สืบเนื่องจาก ว่าที่ พ.ต.อ.มนต์ชัย บุญเลิศ ผกก.2 บก.สอท.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดร่วมกันสืบสวนเว็บไซต์พนันออนไลน์ “จ๊วด 888 (JUAD888H.COM)” ลักลอบเปิดให้บริการลูกค้าเข้าเล่นพนันออนไลน์ มอมเมาเด็กและเยาวชน จากการสืบสวนตรวจสอบพบว่า มีการเปิดบัญชีเครือข่ายเป็นบริษัทนิติบุคคลบังหน้าและบัญชีบุคคลต่างด้าว เป็นบัญชีสำหรับรับเล่นหน้าเว็บไซต์และบัญชีจ่ายถอนคืนเงินให้ลูกค้าและบัญชีเครือข่ายอื่นๆอีกหลายบัญชี

จากการตรวจสอบวิเคราะห์เส้นทางการเงินพบว่า มีเงินหมุนเวียนจำนวนหลักพันล้านบาทต่อเดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบแน่ชัดว่า ผู้ต้องหาบุคคลตามหมายจับทั้ง 4 ราย เชื่อมโยงการกระทำความผิด มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ ทั้งเป็นแอดมินบริหารจัดการเว็บพนัน, คนกดถอนฝากเงินของเว็บพนัน, บัญชีม้าที่รับโอนเงินพนัน และเป็นบุคคลที่รับโอนเงิน/ผู้รับประโยชน์
 

เจ้าหน้าที่นำหมายจับเข้าค้น 5 จุด ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย 

1. น.ส.สิริญธ์ อายุ 35 ปี ทำหน้าที่ผู้รับผลประโยชน์จากเว็บพนันออนไลน์
จับกุมได้ที่ห้องพัก ในคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านชิดลม แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 
ให้การภาคเสธว่า เป็นบัญชีรับโอนเงินของตนเอง รู้แต่เพียงว่า แฟนบอกว่าจะมีเงินโอนเงินเข้าบัญชี ไม่ทราบว่าเป็นเงินได้มาจากส่วนใด

2. น.ส.ปิยธิดา อายุ 28 ปี ทำหน้าที่เป็นแอดมิน และบริหารจัดการเว็บไซต์
จับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้าน ซ.โคกไม้แดง 6 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ให้การรับสารภาพว่า ช่วงโควิดตกงานจึงได้หางานทำ และรู้จักบุคคลในเพจเฟซบุ๊กให้ทำหน้าที่แอดมิน ได้เงินเดือนละ 28,000 บาท จึงได้ทำหน้าที่แอดมินหาลูกค้าและจัดการระบบบริหารเว็บไซต์

3. นายประนพ อายุ 46 ปี ทำหน้าที่ถอนเงินสดออกจากบัญชี
จับกุมได้ที่บริเวณ ถนนเชื้อเพลิง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับเพื่อนรุ่นพี่ในบริษัทเดิมให้ทำหน้าที่กดถอนเงินและนำเงินสดฝากเข้าบัญชี โดยได้รับค่าจ้าง

4. น.ส.ประคอง อายุ 52 ปี ทำหน้าที่บัญชีม้าที่รับโอนเงินพนันฯ โดยนายประนพ นำไปใช้เป็นบัญชีถอนเงิน
จับกุมได้ที่บริเวณ ถนนเชื้อเพลิง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
ให้การรับสารภาพว่า เปิดบัญชีม้าให้กับนายประนพฯ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านรู้จักกัน (ถูกนำไปใช้รับโอนและถอนเงิน ) ได้รับค่าจ้างเดือนละ 2,000 บาท
พร้อมตรวจยึดของกลางเป็น เงินสด สมุดบัญชีธนาคาร สลิปฝากเงิน บัตรเอทีเอ็ม คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ก แทปเล็ต โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ และอื่นๆ จำนวนหลายรายการ รวมทรัพย์สินมูลค่าของกลางประมาณ 5 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน”