ไปส่งแล้วทิ้งเลย หลานโพสต์ ติง รพ. ยายยังอยู่ในชุด รพ. แขนซ้ายมีน้ำเกลือคาอยู่ ไม่รอรับกลับ ไม่แจ้งญาติให้เข้าใจ สสจ.บุรีรัมย์ สั่ง ผอ.รพ.ขอโทษญาติ
กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพส์ตภาพยายสวมใส่ชุด รพ.แขนข้างซ้าย ยังมีป้ายชื่อผู้ป่วย แขนข้างขวายังมีเข็มสำหรับให้น้ำเกลือคาอยู่ พร้อมระบุข้อความว่า “โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.กระสัง เนื่องจากคุณยายเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่เนื่องจากหมอยังไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ จึงแจ้งกับญาติว่า ต้องส่งตัวคุณยายไปสแกนคอมพิวเตอร์ ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์
ทางญาติเข้าใจว่าโรงพยาบาลจะส่งตัวไปสแกนแล้วรับกลับ แต่ปรากฏว่า โรงพยาบาลนำตัวคุณยายไปส่งที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แล้วกลับเลย ไม่ได้รอรับคุณยายกลับแต่อย่างใด ญาติจึงติดต่อสอบถามไปที่โรงพยาบาลดังกล่าว เจ้าหน้าที่แจ้งว่า โรงพยาบาลได้จำหน่ายคุณยายออกจากโรงพยาบาลแล้ว และไม่มีรถว่างที่จะไปรับ การไปส่งตัวไม่ใช่หน้าที่ของโรงพยาบาลดังกล่าว เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกเท่านั้น
เหตุใด ทำไมโรงพยาบาลไม่แจ้งญาติให้ชัดเจนแต่แรกว่า ได้จำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลแล้ว ให้ผู้ป่วยไปดำเนินการรักษาเองที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ญาติจะได้วางแผนการรับส่งได้ถูกต้อง ไม่ใช่แจ้งว่าจะส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แต่สุดท้ายแล้วโดนทิ้งให้อยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์
อีกทั้ง การจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล เป็นแบบนี้หรอครับ ในมือยังมีเข็มน้ำเกลือและมีสายอยู่ ยังใส่ชุดโรงพยาบาลอยู่ จึงไปรับคุณยายที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์เอง แล้วถ้าในกรณีผู้ป่วยคนอื่น ที่ไม่มีรถในการไปรับหรือไม่มีญาติที่จะไปรับ เขาต้องทำยังไงครับ ทั้งชุดโรงพยาบาลที่ใส่อยู่ ทั้งสายน้ำเกลือเต็มแขน ต้องทำยังไงครับ ผมเข้าใจการทำหน้าที่ของบุคลากรในโรงพยาบาลมากๆ แต่เมื่อได้สอบถาม กลับได้คำตอบที่ไม่น่ารักเท่าไหร่ ผมต้องขอใช้สิทธิในการร้องเรียนโรงพยาบาลแห่งนี้ต่อไปครับ
จากนั้น ผู้สื่อข่าว ติดต่อไปยังผู้โพสต์เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยผู้โพสต์ คือ นายวีรยุทธ ศิริเรืองประภา อาชีพทนายความ ซึ่งเป็นหลานของยาย บอกว่า สาเหตุที่โพส์ตเรื่องราวดังกล่าว เพราะรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ต้องการให้ รพ.รับผิดชอบ แต่อยากให้ปรับปรุงแก้ไข ทั้งเรื่องการสื่อสารให้เกิดความชัดเจนมากกว่านี้
รวมถึงการบริการส่งต่อผู้ป่วยควรประสานงานกับ รพ.อีกแห่ง และแจ้งญาติให้เข้าใจว่ารถ รพ.ต้นทางจะต้องรับผู้ป่วยกลับมาด้วยหรือไม่ หรือต้องให้ญาติไปรับเอง จะได้วางแผนในการไปส่งไปรับ แล้วพอไปส่งยายไว้ที่ รพ.ในตัวจังหวัด ยายก็ไม่ได้ตรวจสแกน แค่ให้ทำบัตรในระบบใหม่ แล้วให้ใบนัดมาตรวจสแกนวันหลัง
ทำให้คุณยายซึ่งอายุ 71 ปีแล้ว ต้องอดข้าวตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย เพราะคิดว่าต้องเข้าสแกน แล้วแม่ซึ่งไปเฝ้าคุณยายก็ต้องอดข้าวไปด้วย ที่สำคัญเมื่อไปสอบถาม รพ.ต้นทางกลับได้รับคำตอบว่าจำหน่ายผู้ป่วยออกจาก รพ.แล้ว ทั้งที่ยังอยู่ในชุด รพ.ยังมีป้ายชื่อผู้ป่วย และเข็มน้ำเกลือเต็มแขน
ที่สำคัญยายยังไม่หายสุดท้ายตนต้องพากลับไป รพ.ประจำอำเภอกระสัง ทำเรื่องเข้ารักษาตัวใหม่อีกรอบ และหลังจากที่โพส์ตมีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่าเคยเจอแบบนี้หลายเคส จึงอยากฝากให้ รพ.ปรับปรุงการให้บริการ และการสื่อสารให้ชัดเจนกว่านี้ จะได้ไม่เกิดเคสแบบนี้อีก
เพราะหากเกิดกับผู้ป่วยที่ญาติไม่มีรถไปรับ แล้วปล่อยให้ขึ้นรถโดยสารกลับมา รพ.ต้นทางเอง ในสภาพที่ยังอยู่ในชุดคนไข้มีเข็มน้ำเกลืออยู่ คนที่เห็นคงคิดว่าหนี รพ. ส่วนเรื่องการรักษาไม่ได้ติดใจเพราะแพทย์ พยาบาล ทำการรักษาอย่างดี
จากการสอบถาม นพ.พิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจ.บุรีรัมย์ ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งได้ให้ทาง ผอ.รพ.ประจำอำเภอดังกล่าว ไปขอโทษญาติและผู้ป่วย ซึ่งทาง รพ.ยอมรับว่าเกิดจากความผิดพลาดคลาดเคลื่อนเรื่องการสื่อสาร ซึ่งได้กำชับให้บุคลากรเจ้าหน้าที่ปรับปรุงทั้งเรื่องการสื่อสารและการบริการ ให้เกิดความรอบคอบชัดเจน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น