ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่น ประจำวันอังคารที่ 25 มีนาคม 2568 ทิวทัศน์ยังขมุกขมัว ไร้สีแดง แต่ไม่พ้นวิกฤตพิษฝุ่นหนัก ค่า PM2.5 เกินมาตรฐานทุกเขต
สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพมหานครเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ล่าสุดเช้าวันนี้ 25 มีนาคม 2568 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงาน ค่าเฉลี่ยของณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ในกรุงเทพมหานคร อยู่ที่ 51.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ลดลงจากวานนี้ แต่ภาพรวมของคุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์สีส้มทุกเขตพื้นที่ กล่าวคือ เป็นเกณฑ์ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
นอกจากนี้ ทางศูนย์ข้อมูลฯ ยังได้เปิดเผย 12 อันดับแรกของพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุดในกรุงเทพมหานคร พบว่าเป็นดังนี้
1. เขตบึงกุ่ม 71.8 มคก./ลบ.ม.
2. เขตลาดกระบัง 61.7 มคก./ลบ.ม.
3. เขตหนองจอก 61.3 มคก./ลบ.ม.
4. เขตวังทองหลาง 60.8 มคก./ลบ.ม.
5. เขตสายไหม 60.8 มคก./ลบ.ม.
6. เขตสาทร 60.7 มคก./ลบ.ม.
7. เขตมีนบุรี 60.3 มคก./ลบ.ม.
8. เขตคลองสามวา 59.1 มคก./ลบ.ม.
9. เขตบางนา 59 มคก./ลบ.ม.
10. เขตบางเขน 59 มคก./ลบ.ม.
11. เขตจตุจักร 58.8 มคก./ลบ.ม.
12. เขตพญาไท 57.7 มคก./ลบ.ม.
ในส่วนของภาพรวมของพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า คุณภาพอากาศในแต่ละโซนอยู่ในเกณฑ์ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยภาพรวมค่าฝุ่นละลอง PM2.5 แต่ละโซน เป็นดังนี้
อย่างไรก็ดี ฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง แต่ภาพรวมของคุณภาพอากาศก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้น ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร จึงแนะนำว่า สำหรับประชาชนพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศระดับสีส้ม (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) ควรปฏิบัติ ดังนี้
ประชาชนทั่วไป ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำ กิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง ต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และหากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ข่าวล่าสุด