เสียงร่ำไห้ระงม ฌาปนกิจ ‘อรอุมา’ เหยื่อตึกถล่ม หนุ่มลูกจ้าง รอดชีวิต บวชหน้าไฟอุทิศส่วนกุศลให้นายจ้าง

จากกรณีการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างพังถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 28 มี.ค. โดยเหตุการณ์นี้มีชาว จ.ขอนแก่น สูญหายอย่างน้อย 7 ราย หนึ่งในนั้นคือครอบครัวชาวชุมชนพรานราษฎร์ ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ที่มีสมาชิกในครอบครัวสูญหาย 2 ราย คือ น.ส.อรอุมา อายุ 36 ปี และนายดำรงณ์ อายุ 40 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยานั้น

อ่านข่าว – พบแล้ว ร่าง ‘อรอุมา’ หญิงชาวขอนแก่น ตึก สตง.ถล่มทับเสียชีวิต ครอบครัวรอพากลับบ้าน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 เมษายน ที่เมรุวัดโพธิ์ธาตุ บ้านชุมแพ หมู่ 10 ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น นายบุญธรรม อายุ 68 ปี นางกุลรัตน์ อายุ 60 ปี บิดาและมารดา พร้อมด้วยบรรดาญาติพี่น้อง ได้ร่วมกันประกอบพิธีฌาปนกิจส่งดวงวิญญาณของ น.ส.อรอุมา หรือ “ปลา” อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้นำร่างของ น.ส.อรอุมา กลับมาหาครอบครัวที่บ้านเกิด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา และได้มีการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 1 คืน

โดยวันนี้ทางจังหวัดขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น น.ส.อ้อยใจ คำบุญเรือง นายอําเภอชุมแพ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเป็นประธานและทอดผ้าไตรมหาบังสุกุลและวางดอกไม้จันทน์บนโลงศพของผู้เสียชีวิต ท่ามกลางความอาลัยของครอบครัวและชาวบ้าน โดยวันนี้ นายอำไพ อายุ 78 ปี ตาของนายเจษฎา หรือฟาส อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่สูญหาย และ ด.ญ.อิศรา หรือน้องนุ่ม อายุ 15 ปี น้องสาวของน้องฟาส ได้เดินทางมาจากบ้านโคกม่วง หมู่ 8 ต.ขัวเรียง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เพื่อร่วมพิธีด้วย

ขณะที่นายพีรพล หรือ “เปา” อายุ 30 ปี ชาว อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นลูกจ้างของผู้เสียชีวิตและรอดตายจากเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่มมาได้อย่างหวุดหวิด เนื่องจากนายจ้างได้ใช้ให้ลงจากตึกชั้น 27 ไปเอากระติกน้ำที่อยู่ชั้นล่าง ได้เข้าพิธีบวชหน้าไฟเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับนายจ้าง

นายพีรพลเปิดเผยว่า การบวชครั้งนี้ก็เพื่อต้องการตอบแทนพระคุณของผู้เสียชีวิต เป็นทั้งนายจ้างและเป็นพี่ที่รักเหมือนครอบครัว โดยหลังจากเสร็จพิธีในวันนี้ตนเองก็จะลาสิกขาก่อน เพื่อที่จะไปเดินเรื่องเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจึงจะกลับมาบวชอีกครั้งเพื่อเป็นการแก้บน เนื่องจากพ่อและแม่ได้บนบานเอาไว้ว่า หากตนเองปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะให้ลูกชายบวชเป็นเวลา 7 วัน จึงได้ทำตามที่ตั้งใจและบนบานเอาไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่บรรดาแขกและชาวบ้านขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์จนแล้วเสร็จ น.ส.อารยา ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ได้เดินขึ้นมายังแท่นโลงศพของผู้เป็นแม่ด้วยความอาลัย ก่อนที่จะใช้มือเคาะโลงศพ บอกลาผู้เป็นแม่ว่า “แม่ แม่ไปดีนะแม่ ไม่ต้องห่วงน้องตาลนะ ไม่ต้องเป็นห่วง” จากนั้นนายบุญธรรม พ่อของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยชาวบ้านก็ได้ช่วยกันยกโลงศพผู้เสียชีวิตเข้าไปยังเตาเผาศพ เพื่อส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความอาลัย

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ ด.ญ.อิศรา หรือน้องนุ่ม น้องสาวของน้องฟาส ว่า ทางครอบครัวยังเฝ้ารอว่าจะได้พบกับพี่ชาย ไม่ว่าจะในสภาพใดก็ตาม เพราะขณะนี้ผ่านมาหลายวันแล้ว แม้จะมีความหวังแต่ทางครอบครัวก็ทำใจไว้แล้ว อยากให้เจอพี่ชายเร็วๆ อยากให้พี่ชายได้กลับมาบ้านเรา โดยขณะนี้ตนเองและตาอำไพได้แต่เฝ้ารอฟังการแจ้งข่าวจากแม่และญาติที่อยู่ กทม. ซึ่งก็ยังไม่พบพี่ชาย ตอนนี้เป็นห่วงตาอำไพมาก เพราะตั้งแต่เกิดเหตุตาทานข้าวน้อยและนอนไม่ค่อยหลับ เพราะเป็นห่วงพี่ฟาส