สิ่งใหม่เกิดขึ้นย่อมดีเสมอ…

ล่าสุด “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” องค์กรสาธารณกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร ที่ก่อตั้งมานานถึง 115 ปี และมีนักธุรกิจรุ่นเก๋าในวัย 85 ปี “วิเชียร เตชะไพบูลย์” นั่งเป็นประธานกรรมการ มูลนิธิมีหน้าที่บริหารจัดการและดูแล “ศาลเจ้าไต้ฮงกง” ซึ่งเป็นศาลเจ้าแห่งแรกในประเทศไทย บนถนนพลับพลาไชย ที่ชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีนต่างรู้จักกันดี

ประกาศความพร้อมเตรียมจะเปิด “ศาลเจ้าไต้ฮงกง” แห่งใหม่ ภายในสิ้นปี 2567 หรือต้นปี 2568 บนทำเลทองเป็นแห่งที่ 2 ย่านถนนเจริญราษฎร์ (สาทรตัดใหม่) บริเวณซอยเจริญราษฎร์ 2 ติดกับสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ทำเลสามารถเชื่อมต่อถนนสาทร ถนนเจริญกรุง และถนนพระราม 3

ศาลเจ้าแห่งใหม่ มีพื้นที่กว้างขวางขนาด 4 ไร่ 17 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินของมูลนิธิ ขณะนี้การก่อสร้างและตกแต่งคืบหน้าไปมากกว่า 90% แล้ว เหลือเพียงการเก็บรายละเอียด

แหล่งข่าวในวงการที่ดิน เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หากประเมินเฉพาะราคาที่ดินตามราชการกำหนด ในทำเลดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 97,500 บาทต่อตารางวา คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 158 ล้านบาท

“ส่วนการซื้อขายที่ดินในราคาตลาดจะสูงกว่าราคาประเมินหลายเท่า ราคาจะอยู่ที่ 4 แสนบาทต่อตารางวา คิดเป็นมูลค่าที่ดินจะอยู่ที่ 700 ล้านบาท”

รายงานข่าวระบุอีกว่า ที่ดินทำเลย่านนี้ ตระกูลเก่าหลายตระกูลถือครองกรรมสิทธิ์จากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงตระกูล “เตชะไพบูลย์” ด้วย

กล่าวถึงการออกแบบก่อสร้าง “ศาลใหม่” นั้น ได้เน้นสถาปัตยกรรมจีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว โดยมีสถาปนิกชาวจีนและชาวไทย ร่วมมือกันออกแบบ

ประกอบด้วย 2 อาคาร ได้แก่ “อาคารศาลเจ้า” เป็นอาคารสูง 2 ชั้น

ชั้นที่ 1 จะเป็นโถงพักคอย รองรับประชาชนที่มาสักการบูชาหลวงปู่ไต้ฮงกง

ชั้นที่ 2 เป็นศาลเจ้าไต้ฮงกง ประดิษฐานองค์ไต้ฮงกงหยกขาวแกะสลักที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทย แท่นบูชาด้านซ้ายและขวา ประดิษฐานองค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (กวนอิมผ่อสัก) และพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ (ตี่จั๋งอ้วงผ่อสัก) พร้อมด้วยเทพเจ้าสำคัญของจีนอีก 8 องค์

ส่วนอีก 1 อาคารจะเป็นอาคารอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ พร้อมห้องรับบริจาคเงิน ห้องรับรอง และห้องน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับประชาชนที่เข้ามากราบไหว้สักการะองค์ไต้ฮงกงและจัดกิจกรรมต่าง ๆ

รวมถึงการใช้ประโยชน์ในกิจกรรมของมูลนิธิ มีห้องศาสนพิธีและปฏิบัติธรรม ห้องครัวที่ถูกสุขลักษณะ สามารถประกอบอาหาร เพื่อบริการแก่ประชาชนในวาระต่าง ๆ และเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของสำนักงานมูลนิธิด้วย

“วิเชียร” เคยกล่าวย้ำว่า ทางมูลนิธิมีความตั้งใจที่จะออกแบบสถาปัตยกรรมให้ดูดีเหมาะสม เพราะต้องการให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่บนถนนสาทร เพื่อให้บุคคลทั่วไปและนักท่องเที่ยวสายบุญจากทั่วโลกสามารถเดินทางมากราบสักการะหลวงปู่ไต้ฮงกงที่ประเทศไทยได้อย่างสะดวก สะอาด และปลอดภัย เพราะการคมนาคมคล่องตัว

เนื่องจากศาลเจ้าแห่งแรกที่ตั้งอยู่บนถนนพลับพลาไชย มีพื้นที่จำกัดและคับแคบเกินไป มีปัญหาการจราจรติดขัดตลอดวัน ยิ่งช่วงเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลมงคลอื่น ๆ ประชาชนคนรุ่นเก่า หรือแม้แต่คนรุ่นใหม่สายมูก็นิยมเดินทางไปกราบไหว้ขอพรและแก้ชงที่นี่

เช่นเดียวกับการกราบไหว้พระขอพรและแก้ชงที่ “วัดมังกรกมลาวาส” หรือ “วัดเล่งเน่ยยี่” ซึ่งเป็นวัดจีนที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในเยาวราช ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ตรงข้ามกับตลาดเก่าเยาวราช เยื้อง ๆ รถไฟฟ้า MRT

ซึ่งวัดนี้ก็ได้ขยับขยายทำเลจากในเมืองสู่นอกเมืองมาแล้ว โดยเปิด “วัดเล่งเน่ยยี่ 2” ย่านบางบัวทองเมื่อหลายปีก่อน ชื่อทางการ “วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์” ที่ดินเดิมเป็นโรงเจ วัดมีขนาดใหญ่โอ่โถง สถาปัตยกรรมแนวจีน ไม่ต่างกับศาลเจ้าใหม่ไต้ฮงกง

รายงานข่าวกล่าวว่า ที่ดินบนถนนพลับพลาไชย ที่ตั้งศาลไต้ฮงกงนั้นเป็นที่ดินเช่าระยะยาวขนาด 300 กว่าตารางวา เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2452 ปัจจุบันเจ้าของที่ดินและมูลนิธิ ได้ต่อสัญญาเช่าออกไปอีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ที่สำคัญ ในวันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2567 ที่จะถึงนี้ “วิเชียร เตชะไพบูลย์” ประธานกรรมการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมคณะกรรมการ ตระกูลดัง จะร่วมเปิดแถลงข่าวความคืบหน้าในรอบหลายปีของ “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” อันเป็นถาวรวัตถุอนุสรณ์ และเป็นพุทธสถานใหม่อีกแห่งของประเทศไทย ใจกลางกรุง

รวมถึงแผนงานและการดำเนินงานที่ผ่านมาของ “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” องค์กรสาธารณกุศลที่ใหญ่และเก่าแก่สุด