"อนุทิน"เปิดเวที E-SAN Life drive โชว์วิสัยทัศน์ ดันเศรษฐกิจอีสานใต้ ศูนย์กลางอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง ชูเกษตรใหม่ ท่องเที่ยว ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น "บุรีรัมย์โมเดล"
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มี.ค.68 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวปาฐกถาในงาน "E-SAN Life drive" ขับเคลื่อนอีสานสู่อนาคต 8 จังหวัด 8 วิสัยทัศน์ โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กรรมการกฤษฎีกา นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการระดับสูง ผู้ว่าราชการจังหวัด 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย จ.ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ และบุรีรัมย์
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เรามาประชุมร่วมกัน ทั้งทางภาคเอกชน ข้าราชการประจำ ภาคการเมือง และประชาชน ซึ่งจะต้องใช้พลังทั้งหมดนี้ในการขับเคลื่อนให้เกิดความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ และบรรลุผลสัมฤทธิ์จากรากฐานต่างๆ ที่ได้วางกันมาเป็นระยะเวลาหลายปี เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ก้าวไปได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ได้มารับฟังความเห็นจากผู้ที่เราเชื่อว่ามีบทบาทโดดเด่นทางด้านเศรษฐกิจของแต่ละจังหวัด เพื่อที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันได้อย่างเต็มที่ เรามี ส.ส.ของทั้ง 8 จังหวัดมาร่วมประชุมในวันนี้ด้วย เพื่อรับฟังการสะท้อนความต้องการของประชาชน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่อำนวยความสะดวก ให้คำปรึกษา และเพิ่มโอกาสเสริมสร้างรายได้
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือระหว่าง ปี 2566 ถึง 2570 มีการกำหนดทิศทางเพื่อต้องพัฒนาสร้างอีสานตอนล่างสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เน้นการพัฒนา 3 มิติ คือ1. Green ฐานการผลิตสินค้าภาคเกษตร และอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการเกษตรปลอดภัยเป็นเกษตรอินทรีย์ ภายใต้บีซีจีโมเดล 2. Gate เป็นศูนย์กลางเป็นประตูเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน และ 3.. Growth การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนโดยใช้องค์ความรู้เทคโนโลยีนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์พัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งพัฒนาการแพทย์การศึกษาเศรษฐกิจ
นายอนุทิน กล่าวว่า ลองนึกถึงการทำเกษตรแนวใหม่ที่ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น แน่นอนเราต้องมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทั้งในการเพาะปลูก ทั้งในการแปรรูป ให้ข้าว หอมแดง กระเทียม มันสำปะหลัง อ้อย และพืชเศรษฐกิจอื่นๆของเรามีมูลค่ามากขึ้น หลังจากนั้น นึกภาพต่อถึงการส่งไปขาย ตลาดในประเทศเป็นอย่างไร ตลาดต่างประเทศส่งถึงไหม ตรงนี้ก็ต้องคิดถึงระบบการขนส่ง การลำเลียง และการเปิดตลาดที่เราจะสามารถทำราคาได้ดี เรื่องความเข้าใจตลาดนี่สำคัญ จึงเป็นเหตุผลให้ผมต้องมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ดูแลด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สุดท้ายอย่าลืมต้นทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และสิ่งที่จับต้องไม่ได้อย่างภาคบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งท่านจะต้องคิดว่าเป็นการขายประสบการณ์ หาไอเดียว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งที่มีอยู่ได้อย่างไร
"ที่ จ.บุรีรัมย์เมื่อ 3 วันก่อน ผมได้ไปร่วมพิธีเปิดงาน "Colors of Buriram" เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อ สืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” นี่คือหนึ่งตัวอย่าง ของการหยิบฉวยภูมิปัญญาท้องถิ่น มาสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ แล้วเอามาต่อยอด ส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัด จากการจัดงานแฟร์ได้อีก" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ได้กล่าวขอบคุณ สส.ที่เดินทางมารับฟังในวันนี้ และในวันที่23 มี.ค.69 ต้องกลับไปประชุมพรรคภูมิใจไทย เพราะวันที่ 24 มี.ค.นี้ ต้องกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในการร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมไปฟัง และพร้อมชี้แจง ต้องขอบคุณทุกคนที่ไม่ทอดทิ้งประชาชน วันนี้มาเพื่อประโยชน์ของประชาชน ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ และขอบคุณข้าราชการกระทรวงมหาดไทยที่ให้ความสำคัญร่วมเดินทางมารับฟังนโยบาย และความร่วมมือที่ได้นำไปปฏิบัติ ขอให้ทุกท่านได้ให้ความร่วมมือเช่นนี้ตลอดไป เพื่อประโยชน์ของประเทศ และประชาชน