คนไทยคนแรก! “ขวัญ อุษามณี” เจอแผ่นดินไหว แต่ไม่วิ่งหนี ไลฟ์สดแต่งหน้า ปักตะกร้าขายของจนจบ รู้เป็นตัวอย่างไม่ดี ควรห่วงชีวิตตัวเองก่อน

เป็นอีกหนึ่งคนที่เจอเหตุการณ์ระทึกขณะแผ่นดินไหว สำหรับนางเอกสาว ขวัญ อุษามณี ล่าสุดวันนี้ (3 เม.ย.68) เธอมาร่วมงาน Fin Stars Market บริเวณ M GRAND HALL ชั้น G เดอะมอลล์ไลฟิสโตร์ บางกะปิ และได้เล่าให้ฟังว่า เธอไม่ได้วิ่งเหมือนคนอื่นๆ

แผ่นดินไหวนั่งไลฟ์อยู่? “แผ่นดินไหว หนูก็ไม่ค่อยสะท้านเท่าไหร่ยังนั่งแต่งหน้าอยู่เลย คือขวัญอาจจะติดสวยมากไปก็เลยไม่ได้ไปโฟกัสเรื่องความปลอดภัยชีวิตเท่าไหร่ก็โฟกัสอย่างเดียวว่าปากไม่สวยปากไม่ติดทนไม่มีคิ้วห้ามออกจากบ้าน อันนี้ไม่ดีนะคะเป็นตัวอย่างไม่ดีต้องเอาเรื่องร่างกายเรื่องชีวิตเป็นหลักก่อน

คือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ขอไปแบบสวยๆ ก่อน ขณะนั้นที่ขวัญกำลังไลฟ์จะมีพี่ๆ ลูกค้าทุกคนที่เขาเข้ามาทักว่าสีนี้สีอะไรสวยจัง เราก็ยังมานั่งสวอชสีอยู่เลย เราจะมาทิ้งพี่แฟนคลับไปได้ไง คือเขากำลังจะจะมาซื้อลิปเราอ่ะนึกออกป่ะ แล้วคนกำลังชมว่าลิปเราอ่ะดีมาก แล้วพอเราจะเดินออกไปแล้วมันขาดตอน คืออำนาจพลังแฟนคลับมันขึ้นสูงมากกว่าพลังแผ่นดินไหว หนูก็เลยยังทิ้งทุกคนไปไหนไม่ได้ แล้วทุกคนก็ไม่ทิ้งหนูนะ ทุกคนก็ยังถามถึงการสวอชสีลิปอยู่ ไม่มีใครบอกว่าขวัญวิ่งขวัญไป

หนูไม่ได้ห่วงเงินแต่ว่าเขาถามสินค้า เราก็ไม่ได้ห่วงขายแต่เราอยากจะโชว์ของ แล้วคือเวลาที่เราทำอะไรเป็นของตัวเองแล้วคนมาชมโปรดักซ์เรา มันก็ลืมไปเลยว่าเรากำลังจะตาย แล้วมันก็จะมีความสุขเวลาคนมาชมของเรา แต่คราวหน้าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่ต้องชมของหนูเยอะ ให้บอกว่าขวัญวิ่ง

คือขณะนั้นมันไม่ได้มีอะไรคิดเข้ามาในหัวเลยว่าแผ่นดินไหวแล้วจะต้องวิ่งไปไหนก่อน เพราะว่าเกิดมาขวัญก็ยังไม่เคยเจอและความรู้เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มันค่อนข้างน้อย เรารู้อย่างเดียวว่าประเทศไทยก็คือมีสึนามิฉันต้องไปอยู่ที่สูงๆ ฉันต้องวิ่ง แต่เราไม่ได้มีความรู้ว่าถ้าเกิดแผ่นดินไหวแล้วจะต้องไปอยู่ไหน เราก็แค่รู้ว่าลูกค้าชมเราสีลิปเรา สีไหนสวยเราก็โชว์ปักตะกร้าต่อ แต่คือน่าจะต้องมีสติมากกว่านี้นอกจากอวดลิป”

แล้วเราจะจบไลฟ์ยังไง? “ก็ไม่ได้วิ่งค่ะ ไลฟ์จนแต่งหน้าจบปักตะกร้าได้ฉ่ำ ก็มีคนส่งมาถามแผ่นดินไหวเป็นยังไงบ้าง ก็ยังไงก็นั่งอวดลิปอยู่ก็ยังไม่ว่างตอบ แม่ขวัญก็คือนั่งไขว้ขาอยู่ข้างล่าง แม่ยังมีความชงน้ำขิงชิม แล้วคือขวัญเดินลงไปหาแม่ แล้วแม่เขาก็บ่นว่าน้ำขิงอันนี้ไม่ดีเลยกินแล้วเวียนหัว เพราะแม่เราเป็นเบาหวานไง เขาก็คงคิดว่าน้ำตาลตกก็ยังไม่ได้บอกว่าแม่ว่าแผ่นดินไหว กลัวเขาตกใจก็บอกให้แม่ขึ้นรถไปหาหมอ”

แฟนโทรมาไหม? “วกเรื่องนี้ได้ไง วกไม่ได้สิ (หัวเราะ) คือไม่มี ไม่มี มีแต่น้องๆ ในออฟฟิศ”

แล้วบ้านเราไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม? “สาธุ คือขวัญยังไม่ได้กล้าเดินดูเลยแต่ก็น่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอให้ทุกคนปลอดภัย คือขวัญเพิ่งมารู้สึกผวาตอนที่ขวัญเดินทางไปที่หน้างานที่เกิดเหตุเพราะว่าขวัญรู้จักกับพี่ที่เขาอยู่หน่วยกู้ภัย ขวัญก็ได้มีโอกาสไปลงพื้นที่ตรงนั้นแล้วเอาของไปช่วยเหลือเบื้องต้น ก็พึ่งมาอยู่ตรงนั้นแหละที่ขวัญเห็นกับตาว่ามันหนักขนาดนี้เลย

คือการทำงานมันก็ยากด้วยเนื่องจากคำว่าไม่รู้ เราก็อาจจะขาดในเรื่องของคนประสานวันแรกๆ อาจจะไม่มีผู้นำทีมอาจจะมีทีมไปแต่ละทีม ไม่มีคนคอยสเก็ตว่าภาพแผ่นใหญ่เราจะต้องออกมาแบบไหน สเต็ป 2-3-4 แต่ว่าสิ่งที่ขวัญเห็นก็คือทุกคนทุกหน่วย ทหารตำรวจหรือพี่ๆ หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูหรือทางมูลนิธิต่างๆ ทุกคนก็รวมใจเป็นหนึ่งเดียว แล้วก็รวมถึงน้อง k9 ที่ขวัญมีโอกาสไปเจอน้องๆ ก็รู้สึกสงสาร ตอนกลางคืนเป็นเวลาพักผ่อนเขาแต่ว่าเขาก็มาช่วยทุกคนมันก็เลยตอกย้ำว่าคนไทยเราไม่ทิ้งกัน”

แล้วเรามีมาตรการดูแลตัวเองยังไง เพราะว่าเขาก็มีให้เฝ้าระวังอยู่? “อาฟเตอร์ช็อกก็คือพยายามหาความรู้เพิ่มเติมว่าถ้าเกิดเกิดเรื่องแบบนี้เราจะควรเอาตัวเราไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยอย่างน้อยเราควรจะได้รวมกลุ่มคนที่เขาไม่รู้เหมือนกับเรา อย่าเหมือนช่วงต้นที่มานั่งทาลิปสติกก็ควรจะให้ไปนั่งอยู่ในที่ปลอดภัย แล้วที่สำคัญองค์ความรู้ที่รัฐบาลจะต้องเผยแพร่ในเรื่องของ know how ควรจะต้องมีมากกว่านี้ อาจจะต้องมีการแจ้งหรือให้เราเตรียมแผนหรือการเตรียมตัวได้มากกว่านี้ เพราะว่าตอนนั้นไม่มีอะไรที่บอกเราเลยรวมทั้งสื่อรวมถึงสัญญาณโทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ด้วย อาจจะต้องเปลี่ยนแผนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว เราจะต้องเตรียมแผนทั้งบูรณาการทุกหน่วยทุกเหล่าว่าเตรียมการยังไงให้ประชาชนได้รู้ข่าวเบื้องต้น”

คือเฝ้าระวังเอาไว้ให้ดีๆ ที่สุด จิ้งจกตัวนึงอ่ะเรายังหยุดเลย แต่อันนี้ไม่ว่าจะเป็นหมอดูผู้รู้ในเรื่องของวิชาชีพต่างๆ ถ้าเกิดมีท่านไหนที่ออกมาเตือน เราเป็นผู้ฟังเราก็แค่ฟังแล้วบอกต่อก็ไม่เสียหาย มันก็ไม่เสียหายกับการที่เราระมัดระวัง อย่างน้อยเราก็ได้ความรู้เพิ่ม ถ้ามันเกิดขึ้นจริงเราก็จะได้ความรู้เพิ่มเติมเข้ามาในชีวิตเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามันไม่จริงเดี๋ยววันนึงเราก็ลืมแต่เราก็ต้องคัดกรองเพราะว่ามันก็จะมีทั้งข่าวจริงข่าวเท็จ”

ล่าสุดไปมูมา? “เราจะสวยอย่างเดียวไม่ได้ เราก็ต้องเป็นภาระกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหนเราจะไปเรียกท่านมาไม่ได้ เราต้องไปหาท่านอันนี้ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ขวัญไป จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เขาสร้างขึ้นมาใหม่อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ใครที่ไม่สะดวกเดินทางไปที่อินเดียก็สามารถไปที่นี่ได้ และเป็นครั้งแรกของขวัญเพราะว่าขวัญไม่เคยทำพิธีแบบนี้มาก่อน ใครที่ศรัทธาองค์พ่อพระพิฆเนศ พระศิวะ ก็สามารถไปที่นี่ได้เลยค่ะ อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ขวัญก็ขอธุรกิจขอเงินทองเรื่องธุรกิจเรื่องทรัพย์ (ได้ขอความรักไหม?) เขาให้ขอได้เรื่องเดียวแล้วก็เราขอเรื่องเงินเพราะเงินเท่านั้นที่จะน็อคเอวี่ติง แต่เราขอแบบพอเพียงให้เราอยู่ได้ไม่ติดขัด ไม่ขัดสน มีเงินเลี้ยงดูแลพนักงานในออฟฟิศเรา”.