จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา (28 มี.ค. 68) ซึ่งมีความรุนแรงขนาด 8.2 ลึก 10 กม. พร้อมกับเกิดแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพฯ จนเกิดโศกนาฏกรรมอาคารก่อสร้าง สตง. ถล่มลง ซึ่งทำให้มีผู้สูญหายและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

(4 เม.ย. 68) ศูนย์การค้นหาฯ และผู้เชี่ยวชาญ ยังคงดำเนินการค้นหาผู้ที่มีโอกาสรอดชีวิต บริเวณโถงบันไดข้างปล่องลิฟท์ในพื้นที่ Zone B ซึ่งตรวจพบสัญญาณการตอบรับการมีชีวิต โดยใช้กำลังคน จาก USAR, อาสาสมัครกู้ภัย, กองทัพบก พร้อม เครื่องมือจักรกล เช่น Jack Hammer, เครื่องตัดถ่าง ทำการเจาะช่องลงทางด้านบนกองซากอาคาร โดยมีเป้าหมายจะพยายามให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ พร้อมทำการเจาะช่องอุโมงค์เพิ่มเติม ในพื้นที่ Zone C ค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ด้วยรถโกยตัก และกำลังคน จากทีมอาสาสมัครกู้ภัย,ปภ.และทหารช่างกองทัพบก (กช.)

ในส่วนของเครื่องจักรหนัก ในช่วงกลางวันถูกกำหนดให้ปฏิบัติงานอย่างจำกัดในพื้นที่ลานด้านหน้า (ระหว่าง Zone A, D) ในการย่อยเศษวัสดุเท่านั้น เพื่อลดการสั่นสะเทือนอันอาจก่อให้เกิดอันตรายกับทีมกู้ภัยที่ปฏิบัติงาน และในห้วงค่ำได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้อย่างเต็มขีดความสามารถ

ขณะเดียวกัน หน่วย ช. ทบ. ได้ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ด้วยรถบดหินตัดเหล็ก รื้อซากอาคาร และรถไฟฟ้าส่องสว่าง ช่วยให้แสงสว่างในการปฏิบัติเวลากลางคืน พร้อมได้รับการร้องขอให้สนับสนุน รถโกยตักเพิ่มเติม 1 คัน พร้อม รยบ.10 ตัน เทท้าย 5 คัน ขนย้ายเศษวัสดุออกจากพื้นที่ พร้อมสนับสนุนรถดับเพลิงในอาคารด้วยระบบควบคุมระยะไกล LUF 60 พ่น Spray น้ำ ลดฝุ่น ในระหว่างการรื้อซากอาคาร และจัดกำลังพลทหารช่างร่วมเป็นชุดเจาะช่องค้นหา ปฏิบัติงานร่วมกับอาสาสมัคร และทีมผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ และอิสราเอล

โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียง “ช่วยด้วย” นับตั้งแต่คืนวันที่ 2 เม.ย. 68 ก็ได้เร่งปฏิบัติการขุดเจาะ โดยใช้เครื่องจักรและแรงเจ้าหน้าที่ จนข้ามสู่วันที่ 3 เม.ย.68 จึงพบทางตัน

เจ้าหน้าที่จึงส่งเหล่าสุนัข K9 เข้าสำรวจพื้นที่อีกครั้ง ก่อนจะเห่าและวิ่งวน คล้ายส่งสัญญาณบอกมีชีวิตรอดอยู่ในนี้ แต่สุดท้ายสุนัข K9 ไม่สามารถเข้าพื้นที่นั้นได้ เพราะพื้นที่แคบ

โดยล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้วางแผนภารกิจในการใช้เครื่องจักรหนัก ระดมเจาะ ขุด โซน A C D เข้าหากัน เพื่อทะลวงหาจุดเชื่อมไปสู่ โซน B