ครบรอบ สถาปนา 134 ปี กระทรวงยุติธรรม เชื่อมั่น เข้าถึง ที่พึ่งประชาชน
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่กระทรวงยุติธรรม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนากระทรวงยุติธรรม ครบรอบ 134 ปี “134 ปี กระทรวงยุติธรรม เชื่อมั่น เข้าถึง ที่พึ่งประชาชน” และพิธีมอบรางวัลเข็มเครื่องหมายยุติธรรมธำรง ประจำปี พ.ศ. 2568 รางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2567 ของกระทรวงยุติธรรม และรางวัลงานวิจัยดีเด่น
โดยมี นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม และอดีตผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ข้าราชการ บุคลากรในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมฯ ณ อาคารกระทรวงยุติธรรม
การจัดงานเนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนากระทรวงยุติธรรม ครบรอบ 134 ปี เพื่อมุ่งเน้นให้ข้าราชการและบุคลากรกระทรวงยุติธรรมทุกคนสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศจัดตั้งกระทรวงยุติธรรมขึ้น เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2434 (รศ. 110) ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “134 ปี กระทรวงยุติธรรม เชื่อมั่น เข้าถึง ที่พึ่งประชาชน” ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนภารกิจการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน การให้ความช่วยเหลือเยียวยา การบังคับใช้กฎหมายและการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามมาตรฐาน ถูกต้อง เที่ยงตรง และโปร่งใส ส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการงานยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อกระทรวงยุติธรรม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติและมีความเป็นยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลงานสถาปนากระทรวงยุติธรรมครบรอบ 134 ปี ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ หัวข้อ “134 กระทรวงยุติธรรม เชื่อมั่น เข้าถึง ที่พึ่งประชาชน” กระทรวงยุติธรรมได้รับการสถาปนาโดยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ซึ่งต้องเรียนว่าวันนี้พระราชจริยวัตรของพระองค์ท่านถ้ากระทรวงยุติธรรมนำไปเป็นปรัชญา ประการที่ 1 คือ พระองค์ท่านได้ทรงเลิกทาสโดยถือว่ามนุษย์ทุกคนต้องมีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียม การเลิกทาสจึงถือว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก กระทรวงยุติธรรมจึงจำเป็นต้องนำพระราชจริยวัตรนี้ไปปฏิบัติเพื่อให้ประชาชนคนไทยหรือในโลกมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่ากัน มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน
ประการที่ 2 คือ พระองค์ทรงปฏิรูป โดยเราจะเห็นว่าเกือบทุกแห่งของหน่วยราชการหรือหน่วยงานต่างๆ ถ้าย้อนไปเกิดขึ้นในสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 โดยทำบนพื้นฐานบริบทเดิมให้ดีขึ้น คือ เราคงไม่หยุดนิ่งคงจะต้องมาปฏิรูป ประการที่ 3 คือ ท่านเสด็จประพาสไปทั่วทุกแห่ง แสดงให้เห็นถึงการเข้าไปหาความรู้ คือ เราต้องพัฒนาความรู้ เราต้องรู้จริง ไม่ใช่รู้โดยการอ่านหนังสืออย่างเดียว
ประการที่ 4 ที่สำคัญมาก คือ พระองค์ท่านทรงเป็นที่รักของประชาชน การที่จะทำให้ประชาชนรัก คือ การเข้าถึงเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเป็นที่พึ่งของประชาชน ดังนั้น หัวข้อ “134 ปี กระทรวงยุติธรรม เชื่อมั่น เข้าถึง ที่พึ่งประชาชน” ซึ่งเป็นหัวข้อที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ผมจึงเห็นว่าเราควรนำพระราชจริยวัตรมาเป็นแนวทาง โดยในยุคสมัยครบรอบ 134 ปี บทบาทของกระทรวงยุติธรรม อาจจะกล่าวได้ว่า กระทรวงยุติธรรมเป็นกระทรวงที่ธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม เป็นคำกล่าวที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และจะกำหนดให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและหลักนิติธรรม เพื่อรักษาความยุติธรรมและประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม
ทั้งนี้ การจัดงานได้มีการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมจิตอาสากระทรวงยุติธรรม โดยการบริจาคโลหิตร่วมกับสภากาชาดไทย ในวันที่ 18 – 19 มีนาคม 2568 ซึ่งมีผู้ร่วมบริจาคโลหิตทั้งสิ้น 136 คน เป็นจำนวนโลหิตที่ได้รับ 106 ยูนิต การจัดพิธีทางศาสนา การเปิดรับบริจาคทรัพย์เข้ากองทุนสวัสดิการสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม กองทุนยุติธรรม และกิจกรรม “หนึ่งการให้ได้สองเท่า” เพื่อเด็กและเยาวชน
โดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมทั้งการมอบเข็มเครื่องหมายยุติธรรมธำรง พร้อมใบประกาศนียบัตร ประจำปี พ.ศ. 2568 แก่บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์หรือผู้ให้การสนับสนุนกิจการหรือราชการของกระทรวงยุติธรรม ชั้นที่ 1 จำนวน 4 ท่าน ชั้นที่ 2 จำนวน 1 ท่าน ชั้นที่ 3 จำนวน 16 ท่าน และชั้นที่ 4 จำนวน 80 ท่าน รวมจำนวนทั้งสิ้น 101 ท่าน การมอบโล่รางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2567 ของกระทรวงยุติธรรม จำนวน 19 รางวัล และการมอบรางวัลงานวิจัยดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2566 จำนวน 8 รางวัล