มิตซูบิชิ ย้ำค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอี แก้ปัญหาตรงจุด หลังรัฐบาลเหลือแค่รอความชัดเจนจากสถาบันการเงิน มั่นใจช่วยพลิกยอดตลาดปิกอัพฟื้น หยอดคำหวานหลังส่งรถไฮบริด เจนสอง เอ็กซ์ฟอร์ซ ลุยตลาด หวังเพิ่มส่วนแบ่งปีนี้แตะ 6% เชื่อลูกค้าให้การตอบรับ พร้อมลงทุนเพิ่มโมเดลใหม่
นายเรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ในประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนธุรกิจ ว่าบริษัทได้ตัดสินใจลงทุนเข้าร่วมโครงการ มาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฮบริด (HEV) จากบีโอไอ เบื้องต้นได้ลงทุนไปตามมูลค่าที่กำหนดคือไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท
สำหรับพัฒนารถยนต์ไฮบริด เป็นเจเนอเรชั่นที่สองอย่าง มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ซ เอชอีวี (XForce HEV) ออกสู่ตลาดประเทศไทย และอนาคตยังมองหาโอกาสลงทุนเพิ่มเติม สำหรับรถยนต์ไฮบริดรุ่นอื่นอย่างต่อเนื่อง โดยต้องรอดูมาตรการ-นโยบายการส่งเสริมจากรัฐบาลไทย ว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางใดด้วยซึ่งปีหน้าจะแนะนำปาเจโรสปอร์ต รุ่นใหม่ด้วย
สำหรับมิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ซ เอชอีวี เบื้องต้นจะผลิตเพื่อรองรับความต้องการในไทยก่อน ส่วนแผนการส่งออกยังต้องรอดูรายละเอียด
บริษัทตั้งเป้ารถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ซ เอชอีวี จะส่งผลให้สัดส่วนการจำหน่ายรถยนต์ไฮบริดของมิตซูบิชิ เพิ่มเป็น 50% โดยมาจาก มิตซูบิชิเอ็กซ์แพนเดอร์ และเอ็กซ์ฟอร์ซ ไฮบริด ส่วนที่เหลือจะเป็นรถในกลุ่มปิกอัพ ไทรทัน, ปาเจโรสปอร์ต และรถอีโคคาร์
ทั้งนี้มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ซ เอชอีวี จะมีส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันยอดขายของมิตซูบิชิ และทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 4.8% ในปี 2567 เพิ่มมากกว่า 6% ในปีนี้ หรือมียอดขายที่ 35,000-36,000 คัน
ส่วนตลาดรถยนต์โดยรวมจะเติบโตเล็กน้อย 2-5% จากยอดขาย 572,000 คันในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยังต้องรอดูปัจจัย ตัวแปรที่ไม่แน่นอน เศรษฐกิจโดยรวม อัตราหนี้สินครัวเรือน
โดยเฉพาะตลาดรถปิกอัพว่าจะมีการฟื้นตัวหรือไม่ หลังจากรัฐบาลได้ประกาศมาตรการค้ำประกันสินเชื่อให้กับกลุ่มเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด คงต้องรอดูว่าตลาดปิกอัพจะกลับมาได้มากน้อยเพียงใด
รวมถึงแนวคิดการนำรถเก่ามาแลกรถใหม่ ว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน
ด้านนายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย กล่าวถึงเป้าหมายยอดจองมิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ซ เอชอีวี หลังจากเปิดตัวไปจนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568 ว่าตั้งไว้ที่ 3,000 คันก่อน โดยบริษัทจะส่งมอบรถลอตแรกได้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
บริษัทมั่นใจว่ารถยนต์รุ่นนี้จะช่วยผลักดันให้ตลาดรถยนต์ในกลุ่ม B-SUV กลับมามีการเติบโตอย่างชัดเจน แม้ว่าที่ผ่านมาตลาดจะมียอดขายลดลง
“เราเชื่อว่าตลาดรถโดยรวมปีนี้จะมีโอกาสเติบโตเพิ่มจากปีก่อนเล็กน้อย ส่วนสำคัญคือทุกอย่างยังต้องรอความชัดเจนจากสถาบันการเงินเป็นหลัก”
ขณะที่แผนการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนเพื่อขยายโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมี 190 แห่ง กระจายอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ซึ่งลูกค้ามั่นใจได้ว่า มิตซูบิชิจะสามารถดูแลหลังการขายได้อย่างทั่วถึง
“การแก้ปัญหาของรัฐบาลหลังจากฟังเสียงสะท้อนของค่ายรถยนต์รวมทั้งมิตซูบิชิไป ถือว่าเป็นการแก้ไขได้ถูกจุด เพราะหัวใจของปัญหานี้คือไฟแนนซ์ ถ้าหนี้เสียเยอะก็จะลำบาก แต่การแก้ปัญหาโดยโฟกัสที่กลุ่มเอสเอ็มอีนั้นถือเป็นการแก้ตรงจุด ตรงประเด็น ซึ่งจากนี้เราต้องรอดูกันว่าสถาบันการเงินจะตอบรับอย่างไร”
สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ซ เอชอีวี มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Ignite ราคา 899,000 บาท, รุ่น Ultimate ราคา 1,039,000 บาท และรุ่น Ultimate X ราคา 1,089,000 บาท