เมื่อเวลา 12.55 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีนัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมตัวก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจได้กำชับหรือให้ช่วยอะไรหรือไม่ว่า ไม่ได้มีคำว่าช่วย เพราะการอภิปรายนายกรัฐมนตรีคือการอภิปรายทั้งรัฐบาล รัฐมนตรีทุกกระทรวงต้องเตรียมข้อมูลให้นายกฯชี้แจง ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส่วนไหนที่ถูกพาดพิง ถ้าจำเป็นก็ต้องช่วยนายกฯชี้แจง ที่สำคัญต้องสนับสนุนให้การไว้วางใจการทำงานของนายกฯ ซึ่งเรามั่นใจว่านายกฯ จะสามารถชี้แจงได้ เพราะเราเป็นคนสนับสนุนข้อมูลต่างๆอยู่แล้ว สำหรับนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็เห็นอยู่ว่าได้ดำเนินการตามนโยบายต่างๆ เราในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องให้การสนับสนุนไว้วางใจ
เมื่อถามว่า นายกฯกังวลประเด็นใดหรือไม่ เพราะมีการพูดถึงเรื่องครอบครัวนายกฯด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯกลัวว่าจะพูดไม่เก่ง แต่พวกเราเรียนท่านว่าท่านทำงานมา 6 เดือนกว่า หรือครึ่งปีแล้ว ท่านมีความมั่นใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นตามลำดับ ถ้าทุกอย่างอยู่ในเกมตอบได้หมด
นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้พูดถึงเลย ท่านพูดถึงเรื่องงานในความรับผิดชอบ หากเป็นเรื่องส่วนตัวอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานหรือเรื่องใดๆที่ไม่ได้เกิดขึ้นในรัฐบาลของท่าน หรือที่เกิดก่อนที่จะมาเป็นนายกฯ ท่านก็ไม่ทราบจะตอบอย่างไร
นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นไปได้ด้วยดีนายกฯได้โพสต์ลงอินสตาแกรมแล้ว แต่เราไม่ได้หัวเราะด้วยความสุข เราพยายามทำให้ความกดดันต่างๆลดลง คิดว่านายกฯมีความกดดัน แต่ก็ต้องทำให้ท่านมีความมั่นใจ มีความพร้อมว่าจะผ่านพ้นการอภิปรายนี้ไปได้ด้วยดี เพราะเป็นครั้งแรกของท่าน ส่วนตนเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่งครั้งแรกก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่เราก็ตอบด้วยความมั่นใจ เรารู้ว่าเราทำงานอะไร เราก็ตอบไปด้วยความมั่นใจ ถ้าทำโดยไม่มีเจตนาที่ไม่สุจริต จะยิ่งตอบได้อย่างไม่ต้องมีแรงกดดันอะไร
“ท่านต้องควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าไปอ่อนไหวต่อคำพูดกระแทกแดกดันต่างๆ ขอให้อยู่ในสาระของญัตติการอภิปราย ท่านนายกฯก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า สส.ทุกคนรู้หน้าที่ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่จะมีสส. ยโสธร 1 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเวทีถล่มก่อนหน้านี้ อาจไม่สามารถไปร่วมประชุมได้ แต่ชี้แจงได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ผ่านอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หลังศึกซักฟอกจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายกฯ
นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าถามว่ากังวลไหมเราก็กังวลว่า หากเป็นข้อมูลที่มากกว่าที่เรารู้ ในสิ่งที่เราทำ แบบนี้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเราทำอะไรมา เรารู้ ทำดีทำชั่วเราก็ต้องรู้ ซึ่งที่ผ่านมานายกฯทำแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ทำแต่คุณงามความดีไม่น่าจะมีอะไรที่จะส่อไปในทางทุจริตได้
นายอนุทินกล่าวว่า ทีแรกคิดว่าจะโดนด้วย เตรียมข้อมูลไว้มากพอสมควร ครั้งนี้ถึงแม้นายกรัฐมนตรีจะโดนคนเดียวก็ต้องมีการพาดพิงถึงงานทุกกระทรวง เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ใช่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชี้แจง แต่เป็นการแถลงให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือฝ่ายค้าน ที่อาจไม่รู้ในรายละเอียดรับทราบซึ่งเราก็มั่นใจในสปิริต ของฝ่ายค้านอยู่แล้ว หลายครั้งเมื่อเราชี้แจงได้ หากพรรคฝ่ายค้านคลี่คลาย ก็เห็นสปิริตแสดงความขอบคุณและชื่นชมมา ถ้าอยู่กันแบบนี้ได้ ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน เขามีสิทธิ์ที่จะสงสัยถ้าเขาไม่สงสัย ก็แสดงว่าไม่ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ ส่วนเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า หากมีการพาดพิงรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยจะชี้แจงเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีกฎระเบียบอยู่แล้วว่าอะไรลุกขึ้นตอบได้ หรือไม่ได้ ส่วนไหนที่ถามนายกฯ เราก็ต้องเตรียมให้นายกฯตอบ ไม่ใช่อยู่ดีๆลุกขึ้นไปตอบแทน ฝ่ายค้านจะบอกว่าทำไม่ได้อภิปราย ถ้าเราดื้อพูดต่อไป ก็จะมีการประท้วงไปมา เสียเวลาพี่น้องประชาชน
นายอนุทิน กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร เป็นฝ่ายค้านอยู่แล้วก็มีสิทธิ์ที่จะอภิปราย แต่ร.ต.อ.เฉลิม เป็นการใช้เอกสิทธิ์ของความเป็นสส. ก็เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องไปดำเนินการ
ส่วนเรื่องการพาดพิงคนนอกอาจทำให้เกิดการประท้วงจนการประชุมยืดเยื้อถึงวันที่ 27 มี.ค.นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมก็ได้มีการพูดคุยกัน อยู่ดีๆจะลุกขึ้นตอบแทนนายกฯก็คงไม่ได้ แต่หากอภิปรายพาดพิงมาโดนรัฐมนตรีเต็มๆ เราก็มีสิทธิ์ใช้สิทธิ์พาดพิง แต่ต้องทำให้ถูกจังหวะให้ดี อะไรควรพูดก็พูด อะไรไม่ควรพูดก็ไม่ต้องพูด
นายอนุทิน หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า จะอยู่หรือไม่อยู่เชื่อว่าทุกคนก็จะฟังถ่ายทอดสด ไม่จำเป็นต้องอยู่บนบัลลังก์ เพราะอยู่ในสภาก็ได้ยินเสียงทั่วอยู่แล้ว และกล่าวติดตลกว่า ”ผมซื้อผลิตภัณฑ์โอท็อปใช้เป็นเครื่องขยายเสียง 3-4 เท่ามาแล้ว ไม่ต้องเสียบปลั๊กเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของ จ.เชียงใหม่“