้ส่งข้อมูลเหล่านี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีการปรับแก้ให้ดีขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังเรียบร้อยแล้ว

“จากการปรับแก้ส่งผลให้หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อความรัดกุมมากยิ่งขึ้น และคาดว่าจะเปิดรับสมัครเด็กที่มีเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป เนื่องจากโครงการในครั้งนี้จะเน้นในการส่งเด็กที่มีความสนใจในด้านสะเต็มศึกษา (STEM Education) ซึ่งคือการบูรณาการความรู้ระหว่าง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เป็นหลัก ขณะเดียวกันก็จะมีการพิจารณาปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เช่น ทัศนคติของผู้เรียน ความพร้อมของครอบครัวที่จะปล่อยให้บุตรหลานไปเรียนต่อต่างประเทศ เป็นต้น”นายสิริพงศ์ กล่าว

นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณและทุนการศึกษาที่จะนำมาใช้ในโครงการนี้จะได้รับจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่นำรายได้จากการขายสลากมาใช้ในการส่งเสริมการศึกษา โดยมีกสศ.เป็นผู้ดูแลทุนดังกล่าวเพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับเด็กนักเรียนในโครงการอย่างเหมาะสม ซึ่งจะแตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมาที่ศธ.จะเป็นผู้ดูแลงบประมาณในภาพรวม

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.