“ดร.อาร์ม”ชี้ทรัมป์ใช้ท่าพิสดารกีดกันการค้า เตือนไทยรับมือจีนทุ่มอาเซียน
GH News March 26, 2025 09:21 PM

“ดร.อาร์ม”ชี้ทรัมป์ใช้ท่าพิสดารกีดกันการค้า เตือนไทยรับมือจีนทุ่มอาเซียน

นายอาร์ม ตั้งนิรันดร รองคณบดี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการเสวนาพิเศษ โลกป่วน เกมเปลี่ยน งานสัมมนา PRACHACHAT FORUM 2025 – NEXT MOVE Thailand 2025 ว่า ระเบียบโลกเดิมที่ดำเนินภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์ การค้าเสรีเอื้อให้ประเทศต่างๆ ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างไร้พรมแดน และช่วยให้ประเทศรายเล็กมีความได้เปรียบในการผลิต ด้วยต้นทุนที่ต่ำ อย่างไรก็ตามสหรัฐเชื่อว่าหากปล่อยให้กระแสเป็นเช่นนี้ต่อไป จีนจะร่ำรวยแซงหน้าสหรัฐในที่สุด

เพื่อขัดขวางความก้าวหน้าของจีน ทรัมป์ไม่ต้องการสู้ด้วยวิธีตามขนบการค้าเสรี และหันมาใช้ท่าพิสดารผ่านมาตรการกีดกันทางการค้าแทน เพราะเชื่อว่าจะเอาชนะจีนได้ด้วยวิธีนี้ แม้การค้าโลกจะหดตัวลง และแม้ทุกประเทศจะจนลงเหมือนกันหมด แต่ทรัมป์เชื่อว่าสหรัฐจะเจ็บน้อยสุด และประเทศที่เจ็บหนักที่สุดคือจีน

นอกจากทำให้จีนเจ็บหนักแล้ว ทรัมป์ยังต้องการเปลี่ยนแปลงโลกด้วย ตามที่แสดงในเอกสาร ‘คู่มือการปฏิรูประบบการค้าโลก’ สตีเฟน มิแรน (Stephen Miran) ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ของทรัมป์เผยแพร่ออกมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ในเอกสารดังกล่าว เต็มไปด้วยไอเดียพิศดารมากมาย ทั้งมาตรการภาษี การออกพันธบัตรถาวรไม่มีดอกเบี้ยให้ประเทศพันธมิตรถือ

มีเป้าหมายเพื่ออ่อนค่าสกุลเงินดอลลาร์ในระยะยาว นโยบาย 3-3-3 ได้แก่ หนึ่ง เพิ่ม GDP 3% ต่อปี สอง ลดการขาดดุลงบประมาณให้เหลือ 3% ของจีดีพี และสาม ขุดน้ำมันเพิ่ม 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน

นายอาร์ม กล่าวว่า เมื่อสหรัฐต้องการพึ่งพาจีนให้น้อยลงและผลิตสินค้าเองแล้ว คำถามที่ตามมาคือ จีนจะขายสินค้าให้ใครแทน สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ในจีน และมีนัยสำคัญมหาศาลต่อก้าวต่อไปของประเทศไทย คือ จีนกำลังทุ่มสุดตัวให้กับ 2 สิ่ง

หนึ่งคือด้านเทคโนโลยี ได้แก่ โซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่ และรถยนต์อีวี (EV) ซึ่งปัจจุบันจีนกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่แล้ว มากกว่านั้นเทคโนโลยีใหม่ชิ้นต่อไปของจีน คือ Humanoid Robot ที่กำลังจะมาในอีก 2 ปีข้างหน้า ไม่เพียงเท่านั้น จีนยังทุ่มสุดตัวให้ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และซีกโลกใต้ (Global South) ซึ่ง ทุนจีนและสินค้าจีนจะมีการไหลทะลักท่วมตลาดที่รุนแรงขึ้นในยุคทรัมป์ 2.0

หลายคนอาจจะยังไม่เชื่อว่าคราวนี้ทรัมป์เอาจริง ไม่ใช่แค่ขู่ ดังนั้นขอให้ตั้งตารอมาตรการภาษีใหม่ในวันที่ 2 เมษายนนี้ ซึ่งทรัมป์เรียกว่าเป็นวัน ‘ประกาศอิสรภาพ’ (Liberation Day) โดยมาตรการภาษีไม่ได้เป็นเรื่องหายนะสำหรับสหรัฐ แถมยังช่วยให้ตลาดหุ้นสหรัฐได้มีการปรับฐาน ซึ่งทรัมป์รู้จังหวะเร่ง จังหวะผ่อนให้ตลาดหุ้นได้ปรับตัว ไหนจะแผนกดต้นทุนพลังงาน รวมถึงมาตรการลดภาษีคนในประเทศ สหรัฐจึงไม่ได้รับผลกระทบเงินเฟ้อมากนักนอกจากจะไม่เสียหายแล้ว

“สหรัฐยังมองว่าตัวเองเป็นประเทศผู้ซื้อรายใหญ่สุดของโลก ไม่ว่าอย่างไร ประเทศอื่น ๆ จะต้องยอมโอนอ่อนอยู่แล้ว ตามวลีลูกค้าถูกเสมอ”นายอาร์มกล่าว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.