‘พณ.’ปลื้มส่งออกกพ.โต14% ‘พิชัย’มั่นใจช่วยดันจีดีพี5% คลังทุ่ม5พันล.ค้ำซื้อปิ๊กอัพ
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะการค้าของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ว่า การส่งออกมีมูลค่า 26,707 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 906,520 ล้านบาท ขยายตัวถึง 14% เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน โดยในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้การส่งออกมีมูลค่า 51,984 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวถึง 13.8% ถือเป็นข่าวดีและเป็นตัวเลขที่น่าพอใจมาก ดังนั้น กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องการเห็นเศรษฐกิจปีนี้โตเกิน 3% และการส่งออกต้องโตเกิน 3.5% เป็นเรื่องที่เป็นไปได้อย่างแน่นอน
นายพิชัยกล่าวว่า หากดูสถิติการส่งออกของไทยย้อนหลังกลับไปตลอด 5 เดือน นับตั้งแต่ น.ส.แพทองธารเข้ามาบริหารประเทศจะเห็นชัดเจนว่าการส่งออกของไทยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 11.8% โดยเดือนตุลาคม 2567 ขยายตัว 14.6% เดือนพฤศจิกายน 2567 ขยายตัว 8.2% เดือนธันวาคม 2567 ขยายตัว 8.7% เดือนมกราคม 2568 ขยายตัว 13.6% และเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ขยายตัว 14% ซึ่งการส่งออกไทยกำลังฟื้นตัวจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ไทยเป็นประเทศเล็กและเปิด จำเป็นต้องพึ่งพาการส่งออก
“แนวโน้มคาดหวังส่งออกขยายตัวต่อ ผลจากการลงทุนเพิ่มเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าขยายตัวและผลักดันเอฟทีเอ มีหลายโรงงานที่ได้รับการส่งเสริมลงทุนใกล้เสร็จและพร้อมเริ่มการผลิตเพื่อส่งออก อาทิ อุตสาหกรรมแผงวงจรพิมพ์ หรือ PCB รวมถึงการท่องเที่ยว คาดมีนักท่องเที่ยวแตะ 39-40 ล้านคน รัฐเร่งแก้ปัญหาหนี้ที่ยังเป็นอุปสรรคเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ รวมกับปัจจัยต่างๆ ทำให้จีดีพีปีนี้ขยายตัวได้ 5-6%” นายพิชัย กล่าว
ที่กระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้เปิดตัวมาตรการ “กระบะพี่มีคลังค้ำ” ซึ่งเป็นครั้งแรกของไทยที่ใช้มาตรการการค้ำประกันสินเชื่อของรัฐบาลในการกระตุ้นตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะเชิงพาณิชย์ที่ซบเซาให้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ด้วยวงเงินค้ำประกันในระยะแรก 5,000 ล้านบาท โดย บสย.ช่วยค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในการขอสินเชื่อรถกระบะ เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ สูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อราย
นายเผ่าภูมิกล่าวว่า ทั้งนี้ ภายใต้มาตรการนี้นั้น บสย.จะค้ำประกันและจ่ายส่วนต่างของภาระหนี้กับราคาขายทอดตลาดให้กับสถาบันการเงินตามเงื่อนไข โดยรัฐบาลจะเป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ประชาชนใน 3 ปีแรกส่วนปีที่ 4-7 คิดค่าธรรมเนียมค้ำประกันเพียง 1.5% ต่อปี ค้ำประกันนานสูงสุด 7 ปี หรือ 84 งวด เปิดรับคำขอตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 30 ธันวาคม 2568 ซึ่งสอดรับกับช่วงเวลางานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2025 ช่วงวันที่ 26 มีนาคม-วันที่ 6 เมษายนนี้พอดี สำหรับมาตรการนี้จะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท