หลังจาก “บิ๊กสุชัย” นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ หนึ่งในแคนดิเดตชิงเก้าอี้ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เปิดนโยบายหลักหากได้รับเลือกเข้าไปเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทย ในการเลือกตั้งใหญ่วันที่ 25 มี.ค. นี้ ด้วยการตั้ง “กองทุนช่วยเหลือสมาคมกีฬา” เบื้องต้น 100 ล้านบาท สร้างความฮือฮาให้กับบรรดาสมาคมกีฬาเป็นอย่างมากแล้วนั้น
ล่าสุด “บิ๊กสุชัย” เปิดเผยว่า เพื่อให้การทำงานระหว่างคณะกรรมการโอลิมปิคฯ, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) รวมไปถึงสมาคมกีฬา และภาครัฐบาล เดินหน้าพัฒนาทางด้านกีฬาอย่างเป็นรูปธรรมในทิศทางเดียวกัน และการขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จระดับนานาชาติในอนาคต ตนได้เรียนเชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานที่ปรึกษาของประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ หากตนได้รับเลือกเป็นประธาน ซึ่งท่านก็ตอบรับเรียบร้อยแล้ว
“ผมมีความตั้งใจจะเข้ามาทำงาน อยากจะพัฒนาวงการกีฬาไทยในทุกระบบให้มีความทันสมัยและประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติมากที่สุด โดยเฉพาะการผลักดันให้ประเทศไทย กลับมาเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาเอเชียนเกมส์ ในปี 2038 หลังจากไม่ได้จัดมานาน การที่ได้ท่านทักษิณ ตอบรับมาเป็นประธานที่ปรึกษา เชื่อว่าจะให้โครงการต่าง ๆ สามารถขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม และก่อเกิดประโยชน์กับสมาคมกีฬาและประเทศชาติอย่างยั่งยืน ที่สำคัญสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยไม่มีเรื่องของผลประโยชน์แอบแฝง”
นายสุชัย กล่าวต่อว่า การเสนอตัวเข้ารับการเลือกตั้งเป็นประธานโอลิมปิคไทยในครั้งนี้ ตนมีความพร้อมในการอาสาทำงานให้กับวงการกีฬา เพื่อให้มีความทันสมัย และจะเดินหน้าสนับสนุนคนในวงการกีฬาแบบไม่มีความแตกแยก และไม่มีการนำการเมือง หรือ รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงชี้นำใด ๆ แต่เป็นความร่วมมือกัน เพื่อนำพาวงการกีฬาไทยสู่ความเป็นอินเตอร์ และยกระดับการพัฒนาวงการกีฬาอย่างแท้จริง
“ผมไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวกับเรื่องกีฬา ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ตลอดเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ที่ผมทำงานอยู่เบื้องหลังของกีฬามาตลอด” นายสุชัย ย้ำทิ้งท้าย.