เปิดรายละเอียดคุณสมบัติ-หลักเกณฑ์ คัดเลือกทุนโอดอส ซัมเมอร์แคมป์ เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.50
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความคืบหน้ากรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา ODOS Summer Camp เปิดรับสมัครเยาวชนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 และอายุไม่เกิน 19 ปี จาก 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร สมัครเข้าร่วม ODOS Summer Camp – ค่ายแห่งโอกาส ภาคฤดูร้อน ได้ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 16 พฤษภาคม 2568 ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” โดยเป็นการศึกษาเหมือนเรียนซัมเมอร์ ระยะสั้นเพียง 6 สัปดาห์นั้น ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลทางเว็บไซต์ทุนโอดอส มีรายละเอียดดังนี้ กำหนดการรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 16 พฤษภาคม 2568 ประกาศผลการคัดเลือกครั้งที่ 1 วันที่ 16 มิถุนายน ทดสอบภาษาอังกฤษและทักษะดิจิทัลพื้นฐาน 17-30 มิถุนายน ประกาศผลการคัดเลือกครั้งที่ 2 วันที่ 1 กรกฎาคม และ 1 สิงหาคม ประกาศผลผู้ผ่านการคัดเลือก
คุณสมบัติของผู้สมัคร ประกอบด้วย 1.มีสัญชาติไทย 2.อายุไม่เกิน 19 ปี 3.มีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านอยู่ในอำเภอใดอำเภอหนึ่งของประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี กรณีย้ายที่อยู่ไม่ถึง 1 ปี ให้ยึดที่อยู่เดิมก่อนหน้าที่อาศัยต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี 4. เป็นนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษา ที่ศึกษาอยู่ในสถานศึกษาภายในประเทศ ในปีการศึกษา 2567 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1 หรือระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 หรือเทียบเท่า
5.คะแนนเฉลี่ยสะสมรวม 2 ภาคการศึกษาล่าสุด ไม่ต่ำกว่า 2.50 (ในระบบการวัดผลที่คิดคะแนนให้ A=4, B=3, C=2, D=1, E หรือ F=0) หรือร้อยละ 62.5 6. คะแนนเฉลี่ยสะสมวิชาภาษาอังกฤษ 2 ภาคการศึกษาล่าสุด ไม่ต่ำกว่า 3.00 (ในระบบการวัดผลที่คิดคะแนนให้ A=4, B=3, C=2, D=1, E หรือ F=0) หรือร้อยละ 75 7. มีความประพฤติดี โดยมีหนังสือรับรองจากสถานศึกษาหรืออาจารย์ที่ปรึกษา หรือครูประจำชั้น มีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่เป็นโรคอันอาจเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา หรือเป็นโรคติดต่อที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน และไม่เป็นคนไร้ความสามารถ
เอกสารประกอบการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตา พื้นหลังไม่มีลวดลาย ถ่ายไว้ไม่เกิน 1 ปีนับถึงวันเปิดรับสมัคร , สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้สมัคร, สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของบิดามารดา หรือผู้ปกครองที่ให้การอุปการะเลี้ยงดู , หนังสือยินยอมจากบิดามารดา หรือผู้ปกครองที่ให้การอุปการะเลี้ยงดู ,สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน 2 ภาคการศึกษาล่าสุด ,หนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือหนังสือรับรองการจบการศึกษา ,หนังสือรับรองความประพฤติจากสถานศึกษา อาจารย์ที่ปรึกษา หรือครูประจำชั้น ,ประกาศนียบัตรหรือเอกสารแสดงถึงความสำเร็จในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล (ถ้ามี) ,วีดีโอแนะนำตัวเอง เล่าประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ เป้าหมาย และความคาดหวังในการเข้าร่วมโครงการ เป็นภาษาอังกฤษ ความยาวไม่เกิน 2 นาที ได้ยินเสียงพูดชัดเจน ไม่มีเสียงรบกวน และเห็นใบหน้าผู้สมัครชัดเจน , เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล ผลการทดสอบภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศอื่น ๆ
