เร่งผลักดันการค้าเสรีไทย–ศรีลังกา มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า-การลงทุน
ข่าวสด March 28, 2025 11:09 PM

“สุชาติ” จับมือรัฐมนตรีการค้า และรัฐมนตรีต่างประเทศศรีลังกา เร่งผลักดันการค้าเสรี FTA ไทย–ศรีลังกา มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า-การลงทุน

เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการเดินทางเยือนศรีลังกา เมื่อวันที่ 27–28 มี.ค.2568 ตนและคณะผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายไพฑูรย์ มหาพัณณาภรณ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโคลัมโบ ได้พบหารือกับ Hon. Wasantha Samarasinghe รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า พาณิชย์ ความมั่นคงทางอาหาร และความร่วมมือสหกรณ์ และHon. Arun Hemachandra รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการจ้างงานต่างประเทศของศรีลังกา

โดยไทยได้ผลักดันให้ศรีลังกาเร่งดำเนินกระบวนการภายในประเทศ เพื่อให้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–ศรีลังกา มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า FTA ไทย-ศรีลังกา จะเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุน รวมทั้งจะช่วยส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจให้กับภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย

“FTA ไทย – ศรีลังกา จะเป็นก้าวแรกที่เปิดประตูให้ภาคเอกชน และนักลงทุนไทยได้รู้จักศรีลังกาเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเดินทางมาศรีลังกา มีความสะดวกสบายใช้เวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวชาวไทยจะหลั่งไหลมาเยือนศรีลังกาได้มากขึ้น และได้มาเห็นถึงศักยภาพ ด้านการลงทุนและการท่องเที่ยวของศรีลังกา

ซึ่งมีที่ตั้งยุทธศาสตร์ในมหาสมุทรอินเดีย และมีพื้นที่รองรับการลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศอีกมาก อันจะนำมาซึ่งการลงทุนจากไทย โดยเฉพาะในสาขาด้านการท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม และโรงพยาบาล ซึ่งนักลงทุนไทยมีความชำนาญเป็นอย่างมาก การลงทุนจะช่วยเพิ่มการจ้างงาน และรายได้ให้กับชาวศรีลังกา ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวศรีลังกาได้อย่างแท้จริง” นายสุชาติกล่าว

นอกจากนี้ ด้วยความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างยาวนาน ระหว่างไทยกับศรีลังกา ทั้งในด้านพุทธศาสนา และประชาชนของทั้งสองประเทศ ไทยจึงพร้อมให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ศรีลังกา ในสาขาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่ได้บรรจุไว้ใน FTA ฉบับนี้ โดยเฉพาะในสาขาที่ศรีลังกาต้องการ

อาทิ เกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร การบรรจุภัณฑ์ SME สาธารณูปโภคพื้นฐาน และเทคโนโลยีสารสนเทศ ผ่านการดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคเอกชนศรีลังกา ในการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานโลก และการลงทุนของนักลงทุนไทย ขณะเดียวกัน ตนได้ขอให้ศรีลังกาพิจารณายกเลิกข้อกำหนดในการขอใบอนุญาตนำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทย ซึ่งจะทำให้การค้าสองฝ่ายสามารถดำเนินไปได้อย่างเป็นปกติ

นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่าตนยังได้ชื่นชมการดำเนินนโยบาย “Clean Sri Lanka” ของรัฐบาลศรีลังกาที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของภาครัฐศรีลังกาให้มีความโปร่งใส ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักธุรกิจและนักลงทุนชาวไทยได้เป็นอย่างมาก

ศรีลังกา เป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยในปี 2567 การค้ารวมมีมูลค่า 438.70
ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกของไทย 313.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ ยางพารา อัญมณีและเครื่องประดับ ผ้าผืน เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์

และการนำเข้าจากศรีลังกามีมูลค่า 124.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญจากศรีลังกา อาทิ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องประดับอัญมณี เคมีภัณฑ์ โดยไทยได้เปรียบดุลการค้ามูลค่า 188.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.