หลักเกณฑ์การพิจารณา ประกอบด้วย 1.การพิจารณาสำหรับการประกาศผลรอบที่ 1: ได้แก่ คะแนนเฉลี่ยสะสม 10% คะแนนเฉลี่ยสะสมวิชาภาษาอังกฤษ 20% ประสบการณ์และความสำเร็จด้านดิจิทัล 30% การนำเสนอทักษะและทัศนคติผ่านสื่อวีดีโอ 40% 2.การพิจารณาสำหรับการประกาศผลรอบที่ 2:ได้แก่ ผลสอบภาษาอังกฤษ 10% ผลสอบทักษะด้านดิจิทัลระดับพื้นฐาน 20% 3.การพิจารณาสำหรับการประกาศผลรอบที่ 3: ได้แก่ ผลสอบทักษะด้านดิจิทัลระดับกลาง 30% และ4 การพิจารณาประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือกผ่านการสัมภาษณ์: ได้แก่ ทัศนคติ 20% ปฏิภาณไหวพริบในการแก้ไขปัญหา 20% การสื่อสาร 20% ความคิดเชิงวิเคราะห์ 20% บุคลิกภาพ 20%
แนวทางการคัดเลือกผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ 1.ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศนี้ โดยคณะกรรมการฯ จะพิจารณาประกาศผลผู้ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 1 จากเอกสารประกอบการพิจารณาและวีดีโอแนะนำตัว
2. ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการที่ได้รับการประกาศรายชื่อเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 1 จะต้องดำเนินการสอบภาษาอังกฤษและทักษะดิจิทัลระดับพื้นฐานผ่านแพลตฟอร์มที่คณะกรรมการฯ กำหนด โดยผู้สมัครเข้าร่วมโครงการที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบนี้สามอันดับของแต่ละอำเภอ/เขตจะได้รับการประกาศรายชื่อเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 2
3. ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการที่ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 2 จะต้องดำเนินการสอบวัดระดับทักษะดิจิทัลระดับกลางผ่านแพลตฟอร์มที่คณะกรรมการฯ กำหนด โดยผู้สมัครเข้าร่วมโครงการที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบนี้ของแต่ละอำเภอ/เขตจะได้รับการประกาศรายชื่อเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 3 โดยผู้สมัครเข้าร่วมโครงการที่ได้คะแนนสูงสุดในลำดับที่สองและสามจะได้รับการประกาศรายชื่อเป็นตัวแทนสำรองของอำเภอ/เขตตามลำดับ
4. ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการที่ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 4 จะต้องเข้าสู่กระบวนการกำหนดประเทศ/พื้นที่ ด้วยวิธีการจับสลากในวัน เวลาและสถานที่ที่คณะกรรมการฯ กำหนด
5. ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการจะต้องเข้ารับการคัดเลือกด้วยวิธีการสัมภาษณ์ กับคณะกรรมการคัดเลือกด้วยวิธีการสัมภาษณ์รายประเทศ/พื้นที่ตามที่ได้ทำการจับสลากไป และในกรณีที่ประเทศ/พื้นที่ใดมีหลายหลักสูตร คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะเป็นผู้กำหนดหลักสูตรตามความเหมาะสมของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ
6. ในกรณีมีผู้สละสิทธิหรือไม่ผ่านการคัดเลือกด้วยวิธีการสัมภาษณ์ จะให้สิทธิในการรับการคัดเลือกแก่ตัวแทนสำรองของอำเภอ/เขตตามลำดับ
7. ในกรณีที่ไม่มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการในอำเภอ/เขตใด จะให้สิทธิในการรับการคัดเลือกแก่ตัวแทนสำรองของอำเภอ/เขตอื่น ตามลำดับคะแนนการสอบวัดระดับทักษะในข้อ 4.3
8. ในกรณีที่พบว่าในกระบวนการจัดลำดับคะแนนของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการมีคะแนนเท่ากันตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือกรณีอื่นใดนอกเหนือจากประกาศนี้ ให้คณะกรรมการฯ กำหนดแนวทางการคัดเลือกเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการพิจารณาที่โปร่งใสและเป็นธรรม และการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด